
Sign up to save your podcasts
Or


การซื้อสินค้าผ่านทางไลฟ์สตรีมมิงหรือไลฟ์สด กำลังเป็นที่นิยมในประเทศจีน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การใช้(AI) ในการสร้างนักไลฟ์สดเสมือนจริง ซึ่งกระแสดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่อาจจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัวลงอย่างหนักในขณะนี้
รายงานของแมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี (McKinsey & Company) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษารายใหญ่ระดับโลกระบุว่า ยอดขายสินค้าผ่านทางไลฟ์สดในจีนพุ่งขึ้น 19% ในช่วงเทศกาลวันคนโสด (Singles Day) เดือนพ.ย. ขณะที่ยอดขายสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบดั้งเดิม ปรับตัวลง 1%
นับตั้งแต่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดในจีนเมื่อช่วงต้นปี 2563 กลุ่มผู้ค้าปลีกในจีนได้หันไปว่าจ้างนักไลฟ์สดหรือไม่ก็พัฒนาตนเองเป็นนักไลฟ์สดเพื่อที่จะขายสินค้า ขณะที่บรรดาอินฟลูเอนเซอร์ออนไลน์ เช่น ออสติน หลี่ ได้กลายมาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและเป็นเศรษฐีเงินล้านเพียงชั่วข้ามคืน ผ่านการไลฟ์สดขายสินค้า
ด้าน ดาเนียล ซิปเลอร์ นักวิเคราะห์ของแมคคินซี่กล่าวว่า การไลฟ์สดเพื่อขายสินค้านั้น ประเทศจีนกำลังเป็นที่นิยมมากกว่าประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก และขณะนี้บริษัทค้าปลีกหลายแห่งกำลังหันมาใช้ AI แทนคนในการไลฟ์สดขายสินค้า และหลายบริษัทเริ่มใช้ Avatar หรือภาพกราฟิกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้แทนภาพลักษณ์จริงของคน
อีกด้านหนึ่ง เสี่ยวเฟิง หวัง นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอร์เรสเตอร์กล่าวว่า การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงเพื่อไลฟ์สดขายสินค้าได้รับความนิยมอย่างมาก โดยคุณภาพของ AI หรือ Avatar ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และดูเหมือนคนจริง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะ AI ที่พัฒนาโดยบริษัทเทนเซ็นต์
อย่างไรก็ตาม การใช้ ai ในการขายของแทนนั้นมีประโยชน์ตรงที่ลดต้นทุนการจ้างอินฟูลขายของ มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่แค่ประเทศจีนเท่านั้น ประเทศไทยเราเองก็มีเช่นเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าปัจจุบันนี้ Ai ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิตเข้าไปมากยิ่งขึ้น ถึงตอนนี้ประเทศไทยจะยังไม่ได้เห็นชัดเจนเท่าไหร่นัก แต่ก็เริ่มค่อยๆพัฒนาเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ไม่แน่ว่าในอนาคต มนัุษย์เราอาจจะตกงานกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมี Ai เข้ามาทำแทนนั่นเองค่ะ
By RCMediaการซื้อสินค้าผ่านทางไลฟ์สตรีมมิงหรือไลฟ์สด กำลังเป็นที่นิยมในประเทศจีน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การใช้(AI) ในการสร้างนักไลฟ์สดเสมือนจริง ซึ่งกระแสดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่อาจจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัวลงอย่างหนักในขณะนี้
รายงานของแมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี (McKinsey & Company) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษารายใหญ่ระดับโลกระบุว่า ยอดขายสินค้าผ่านทางไลฟ์สดในจีนพุ่งขึ้น 19% ในช่วงเทศกาลวันคนโสด (Singles Day) เดือนพ.ย. ขณะที่ยอดขายสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบดั้งเดิม ปรับตัวลง 1%
นับตั้งแต่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดในจีนเมื่อช่วงต้นปี 2563 กลุ่มผู้ค้าปลีกในจีนได้หันไปว่าจ้างนักไลฟ์สดหรือไม่ก็พัฒนาตนเองเป็นนักไลฟ์สดเพื่อที่จะขายสินค้า ขณะที่บรรดาอินฟลูเอนเซอร์ออนไลน์ เช่น ออสติน หลี่ ได้กลายมาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและเป็นเศรษฐีเงินล้านเพียงชั่วข้ามคืน ผ่านการไลฟ์สดขายสินค้า
ด้าน ดาเนียล ซิปเลอร์ นักวิเคราะห์ของแมคคินซี่กล่าวว่า การไลฟ์สดเพื่อขายสินค้านั้น ประเทศจีนกำลังเป็นที่นิยมมากกว่าประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก และขณะนี้บริษัทค้าปลีกหลายแห่งกำลังหันมาใช้ AI แทนคนในการไลฟ์สดขายสินค้า และหลายบริษัทเริ่มใช้ Avatar หรือภาพกราฟิกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้แทนภาพลักษณ์จริงของคน
อีกด้านหนึ่ง เสี่ยวเฟิง หวัง นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอร์เรสเตอร์กล่าวว่า การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงเพื่อไลฟ์สดขายสินค้าได้รับความนิยมอย่างมาก โดยคุณภาพของ AI หรือ Avatar ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และดูเหมือนคนจริง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะ AI ที่พัฒนาโดยบริษัทเทนเซ็นต์
อย่างไรก็ตาม การใช้ ai ในการขายของแทนนั้นมีประโยชน์ตรงที่ลดต้นทุนการจ้างอินฟูลขายของ มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่แค่ประเทศจีนเท่านั้น ประเทศไทยเราเองก็มีเช่นเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าปัจจุบันนี้ Ai ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิตเข้าไปมากยิ่งขึ้น ถึงตอนนี้ประเทศไทยจะยังไม่ได้เห็นชัดเจนเท่าไหร่นัก แต่ก็เริ่มค่อยๆพัฒนาเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ไม่แน่ว่าในอนาคต มนัุษย์เราอาจจะตกงานกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมี Ai เข้ามาทำแทนนั่นเองค่ะ

42 Listeners

81 Listeners

21 Listeners

45 Listeners

15 Listeners

64 Listeners

5 Listeners

7 Listeners

14 Listeners

5 Listeners

6 Listeners

19 Listeners

10 Listeners

3 Listeners

11 Listeners