ฟังธรรมจากพระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม (พระกิตติวิมลเมธี)

นำปฏิบัติ รู้ตรงต่อความเป็นจริง- คอร์สอบรมกรรมฐานเบื้องต้น รุ่น 63 พุทธสมาคม (25-31 ต.ค. 66 18/20)


Listen Later

คอร์สการฝึกอบรมกรรมฐานเบื้องต้นเพื่อการพัฒนาจิต เพิ่มคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงาน รุ่น 63 วันที่ 25-31 ตุลาคม พ.ศ. 2566ณ พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์โดย พระกิตติวิมลเมธี⁠ (สุชีพ สุธมฺโม) วัดบุปผารามวรวิหาร


เมื่อตัวผู้รู้ตั้งขึ้นที่นิมิต ให้เขารู้ไปเฉยๆอยู่นิ่งๆ ในขณะที่เขาอยู่ที่บริเวณนิมิตนี้ ไม่ต้องไปเพ่งเล็งที่จะรู้อะไรเลย อยู่เฉยๆ รู้ลมไปด้วย รู้อย่างอื่นที่ปรากฏได้ด้วย ให้ตัวผู้รู้เขาได้ทำการเรียนรู้ ถ้าเขาทำการเรียนรู้เขาจะแข็งแรง ให้เขาเรียนรู้ในอิริยาบถ คือ กายที่ตั้งนั่งอยู่ รู้อยู่นิ่งอยู่บริเวณนิมิตนั้น เขารู้ลมหายใจด้วย รู้สบายๆแล้วก็รู้กาย ไม่ออกไปจากกาย กายที่จัดเป็นส่วนๆ ตัดกายเป็นท่อนๆก่อนก็ได้ ท่อนส่วนที่เป็นศีรษะ ตัวรู้อยู่บริเวณนิมิต ตอนนี้รู้ส่วนของลมหายใจอยู่ ลมหายใจออกรู้ ลมหายใจเข้ารู้ แล้วเขาก็รู้กระจายไปสู่ใบหน้า ในส่วนของศีรษะเป็นกายเบื้องบน ให้สังเกตได้ว่า ตัวรู้นิ่งอยู่ทำการรู้อันเป็นกิริยา แผ่กระจาย ไม่ต้องบังคับให้มันแผ่กระจายนะ แค่ให้รู้ทำการศึกษาเรียนรู้อาการของกายอาการของใจ รู้ก็จะแข็งแรง รู้ส่วนใบหน้า รู้ศีรษะ รู้ข้อต่อ รู้กายส่วนลำตัว รู้เป็นส่วนๆ รู้กายส่วนที่เป็นบัลลังก์ ที่เป็นขาเป็นวงตั้ง ไม่ต้องบังคับเข้าไปเพื่อรู้นะ รู้ทำหน้าที่เป็นเพียงแค่การศึกษาเรียนรู้ตรงๆต่อกาย ให้รู้อยู่นิ่งบริเวณนิมิต แล้วก็รู้กายส่วนที่เป็นใบหน้า กายส่วนบน รู้ตรงๆ รู้กายส่วนลำตัวส่วนกลางที่ตั้งตรงอยู่บนบัลลังก์ รู้ตรงเข้าไปเพียงแค่รู้นะ ไม่ต้องไปปรุงแต่ง เพียงแค่รู้เฉยๆ รู้สึกได้ว่ากายมันตั้งอยู่ แล้วรู้ไปที่ฐานที่เป็นบัลลังก์ พอรู้อย่างนั้นได้แล้วก็ทำการศึกษาเรียนรู้กายโดยรวม ในอิริยาบถนั่ง รู้นิ่งอยู่ที่นิมิตนั้นแหละ แล้วก็กระจายรู้ไปทั้งกายที่นั่ง รู้ตรงๆเบาๆ ตัวรู้รู้ตรงไปที่กายทั้งกายที่นั่งอยู่ ไม่มีอะไรที่จะต้องสงสัย ไม่มีอะไรที่จะต้องคิด เรารู้ตรงไปที่กายทั้งกายที่มันตั้งนั่งอยู่ รู้นิ่งกระจายเข้าไปสู่กายทั้งกายที่นั่ง สิ่งที่ถูกรู้มันเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว กายเป็นธรรมชาติของกายอยู่แล้ว รู้ก็เป็นธรรมชาติของรู้อยู่แล้ว เมื่อรู้ได้อย่างนี้แล้ว รู้ยังนิ่งอยู่บริเวณนิมิต ให้รู้เขาทำการศึกษาเรียนรู้กายตรงๆ ถ้ารู้ได้ทำการศึกษาเรียนรู้กายตรงๆอย่างเป็นธรรมชาติอย่างนี้ จะทำให้รู้มีกำลังอยู่กับความตั้งมั่น

จากนั้นรู้อยู่ที่นิมิต นิ่งรู้อยู่ แล้วก็รู้ลมหายใจกระทบ หายใจเข้าให้สุด หยุดการหายใจไว้ ตั้งใจว่าจะรู้สึกกับลมหายใจที่ไหลออก ปล่อยลมหายใจให้ไหลออกมาช้าๆ พร้อมกับตัวผู้รู้ที่รู้ตรงต่อลมที่กระทบออกนั้น ตั้งแต่ต้นลม กลางลม ปลายลม จนสุดลมหายใจที่ไหลออก เมื่อหายใจออกสุดแล้ว ก็หายใจเข้า เมื่อหายใจเข้าสุด หยุดการหายใจไว้ พร้อมให้ตัวรู้ที่นิ่งอยู่นั้น พร้อมสำหรับที่จะรู้ลมหายใจกระทบออก และปล่อยลมหายใจให้ไหลออกมา เบาๆกลางๆสบายๆ รู้ก็ตรงเข้าไปสู่ลมหายใจไหลออกที่มีการกระทบต่อกายประสาทที่ตัวรู้สามารถเข้าไปรับรู้ได้ ตั้งแต่ต้นลม กลางลม ปลายลม จนสุดลมหายใจที่ไหลออก จากนั้นหายใจเข้าไปให้สุด หยุดการหายใจไว้ พร้อมที่จะรู้ลมที่กระทบออก ปล่อยลมหายใจไหลออกมาช้าๆ ให้ตัวผู้รู้เข้ารู้ตรงต่อลมที่กระทบออกนั้น ตั้งแต่ต้นลม กลางลม ปลายลม จนสุดลมหายใจที่ไหลออก จากนั้นรู้ลมหายใจเข้า รู้ลมหายใจออก หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้ ขณะอันเป็นปัจจุบันนี้ไม่มีอะไรอื่น นอกจากรู้กับลมหายใจซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกรู้ เป็นขณะอันเป็นปัจจุบัน รู้ตรงต่อลมหายใจที่ไหลออก รู้ตรงต่อลมที่หายใจที่ไหลเข้า สบายๆตามความเป็นจริง ลมหายใจเป็นอย่างไรรู้อย่างนั้น ไม่ต้องนับ ไม่ต้องนึกอะไร ไม่ต้องมีอะไรเข้าไปช่วยตกแต่ง เพราะว่าลมหายใจมันก็มีอยู่ รู้มันก็มีอยู่ ผู้ปฏิบัติเพียงแค่รู้ตรงต่อลมซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกรู้ตามความเป็นจริงที่เข้าไปรู้ได้ หายใจออกรู้ หายใจเข้ารู้ ไม่มีอะไรที่ต้องสงสัย ไม่มีอะไรที่ต้องคิด รู้ที่นิ่งอยู่ ลมหายใจซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกรู้ก็ปรากฏอยู่ มันก็แค่รู้ตรงเข้าไปสู่ลมหายใจที่เป็นสิ่งที่ถูกรู้ ที่ตัวรู้เข้าไปรับรู้ได้ตรงๆอย่างนี้เรียกว่า รู้ตรง จริง หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้ ไม่ต้องพะวักพะวง ไม่ต้องสงสัยเพราะรู้เป็นธรรมชาติของรู้อยู่แล้ว ลมหายใจก็เป็นธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว ผู้ปฏิบัติเพียงแค่รู้ตรงต่อลมหายใจซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกรู้เท่านั้น หายใจออกรู้ หายใจเข้ารู้ ถ้ามันเกิดความง่วงก็ต้องรู้ตัวว่า มีความง่วงเกิดขึ้น ความง่วงเป็นสภาวะหนึ่ง แต่มันไม่เป็นอุปการะต่อการภาวนา มันเป็นอุปสรรค เป็นตัวขวางกั้น เป็นตัวที่คอยกั้นจิตรู้ไม่ให้เข้าสู่อารมณ์อันเดียว คือ ลมนั้นจะถูกขวางกั้นด้วยความง่วง ความหดหู่ ความสงสัย ความฟุ้งซ่าน เพราะสิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้น พึงรู้เถิดมันเข้ามาเพื่อทำหน้าที่ขวางกั้น ปิดกั้นจิตไม่ให้เข้าไปสู่อารมณ์อันเดียว คือ ลมหายใจ

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ฟังธรรมจากพระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม (พระกิตติวิมลเมธี)By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)