
Sign up to save your podcasts
Or


คอร์สอานาปานสติ วันที่ 20-23 มิ.ย. 67 ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตติวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผาราม วรวิหาร
เมื่อวานได้พูดเรื่อง ๒ เรื่อง คือ
๑. ให้ความสําคัญกับศีล ในฐานะเป็นตัวคอยประคองให้จิตตั้งมั่น
๒. การดูจิตตสังขารในชีวิตประจําวัน
คิดว่าตอนตื่นนอนวันนี้ หลายคนก็คงได้ดูแล้ว แต่ไม่ได้ชัดในรูปแบบของความคิด คือ พอดูแล้วก็อยากจะเห็นว่าชัดๆจริงๆความคิดมันเป็นอย่างไร? เวลาเราดูแรกๆมันไม่ชัดนะแต่มันรู้ว่ามีอยู่ สิ่งที่ถูกคิดถึง ใจไม่ได้ไปดูอันนั้น แต่ใจดูตัวที่มันคิด แต่ ณ แรกๆ เราก็ไม่รู้หรอกว่ารูปร่างหน้าตามันเป็นอย่างไร แต่มันมีอยู่ ให้รู้อย่างนั้นก่อน
การดูความคิดให้ดูอะไร? คือ ทุกอย่างเป็นจิตตสังขารหมด สิ่งที่เกิดอยู่กับใจเป็นจิตตสังขาร ในจิตตสังขารจะมี 3 ส่วน
เราดูแค่ส่วนที่เป็นอกุศลก่อนเพราะมันดูง่ายที่สุด กิเลสทั้งหมดที่เติบโตขึ้นมาเป็นอารมณ์ ที่ทรงจิตทรงใจของเราไว้ ไม่ว่าความโกรธ ความยินดี ราคะ ความกําหนัด อิจฉาริษยา ความฟุ้งซ่าน ความเดือดดาล ความรําคาญใจ ทั้งหมดที่เป็นอกุศลเหล่านี้ คือ จิตตสังขาร ดูสิ่งที่เป็นอกุศลมันจึงดูง่าย
เราดูจิตตสังขารในส่วนที่เป็นอกุศล ถ้าเราดูแล้วตัวที่ดูมันจะกั้นจิตไว้ข้างใน ตัวที่ดูก็จะเป็นสติ พอดูแล้วอกุศลเหล่านั้น จิตไม่อยู่ในอํานาจของอกุศลแล้ว เพราะไม่เข้าไปเสวยอารมณ์ ตัวอกุศลที่จิตดูอยู่ก็จะดับไป การดับไปของอกุศลด้วยการดูของจิตก็จะเป็นกุศลวิบากทันที ไม่ต้องไปทําดีอะไรนะ แค่ไม่ให้ใจไปอยู่ในอํานาจของจิตตสังขารในส่วนที่เป็นอกุศล ไม่ให้ใจไปอยู่ในอํานาจของความโกรธ ไม่ให้ใจไปอยู่ในอํานาจของความอิจฉาริษยา และใจดูจิตตสังขารนั้น เมื่อจิตตสังขารที่เป็นอกุศลนั้นดับ มันก็จะเป็นกุศลวิบากกับจิตทันที
พอดูตัวนี้ได้มันก็จะรู้สภาวะของจิตตสังขาร เวลาเราดูจิตตสังขารส่วนที่เป็นอกุศล เวลามันดูปั๊บมันจะกั้นแยกออกมาเป็น 2 สภาวะอย่างชัดเจน คือ จิตที่อยู่ข้างใน ตัวดูที่ทําหน้าที่ดู และ ตัวจิตตสังขาร คือ อกุศลตัวนั้นที่เป็นสิ่งที่ถูกดู ถ้าแยกชัดอย่างนี้ ต่อไปจะเห็นจิตตสังขารที่ละเอียดได้ง่ายขึ้น เราจะต้องดูตัวหยาบก่อน ตัวที่เห็นได้ง่ายก่อน ตัวที่เห็นชัดก่อน ซึ่งมันก็เกิดเยอะมากที่จะให้เราดู
เช้าขึ้นมา มีจิตตสังขารที่เป็นอกุศลหรือยัง? นิวรณ์ทั้ง 5 ที่เกิดขึ้น เป็นอกุศลหรือกุศล? เป็นอกุศล เจตนาที่เคลื่อนไหว อายตนะเคลื่อนไหวด้วยกําลังแห่งนิวรณ์ เป็นกุศลหรืออกุศล? เป็นอกุศล
นั่นมันก็เป็นจิตตสังขารที่เป็นอกุศล เราก็ดูมัน
ถ้าเราไม่ดูเรื่องนี้มันจะไม่เข้าไปสู่ความละเอียดแห่งจิต แล้วมันจะไม่ไปกระทบกระเทือนต่ออนุสัย ไม่สามารถที่จะไปแตะอาสวะได้ ตอนนี้อาสวะกับอนุสัยโดนเราแตะกันมาเยอะมากด้วยอาตาปี อาตาปี คือ ความเพียรที่มันแผดเผานี้มันกระทบกระเทือนต่ออาสวะและอนุสัยแต่มันไม่ได้ปัญญา เพราะเราแตะด้วยความตั้งมั่นด้วยสมาธิ เราให้จิตนิ่งรู้เฉยอยู่อย่างอิสระแล้วก็ดูลม ความเพียรที่เรารู้ลมนี้ มันจะเกิดเป็นอาตาปี คือ แผดเผา อนุสัยและอาสวะที่มีอยู่ไม่ได้ออกมาทําหน้าที่ แต่ทําอย่างนี้มันคือการข่ม ซึ่งมันจําเป็นที่สุดที่เราจะต้องข่มไว้เพื่อที่จะเอามาบ่มความตั้งมั่น แล้วความตั้งมั่นเอามาทําอะไร? มาดูจิตตสังขาร เมื่อเราดูจิตตสังขารในส่วนที่เป็นอกุศล นั่นคือเป็นกุศลขึ้นมาทันที เพราะจะตกเป็นกุศลวิบากทุกขณะของจิตที่เคลื่อนไหว
มรรคจะเจริญได้ ด้วยการดูอกุศลมันดับ พออกุศลดับตกมาเป็นกุศลวิบาก กุศลวิบากที่เกิดที่จิตบ่อยๆจะเป็นตัวที่ทําให้ศีล สมาธิ ปัญญาเกิดเป็นตัวเดียวกัน พอมันรวมกันแล้วก็เลยเป็นมรรค พอที่อยู่ข้างในเป็นมรรค เวลาเคลื่อนไหวก็เคลื่อนไหวด้วยมรรคตามกําลังของความตั้งมั่นที่มี เพราะฉะนั้นทุกข์จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยในการดูแลของมรรค ตามกําลังความตั้งมั่น ทุกข์จะเกิดได้ก็ต่อเมื่อมรรคดูแลไม่ได้เราต้องเจริญทําทั้ง 3 ส่วน คือ
ทํา 3 อย่างนี้ มรรคก็จะเจริญขึ้น
#พระกิตติวิมลเมธี #วัดบุปผาราม #มัชฌิมาปฏิปทา #จิตตสังขาร #มรรค #อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน#ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน
By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)คอร์สอานาปานสติ วันที่ 20-23 มิ.ย. 67 ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตติวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผาราม วรวิหาร
เมื่อวานได้พูดเรื่อง ๒ เรื่อง คือ
๑. ให้ความสําคัญกับศีล ในฐานะเป็นตัวคอยประคองให้จิตตั้งมั่น
๒. การดูจิตตสังขารในชีวิตประจําวัน
คิดว่าตอนตื่นนอนวันนี้ หลายคนก็คงได้ดูแล้ว แต่ไม่ได้ชัดในรูปแบบของความคิด คือ พอดูแล้วก็อยากจะเห็นว่าชัดๆจริงๆความคิดมันเป็นอย่างไร? เวลาเราดูแรกๆมันไม่ชัดนะแต่มันรู้ว่ามีอยู่ สิ่งที่ถูกคิดถึง ใจไม่ได้ไปดูอันนั้น แต่ใจดูตัวที่มันคิด แต่ ณ แรกๆ เราก็ไม่รู้หรอกว่ารูปร่างหน้าตามันเป็นอย่างไร แต่มันมีอยู่ ให้รู้อย่างนั้นก่อน
การดูความคิดให้ดูอะไร? คือ ทุกอย่างเป็นจิตตสังขารหมด สิ่งที่เกิดอยู่กับใจเป็นจิตตสังขาร ในจิตตสังขารจะมี 3 ส่วน
เราดูแค่ส่วนที่เป็นอกุศลก่อนเพราะมันดูง่ายที่สุด กิเลสทั้งหมดที่เติบโตขึ้นมาเป็นอารมณ์ ที่ทรงจิตทรงใจของเราไว้ ไม่ว่าความโกรธ ความยินดี ราคะ ความกําหนัด อิจฉาริษยา ความฟุ้งซ่าน ความเดือดดาล ความรําคาญใจ ทั้งหมดที่เป็นอกุศลเหล่านี้ คือ จิตตสังขาร ดูสิ่งที่เป็นอกุศลมันจึงดูง่าย
เราดูจิตตสังขารในส่วนที่เป็นอกุศล ถ้าเราดูแล้วตัวที่ดูมันจะกั้นจิตไว้ข้างใน ตัวที่ดูก็จะเป็นสติ พอดูแล้วอกุศลเหล่านั้น จิตไม่อยู่ในอํานาจของอกุศลแล้ว เพราะไม่เข้าไปเสวยอารมณ์ ตัวอกุศลที่จิตดูอยู่ก็จะดับไป การดับไปของอกุศลด้วยการดูของจิตก็จะเป็นกุศลวิบากทันที ไม่ต้องไปทําดีอะไรนะ แค่ไม่ให้ใจไปอยู่ในอํานาจของจิตตสังขารในส่วนที่เป็นอกุศล ไม่ให้ใจไปอยู่ในอํานาจของความโกรธ ไม่ให้ใจไปอยู่ในอํานาจของความอิจฉาริษยา และใจดูจิตตสังขารนั้น เมื่อจิตตสังขารที่เป็นอกุศลนั้นดับ มันก็จะเป็นกุศลวิบากกับจิตทันที
พอดูตัวนี้ได้มันก็จะรู้สภาวะของจิตตสังขาร เวลาเราดูจิตตสังขารส่วนที่เป็นอกุศล เวลามันดูปั๊บมันจะกั้นแยกออกมาเป็น 2 สภาวะอย่างชัดเจน คือ จิตที่อยู่ข้างใน ตัวดูที่ทําหน้าที่ดู และ ตัวจิตตสังขาร คือ อกุศลตัวนั้นที่เป็นสิ่งที่ถูกดู ถ้าแยกชัดอย่างนี้ ต่อไปจะเห็นจิตตสังขารที่ละเอียดได้ง่ายขึ้น เราจะต้องดูตัวหยาบก่อน ตัวที่เห็นได้ง่ายก่อน ตัวที่เห็นชัดก่อน ซึ่งมันก็เกิดเยอะมากที่จะให้เราดู
เช้าขึ้นมา มีจิตตสังขารที่เป็นอกุศลหรือยัง? นิวรณ์ทั้ง 5 ที่เกิดขึ้น เป็นอกุศลหรือกุศล? เป็นอกุศล เจตนาที่เคลื่อนไหว อายตนะเคลื่อนไหวด้วยกําลังแห่งนิวรณ์ เป็นกุศลหรืออกุศล? เป็นอกุศล
นั่นมันก็เป็นจิตตสังขารที่เป็นอกุศล เราก็ดูมัน
ถ้าเราไม่ดูเรื่องนี้มันจะไม่เข้าไปสู่ความละเอียดแห่งจิต แล้วมันจะไม่ไปกระทบกระเทือนต่ออนุสัย ไม่สามารถที่จะไปแตะอาสวะได้ ตอนนี้อาสวะกับอนุสัยโดนเราแตะกันมาเยอะมากด้วยอาตาปี อาตาปี คือ ความเพียรที่มันแผดเผานี้มันกระทบกระเทือนต่ออาสวะและอนุสัยแต่มันไม่ได้ปัญญา เพราะเราแตะด้วยความตั้งมั่นด้วยสมาธิ เราให้จิตนิ่งรู้เฉยอยู่อย่างอิสระแล้วก็ดูลม ความเพียรที่เรารู้ลมนี้ มันจะเกิดเป็นอาตาปี คือ แผดเผา อนุสัยและอาสวะที่มีอยู่ไม่ได้ออกมาทําหน้าที่ แต่ทําอย่างนี้มันคือการข่ม ซึ่งมันจําเป็นที่สุดที่เราจะต้องข่มไว้เพื่อที่จะเอามาบ่มความตั้งมั่น แล้วความตั้งมั่นเอามาทําอะไร? มาดูจิตตสังขาร เมื่อเราดูจิตตสังขารในส่วนที่เป็นอกุศล นั่นคือเป็นกุศลขึ้นมาทันที เพราะจะตกเป็นกุศลวิบากทุกขณะของจิตที่เคลื่อนไหว
มรรคจะเจริญได้ ด้วยการดูอกุศลมันดับ พออกุศลดับตกมาเป็นกุศลวิบาก กุศลวิบากที่เกิดที่จิตบ่อยๆจะเป็นตัวที่ทําให้ศีล สมาธิ ปัญญาเกิดเป็นตัวเดียวกัน พอมันรวมกันแล้วก็เลยเป็นมรรค พอที่อยู่ข้างในเป็นมรรค เวลาเคลื่อนไหวก็เคลื่อนไหวด้วยมรรคตามกําลังของความตั้งมั่นที่มี เพราะฉะนั้นทุกข์จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยในการดูแลของมรรค ตามกําลังความตั้งมั่น ทุกข์จะเกิดได้ก็ต่อเมื่อมรรคดูแลไม่ได้เราต้องเจริญทําทั้ง 3 ส่วน คือ
ทํา 3 อย่างนี้ มรรคก็จะเจริญขึ้น
#พระกิตติวิมลเมธี #วัดบุปผาราม #มัชฌิมาปฏิปทา #จิตตสังขาร #มรรค #อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน#ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน