
Sign up to save your podcasts
Or


คอร์สอานาปานสติ วัดป่าไม้แดง จ.เชียงใหม่ วันที่ 10-14 ธ.ค. 65 นำปฏิบัติโดย พระกิตติวิมลเมธี (สุชีพ สุธมฺโม) วัดบุปผาราม กทม.ณ สำนักปฏิบัติธรรมสวนป่าพุทธชยันตี อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่
ในอานาปานสติ ญาณในการรู้ 200 ญาณ ตัวอุปกิเลสก็เป็นญาณ คือ รู้ว่าอุปกิเลสตัวนี้เกิดขึ้น เช่นเรารู้ลมแล้วเราวิ่งตามลมออกไป ตัวรู้ที่รู้ว่าเราวิ่งตามลมไม่ถูก อันนี้ 1 ญาณ นิวรณ์ 8 ตัว จิตหลุดออกไป ตัวรู้รู้ว่าหลุดออกไปเป็นกามฉัน อันนี้ 1 ญาณ หงุดหงิดไม่พอใจ ตัวรู้รู้ว่าเป็นพยาบาท อันนี้ 1 ญาณ ทั้งหมดถ้ารู้มัน ก็จะส่งเสริมเป็นอุปการะต่อจิตผู้รู้ทั้งหมด
อุปการะคือตัวที่เอื้อต่อการทำสติ เช่น ตัวที่ออกมาจากความพอใจ รู้ว่าหลุดออกไปกับความพอใจ รู้ว่าไม่ถูกนี้ 1 ญาณเป็นอุปกิเลส รู้ว่าจะต้องออกเพื่อเข้าสู่โผฏฐัพพารมณ์ นี้อีก 1 ญาณ รู้หลังนี้คืออุปการะ เรียกว่า เนกขัมมะ ไม่พอใจรู้ว่าไม่ถูก ยกออกความไม่พอใจนั้น เรียกว่า อพยาบาท สังเกตว่าตัวที่ทำงานทั้งหมดคือ ตัวรู้
ฝึกคำว่า แค่รู้ ต้องแค่รู้จริงๆ สังเกตทุกสภาวะที่ปรากฏในขณะที่เรารู้ลม ต้องฝึกสภาวะแค่รู้ให้ปรากฏ ไม่ใช่การคิดเอง เออเอง เข้าใจเอง
ในทุกกิริยาที่เราทำ เรามีสติกับการรู้นั้นๆไหม ระลึก แล้วรู้คลออยู่ตรงนั้น ไม่ต้องสนใจว่าเป็นความจำ หรือ กำหนดหรือไม่
ทุกคนมีการกำหนด มีความเป็นเรา แต่เมื่อมีสติคือจิตผู้รู้ แล้วระลึกจิตผู้รู้ เข้าไปสู่อารมณ์ที่เราจะเจริญ เช่นระลึกเข้าไปสู่โผฏฐัพพารมณ์ เมื่อมีการระลึก สติก็จะเป็นใหญ่ มันมีการกำหนด แต่ตัวระลึกเป็นใหญ่ มีคลอรู้ไปเรื่อยๆ หมั่นเติมฉันทะ ตัวกำหนดก็จะฝ่อลง เมื่อตัวรู้เป็นใหญ่ ความละมุนก็จะเกิด นี้เป็นการช่วงชิงพื้นที่ของจิต ถ้าตัวรู้ที่เป็นสติสัมปชัญญะเป็นใหญ่ ตัวสติสัมปชัญญะก็จะเข้าไปยึดคืนพื้นที่จิตนั้นจาก นิวรณ์ อาสวะ อนุสัย
การปฏิบัติธรรมหรือธรรมปฏิบัติ เป็นเรื่องราวของการขัดเกลา เมื่อมีสภาวะที่เกิดขึ้นตามความละเอียดของจิตผู้รู้ แต่ละสภาวะที่ปรากฏ เขาจะขัดเกลา
ในขณะรู้ลมกระทบยาว รู้ไปๆ แล้วลมฝ่อลง สั้นลง ละเอียดลง นั้นมีความขัดเกลา สภาวะขั้นต่อๆมาจึงปรากฏ ตัวที่ทำหน้าที่พี่เลี้ยงในการขัดเกลานั้นคือ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ
ในขณะที่รู้ตรงไปสู่สิ่งที่ถูกรู้
การเติมฉันทะ เพิ่มความใส่ใจไปที่รู้ จะเกิด ปะติสสะติมัตตายะ เพียงสักว่าระลึก ญาณะมัตตายะ เพียงสักว่ารู้ คือไม่ใส่ไจ ไม่ไปปรุงไม่ไปแต่ง ไม่ไปแช่ใดๆ ให้คงรู้อยู่ที่กิจ พอตัวรู้ละมุนเข้าไปสู่สิ่งที่ถูกรู้ เราจะสัมผัสถึง อะเสจะนะโก และต่อจากนั้นมันเข้าสู่ความสงบ อุปะสะมะยะ เพราะมีเรื่องเดียวไม่วุ่นวายหลายเรื่อง รู้เรื่อยๆเรียบๆ อย่างมีสติ
ในขณะที่เรารู้ลม แล้วมีสภาวะอะไรเกิด ให้จำคำเหล่านี้ไว้ ปะติสสะติมัตตายะ แค่ระลึก ญาณะมัตตายะ แค่รู้ แล้วถ้ามันเกิดขึ้นมาชัดเจนสะมุทะยะธัมมานุปัสสี วา กายัสสมิง วิหะระติ รู้ตามความเป็นจริงของสภาวะนั้นว่ามันเกิดขึ้นอยู่ แค่รู้อยู่ว่ามันเกิดขึ้นตามธรรมดาตามธรรมชาติของสภาวะนั้น
วะยะธัมมานุปัสสี วา กายัสสมิง วิหะระติ มันดับไป ก็แค่รู้อยู่ว่ามันดับไปตามธรรมดาตามธรรมชาติของสภาวะนั้น รู้อยู่ที่นิมิตและทำกิจต่อไป
#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน
By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)คอร์สอานาปานสติ วัดป่าไม้แดง จ.เชียงใหม่ วันที่ 10-14 ธ.ค. 65 นำปฏิบัติโดย พระกิตติวิมลเมธี (สุชีพ สุธมฺโม) วัดบุปผาราม กทม.ณ สำนักปฏิบัติธรรมสวนป่าพุทธชยันตี อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่
ในอานาปานสติ ญาณในการรู้ 200 ญาณ ตัวอุปกิเลสก็เป็นญาณ คือ รู้ว่าอุปกิเลสตัวนี้เกิดขึ้น เช่นเรารู้ลมแล้วเราวิ่งตามลมออกไป ตัวรู้ที่รู้ว่าเราวิ่งตามลมไม่ถูก อันนี้ 1 ญาณ นิวรณ์ 8 ตัว จิตหลุดออกไป ตัวรู้รู้ว่าหลุดออกไปเป็นกามฉัน อันนี้ 1 ญาณ หงุดหงิดไม่พอใจ ตัวรู้รู้ว่าเป็นพยาบาท อันนี้ 1 ญาณ ทั้งหมดถ้ารู้มัน ก็จะส่งเสริมเป็นอุปการะต่อจิตผู้รู้ทั้งหมด
อุปการะคือตัวที่เอื้อต่อการทำสติ เช่น ตัวที่ออกมาจากความพอใจ รู้ว่าหลุดออกไปกับความพอใจ รู้ว่าไม่ถูกนี้ 1 ญาณเป็นอุปกิเลส รู้ว่าจะต้องออกเพื่อเข้าสู่โผฏฐัพพารมณ์ นี้อีก 1 ญาณ รู้หลังนี้คืออุปการะ เรียกว่า เนกขัมมะ ไม่พอใจรู้ว่าไม่ถูก ยกออกความไม่พอใจนั้น เรียกว่า อพยาบาท สังเกตว่าตัวที่ทำงานทั้งหมดคือ ตัวรู้
ฝึกคำว่า แค่รู้ ต้องแค่รู้จริงๆ สังเกตทุกสภาวะที่ปรากฏในขณะที่เรารู้ลม ต้องฝึกสภาวะแค่รู้ให้ปรากฏ ไม่ใช่การคิดเอง เออเอง เข้าใจเอง
ในทุกกิริยาที่เราทำ เรามีสติกับการรู้นั้นๆไหม ระลึก แล้วรู้คลออยู่ตรงนั้น ไม่ต้องสนใจว่าเป็นความจำ หรือ กำหนดหรือไม่
ทุกคนมีการกำหนด มีความเป็นเรา แต่เมื่อมีสติคือจิตผู้รู้ แล้วระลึกจิตผู้รู้ เข้าไปสู่อารมณ์ที่เราจะเจริญ เช่นระลึกเข้าไปสู่โผฏฐัพพารมณ์ เมื่อมีการระลึก สติก็จะเป็นใหญ่ มันมีการกำหนด แต่ตัวระลึกเป็นใหญ่ มีคลอรู้ไปเรื่อยๆ หมั่นเติมฉันทะ ตัวกำหนดก็จะฝ่อลง เมื่อตัวรู้เป็นใหญ่ ความละมุนก็จะเกิด นี้เป็นการช่วงชิงพื้นที่ของจิต ถ้าตัวรู้ที่เป็นสติสัมปชัญญะเป็นใหญ่ ตัวสติสัมปชัญญะก็จะเข้าไปยึดคืนพื้นที่จิตนั้นจาก นิวรณ์ อาสวะ อนุสัย
การปฏิบัติธรรมหรือธรรมปฏิบัติ เป็นเรื่องราวของการขัดเกลา เมื่อมีสภาวะที่เกิดขึ้นตามความละเอียดของจิตผู้รู้ แต่ละสภาวะที่ปรากฏ เขาจะขัดเกลา
ในขณะรู้ลมกระทบยาว รู้ไปๆ แล้วลมฝ่อลง สั้นลง ละเอียดลง นั้นมีความขัดเกลา สภาวะขั้นต่อๆมาจึงปรากฏ ตัวที่ทำหน้าที่พี่เลี้ยงในการขัดเกลานั้นคือ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ
ในขณะที่รู้ตรงไปสู่สิ่งที่ถูกรู้
การเติมฉันทะ เพิ่มความใส่ใจไปที่รู้ จะเกิด ปะติสสะติมัตตายะ เพียงสักว่าระลึก ญาณะมัตตายะ เพียงสักว่ารู้ คือไม่ใส่ไจ ไม่ไปปรุงไม่ไปแต่ง ไม่ไปแช่ใดๆ ให้คงรู้อยู่ที่กิจ พอตัวรู้ละมุนเข้าไปสู่สิ่งที่ถูกรู้ เราจะสัมผัสถึง อะเสจะนะโก และต่อจากนั้นมันเข้าสู่ความสงบ อุปะสะมะยะ เพราะมีเรื่องเดียวไม่วุ่นวายหลายเรื่อง รู้เรื่อยๆเรียบๆ อย่างมีสติ
ในขณะที่เรารู้ลม แล้วมีสภาวะอะไรเกิด ให้จำคำเหล่านี้ไว้ ปะติสสะติมัตตายะ แค่ระลึก ญาณะมัตตายะ แค่รู้ แล้วถ้ามันเกิดขึ้นมาชัดเจนสะมุทะยะธัมมานุปัสสี วา กายัสสมิง วิหะระติ รู้ตามความเป็นจริงของสภาวะนั้นว่ามันเกิดขึ้นอยู่ แค่รู้อยู่ว่ามันเกิดขึ้นตามธรรมดาตามธรรมชาติของสภาวะนั้น
วะยะธัมมานุปัสสี วา กายัสสมิง วิหะระติ มันดับไป ก็แค่รู้อยู่ว่ามันดับไปตามธรรมดาตามธรรมชาติของสภาวะนั้น รู้อยู่ที่นิมิตและทำกิจต่อไป
#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน