ฟังธรรมจากพระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม (พระกิตติวิมลเมธี)

อานิสงส์ของการเจริญอานาปานสติ - คอร์สอานาปานสติ วัดบุปผาราม (5-10 ธ.ค. 67 19/28)


Listen Later

คอร์สอานาปานสติ วันที่ 5-10 ธ.ค. 67 ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตติวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผาราม วรวิหาร

ผลของอานาปานสติที่พระพุทธเจ้าตรัส ท่านว่าอย่างน้อยก็ต้องมี ๗ อย่าง

อันหนึ่งเลย คือจะได้รับผลอันสูงสุด คือเป็นพระอรหัตผล โดยเร็ว อย่างเร็ว อย่างเร็วแบบไหน? อย่างเร็วก็นี่แหละ ๗ วัน ๗ เดือน ๗ ปี ไม่เป็น ๗ ชาติ

อันที่ ๒ สมสีสี ก็คือว่า จะมีโอกาสมากในการที่จะถึงอรหัตผลตอนใกล้จะตาย เพราะว่าวิชาที่ฝึกตรงอย่างที่พูด ไม่ใช่วิชาที่จะไปคิดตกแต่งแทรกแซงทําโน่นทํานี่ วิชาที่เป็นสติจริงๆ ฝึกตรงๆตามที่พูด ตามที่พระพุทธเจ้าท่านชี้ จะมีโอกาสมากในการที่จะถึงอรหัตผลในเวลาก่อนจะตาย เพราะความทุกข์ที่บีบคั้นก่อนจะตายจะไม่นําพาเราไปไหนเลย มันยัดอัดเข้าไป ความทุกข์เข้าไปสู่ใจ แล้วไม่มีอะไรจะไปต่อทาน ต่อต้านในการที่จะต่อสู้ วิชาทางการแพทย์ทั้งแสนโลกธาตุไม่สามารถที่จะสู้ได้ แม้แต่บรรเทาก็ยังไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นเรื่องร่างกายไม่ใช่เรื่องของจิตใจ ในคราวที่จิตมันวางจากอายตนะ มันเป็นตัวจิตล้วนๆที่จะต้องทุกข์ ที่ต้องคลาดออกจากกาย ทุกข์ตรงนั้นมันคือประสบการณ์ของจิต ว่าเคยฝึกฝนอบรมบ่มเพาะอะไรมา เฉพาะจุดที่มันใกล้กับจิตธาตุมากที่สุด จุดนั้นคืออะไร? ถ้านอกเหนือจากนั้นก็เป็นจิตธาตุที่มันหุ้มห่อปรุงแต่งจิตไว้ให้เวียนว่ายอยู่ใน ๓๑ ภพภูมิ ถ้ามันอย่างนั้นนะ ในขณะที่เรามีร่างกายแข็งแรง อายตนะแข็งแรง มีมือไม้แขนขา มีสมองเข้าไปช่วยคิด มีเส้นใยประสาทสําหรับเป็นเครื่องมือในการช่วย ในการจดจําเรื่องราวต่างๆที่เป็นอดีตทั้งหมด กับพฤติกรรมที่มันย้ำ ย้ำ ย้ำ จนมันจําได้โดยอาศัยสมองมาเป็นเครื่องช่วยจํา นี่มันเป็นเครื่องหลอกเครื่องล่อ ให้เราหลงทางในการที่จะเข้าสู่อานิสงส์ของอานาปานสติได้

เพราะฉะนั้นเมื่อถึงตอนที่เราจะตาย ประสบการณ์ของจิตที่ฝึกฝนอบรมอย่างถูก ตรง ความตั้งมั่นตัวนั้นแหละมันจะออกมาทําหน้าที่ต้านทาน จิตที่มีความตั้งมั่นอยู่ มันจะมีวิชา จะมีดวงตา จะมีปัญญาในตัวของจิตเอง โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องช่วย อย่างตอนนี้เรานั่งสมาธิเราจะหาจิตตั้งมั่น เดี๋ยวมันกระทบกับลมบ้าง เย็นบ้าง ร้อนบ้าง ยุงบ้าง แมลงบ้าง อดีตบ้าง อนาคตบ้าง คนบ้าง วัตถุบ้าง สิ่งอันเป็นที่รักบ้าง สิ่งอันไม่เป็นที่รักบ้าง ความกลัวบ้าง ความไม่กลัวบ้าง ความชอบ ความชัง ความอิจฉาริษยา ความพยาบาท ความรู้สึกหดหู่ ความเศร้าหมองที่ชื่อว่า นิวรณ์บ้าง อุปกิเลสบ้าง เรื่องราวเยอะแยะต่างๆที่มันเข้ามา เพราะมันมาในขณะที่จิตนี้มันอาศัยกายอยู่ เพราะจิตที่มันอาศัยกายอยู่ตั้งเป็นชีวิตนี่แหละ เราจึงหลง หลอก ถูกหลอกให้มันสะเออะเข้าไปในเส้นทางที่ไม่ใช่จุดที่พระพุทธเจ้าชี้ แม้กระทั่งว่านั่งอยู่ในจุดที่พระพุทธเจ้าชี้แล้วนี่มันยังแส่ออกไปอยู่เรื่อยๆ อันนั้นเป็นลูกมือของอวิชชา เราเรียกกันว่า อวิชชาก็คือ ความโง่ ความเมา ความหลง

แต่เมื่อจิตที่ใกล้จะตายมันไม่มีแล้ว มันไม่มีตัวช่วย มันไม่มีตัวที่จะทําให้เราบรรเทาใดๆได้เลย วิชาการทั้งหลายแหล่ในโลกใบนี้ที่เราพยายามเรียน พยายามจํากันมา มันเข้าไปไม่ได้ เพราะอวิชชาเหล่านั้นมันเป็นโลก เป็นสมมติ มันต้องอาศัยกาย มันจะต้องอาศัยอายตนะ ถึงเวลาที่จิตมันจะดับมันจะตายจริงๆมันมาอาศัยไม่ได้ พออาศัยไม่ได้แล้วทีนี้เราทําอย่างไร จิตจะทําอย่างไร? จิตก็ผจญอยู่แต่กับความทุกข์ ความกลัว ความหวาดระแวงอย่างเดียว คุณสมบัติของจิตที่เคยสะสมเพราะเครื่องสื่อสาร คุณสมบัติของจิตที่เคยสะสมในเรื่องของอาศัยทางอายตนะและกระแสโลก หรือในเรื่องของความสมมติ แล้วมันสะสมไว้ในจิต มันเป็นบุญเป็นบาปอย่างเดียว มันทําให้หนัก มันทําให้เบา มันทําให้เศร้าหมอง มันทําให้สดใส คือว่า ไม่ขึ้นบนก็ลงล่าง เวียนว่ายอยู่ใน ๓๑ ภพภูมินั้น ความทุกข์ก็ยังเหมือนเดิม 

#พระกิตติวิมลเมธี #วัดบุปผาราม #อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน #ความตั้งมั่น #จิตตสังขาร


...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ฟังธรรมจากพระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม (พระกิตติวิมลเมธี)By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)