
Sign up to save your podcasts
Or


ธรรมดีรุ่งโรจน์สัญจร ครั้งที่ 21 คอร์สอานาปานสติ ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตติวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผารามวรวิหาร
จักขุกรณี ญาณกรณี อุปสมายะ อภิญญายะ สัมโพธายะ นิพพานายะ สังวัตตะติจักขุกรณี ญาณกรณี เป็นเหตุที่ต้องกระทำ มันเป็นผลของการที่เรารู้ ตัวที่จะเป็นจักขุกรณีให้สังเกตว่ามันเริ่มเข้าสู่ความเป็นจักขุกรณี ญาณกรณีเวลาเราภาวนา คือ ตัวที่เขารู้สิ่งที่ปรากฏด้วยตัวรู้เอง เวลาเราทำกิจ เราเอาตัวผู้รู้ไปรู้ลม อันนี้เป็นตัวรู้ที่ทำในกิจ แต่มีสภาวะอันเป็นภายในบางตัวที่เขาเกิดตามเหตุตามปัจจัยของเขาเอง แล้วตัวรู้ไปรู้ของมันเอง และมีคำตอบในตัวรู้นั้นไม่สงสัยใดๆ มีกำลังพอที่จะปล่อยสิ่งที่รู้นั้นผ่านไปโดยไม่ติดใจอะไร อันนี้เรียกว่าเข้าสู่กระแสของจักขุกรณี ญาณกรณี ในทางปฏิบัติ มันเป็นความละเอียดที่เราไม่จำเป็นที่จะต้องไปคอยจ้องดูว่ามันรู้แล้วปล่อยหรือยัง แต่เราสามารถตรวจสอบจากสภาวะที่เราปฏิบัติมาได้ ถ้าตัวรู้นั้นมีกำลัง แล้วสามารถเห็นเองรู้เองต่อเนื่องไปตามความเป็นจริงได้ จะมีผลของมันคือ สังวัตตะติ คือ เป็นไปเพื่อ
ตัวรู้นี้เป็นกลาง เพราะประกอบไปด้วยกิจกรรมชีวิต 8 ประการ คือพอมีตัวรู้ที่มีกำลังแล้ว ถ้าสภาวะนั้นมีตัวรู้นี้อยู่ ตัวรู้นี้จะเป็นไปเพื่อความชอบทั้งหมด ก็เป็นมรรคขึ้นมาเรื่องทั้ง 8 ไม่ใช่เป็นเหตุที่เราต้องทำขึ้นมา มันเกิดจากการที่เราแน่วแน่ต่อการรู้ตรงไป เกิดความตั้งมั่นอยู่กับรู้นั้น
จากนั้นให้กำหนดรู้เรื่องทุกข์ กำหนดรู้คือการศึกษาเพื่อให้รู้
เมื่อรู้แล้ว ก็จะประจักษ์กับใจของเราเองว่าเรารู้แล้ว ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดจากจักขุกรณี ญาณกรณี จากเครื่องรู้เครื่องเห็นอันเนื่องมาจากจิตผู้รู้ที่รู้กายในกาย อย่างตรงไปตรงมาจนบ่มมาเป็นความตั้งมั่น แล้วก็รู้ ดู ศึกษาทุกข์ เกิดการเห็น เกิดการรู้ขึ้นมา ว่าเห็นแล้ว รู้แล้ว
ลำดับของความรู้ทั้งหมดนี้อยู่ในกระบวนการภาวนา ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องใช้สติ สมาธิ ปัญญา ถ้าปัญญาใช้โดยไม่มีฐานของผู้รู้และความตั้งมั่นก็จะเป็นความฟุ้งซ่าน
เมื่อเราเอาทุกข์มาพิจารณา ศึกษา มนสิการด้วยตัวรู้ที่มีความตั้งมั่น จะเพิ่มพูนดวงปัญญาให้เห็นความเป็นจริงของทุกข์ ยิ่งขึ้นยิ่งขึ้น เมื่อถึงที่สุด รู้ความจริงในทุกข์นั้น
ตัวรู้ และความตั้งมั่นอันมีกำลังแล้วเกิดการรู้เห็นความเป็นจริง ความเป็นจริงของสิ่งทั้งปวงนั้น ไม่หลีกหนีไปจาก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่อเห็นตัวใดตัวหนึ่งก็จะเห็นทั้งหมด
ทั้งหมดนี้คือเรื่องเดียวกัน แค่รู้ตรงต่อกิจ อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นขณะรู้ตรงต่อกิจนั้น เรารู้ทัน ก็ไม่ถูกกระทบด้วยอำนาจของนิวรณ์
องค์ภาวนา จะรู้ แล้วเห็น แล้วก็ปล่อยไป เพราะความรู้ที่มีกำลังจะรู้ทัน และแน่วแน่อยู่กับการภาวนา
#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน
By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)ธรรมดีรุ่งโรจน์สัญจร ครั้งที่ 21 คอร์สอานาปานสติ ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตติวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผารามวรวิหาร
จักขุกรณี ญาณกรณี อุปสมายะ อภิญญายะ สัมโพธายะ นิพพานายะ สังวัตตะติจักขุกรณี ญาณกรณี เป็นเหตุที่ต้องกระทำ มันเป็นผลของการที่เรารู้ ตัวที่จะเป็นจักขุกรณีให้สังเกตว่ามันเริ่มเข้าสู่ความเป็นจักขุกรณี ญาณกรณีเวลาเราภาวนา คือ ตัวที่เขารู้สิ่งที่ปรากฏด้วยตัวรู้เอง เวลาเราทำกิจ เราเอาตัวผู้รู้ไปรู้ลม อันนี้เป็นตัวรู้ที่ทำในกิจ แต่มีสภาวะอันเป็นภายในบางตัวที่เขาเกิดตามเหตุตามปัจจัยของเขาเอง แล้วตัวรู้ไปรู้ของมันเอง และมีคำตอบในตัวรู้นั้นไม่สงสัยใดๆ มีกำลังพอที่จะปล่อยสิ่งที่รู้นั้นผ่านไปโดยไม่ติดใจอะไร อันนี้เรียกว่าเข้าสู่กระแสของจักขุกรณี ญาณกรณี ในทางปฏิบัติ มันเป็นความละเอียดที่เราไม่จำเป็นที่จะต้องไปคอยจ้องดูว่ามันรู้แล้วปล่อยหรือยัง แต่เราสามารถตรวจสอบจากสภาวะที่เราปฏิบัติมาได้ ถ้าตัวรู้นั้นมีกำลัง แล้วสามารถเห็นเองรู้เองต่อเนื่องไปตามความเป็นจริงได้ จะมีผลของมันคือ สังวัตตะติ คือ เป็นไปเพื่อ
ตัวรู้นี้เป็นกลาง เพราะประกอบไปด้วยกิจกรรมชีวิต 8 ประการ คือพอมีตัวรู้ที่มีกำลังแล้ว ถ้าสภาวะนั้นมีตัวรู้นี้อยู่ ตัวรู้นี้จะเป็นไปเพื่อความชอบทั้งหมด ก็เป็นมรรคขึ้นมาเรื่องทั้ง 8 ไม่ใช่เป็นเหตุที่เราต้องทำขึ้นมา มันเกิดจากการที่เราแน่วแน่ต่อการรู้ตรงไป เกิดความตั้งมั่นอยู่กับรู้นั้น
จากนั้นให้กำหนดรู้เรื่องทุกข์ กำหนดรู้คือการศึกษาเพื่อให้รู้
เมื่อรู้แล้ว ก็จะประจักษ์กับใจของเราเองว่าเรารู้แล้ว ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดจากจักขุกรณี ญาณกรณี จากเครื่องรู้เครื่องเห็นอันเนื่องมาจากจิตผู้รู้ที่รู้กายในกาย อย่างตรงไปตรงมาจนบ่มมาเป็นความตั้งมั่น แล้วก็รู้ ดู ศึกษาทุกข์ เกิดการเห็น เกิดการรู้ขึ้นมา ว่าเห็นแล้ว รู้แล้ว
ลำดับของความรู้ทั้งหมดนี้อยู่ในกระบวนการภาวนา ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องใช้สติ สมาธิ ปัญญา ถ้าปัญญาใช้โดยไม่มีฐานของผู้รู้และความตั้งมั่นก็จะเป็นความฟุ้งซ่าน
เมื่อเราเอาทุกข์มาพิจารณา ศึกษา มนสิการด้วยตัวรู้ที่มีความตั้งมั่น จะเพิ่มพูนดวงปัญญาให้เห็นความเป็นจริงของทุกข์ ยิ่งขึ้นยิ่งขึ้น เมื่อถึงที่สุด รู้ความจริงในทุกข์นั้น
ตัวรู้ และความตั้งมั่นอันมีกำลังแล้วเกิดการรู้เห็นความเป็นจริง ความเป็นจริงของสิ่งทั้งปวงนั้น ไม่หลีกหนีไปจาก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่อเห็นตัวใดตัวหนึ่งก็จะเห็นทั้งหมด
ทั้งหมดนี้คือเรื่องเดียวกัน แค่รู้ตรงต่อกิจ อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นขณะรู้ตรงต่อกิจนั้น เรารู้ทัน ก็ไม่ถูกกระทบด้วยอำนาจของนิวรณ์
องค์ภาวนา จะรู้ แล้วเห็น แล้วก็ปล่อยไป เพราะความรู้ที่มีกำลังจะรู้ทัน และแน่วแน่อยู่กับการภาวนา
#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน