
Sign up to save your podcasts
Or
คณะกรรมการการสื่อสารแห่งชาติ (NCC) รายงานภาวะตลาดบริการสื่อสารไร้สายไต้หวัน ปี 2022 ระบุว่า ผลประกอบการแม่ขายโทรศัพท์ ปี 2012 มีมูลค่า 225,400 ล้านเหรียญไต้หวัน ถึงปี 2020 ลดเหลือ 153,700 ล้านเหรียญไต้หวัน หลังจากไต้หวันเปิดบริการระบบ 5G ในช่วงครึ่งหลังปี 2020 ประชาชนอัพเกรดใช้บริการ 5G เพิ่มขึ้น มีการจ่ายค่าบริการสื่อสารไร้สายเพิ่มขึ้น ทำให้ผลประกอบการของแม่ข่ายโทรศัพท์ในไต้หวัน ปี 2021 เพิ่มเป็น 155,000 ล้านเหรียญไต้หวัน สำหรับไตรมาส 3 ปี 2022 มูลค่า 120,000 ล้านเหรียญไต้หวัน คาดว่าผลประกอบการทั้งปีจะสูงกว่าปี 2021
สำหรับจำนวนผู้ใช้บริการสื่อสารไร้สายปี 2020 เท่ากับ 29.29 ล้านราย ถึงปี 2021 เพิ่มเป็น 29.58 ล้านราย ไตรมาส 3 ปี 2022 เพิ่มเป็น 29.94 ล้านราย คาดว่าในปี 2022 จะทะลุ 30 ล้านราย ซึ่งทาง NCC ชี้ว่า ได้มอบหมายให้สถาบันวิจัยเศรษฐกิจไต้หวันดำเนินการทำการสำรวจ แนวโน้มการพัฒนาตลาดบริการสื่อสารโทรคมนาคม ปี 2022 พบพฤติกรรม เกินกว่า 50% ของผู้บริโภคชาวไต้หวันอายุ 16 ปีขึ้นไป ใช้บริการสื่อสารไร้สายในที่พัก ในจำนวนนี้ เกินกว่า 70 % ยังไม่เปลี่ยนจาก 4G เป็น 5G เนื่องจากเห็นว่าบริการ 4G เพียงพออยู่แล้ว
ในด้านความพอใจการใช้บริการ 4G และ 5G ประชาชนเห็นว่าเครือข่าย 5G ดีกว่า 4G แต่รัศมีครอบคลุมยังไม่เพียงพอนอกจากนี้ 90% ของผู้บริโภค ใช้อินเทอร์เน็ตในที่พัก เครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ใช้เป็นแบบสื่อสารไร้สายมากกว่า fix network 80% ของประชาชนบอกว่าขึ้นอินเทอร์เน็ตเพื่อการใช้ search engine หาข้อมูล ส่วนในด้านการรับชม content ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปบอกว่ายังคงใช้เคเบิลทีวี รองลงมาคือ OTT TV โดยที่ 50% ของกลุ่มที่ดู OTT TV บอกว่าไม่เคยดู Cable TV อีก 40% บอกว่าแต่เดิมดู Cable TV แต่ตอนนี้หันมาดู OTT TV สาเหตุที่เปลี่ยน เนื่องจากว่า Cable TV เก็บค่าบริการสูงกว่า
รายงานการสำรวจอีกชิ้นหนึ่งของ NCC ระบุว่า ชาวไต้หวันดู content ภาพเสียงวันละ 106 นาที Netflix ครองอันดับ 1 กล่าวได้ว่าความเคยชินในการชม content เปลี่ยนไป ผู้ที่ยินดีจ่าย OTT Streaming TV เพิ่มขึ้นในช่วง 5 ปีนับจากปี 2017 ถึง 2022 ทั่วประเทศมีสัดส่วนการบอกรับเป็นสมาชิก OTT TV เพิ่มขึ้น จาก 19.8% เพิ่มเป็น 49.8% ซึ่งตามการสำรวจของ NCC ปี 2022 ทั่วไต้หวันผู้ใช้บริการ OTT TV มีความนิยม Netfix เป็นอันดับ 1 สัดส่วน 44.8% อันดับ 2 Dsney+ 15.2% อันดับ 3 คือ iQIYI 2.2% รองลงมาคือ Hami Video 2.2% และอีก 1% เป็น KKTV、Apple TV、HBO GO、LiTV、CatchPlay
คณะกรรมการการสื่อสารแห่งชาติ (NCC) รายงานภาวะตลาดบริการสื่อสารไร้สายไต้หวัน ปี 2022 ระบุว่า ผลประกอบการแม่ขายโทรศัพท์ ปี 2012 มีมูลค่า 225,400 ล้านเหรียญไต้หวัน ถึงปี 2020 ลดเหลือ 153,700 ล้านเหรียญไต้หวัน หลังจากไต้หวันเปิดบริการระบบ 5G ในช่วงครึ่งหลังปี 2020 ประชาชนอัพเกรดใช้บริการ 5G เพิ่มขึ้น มีการจ่ายค่าบริการสื่อสารไร้สายเพิ่มขึ้น ทำให้ผลประกอบการของแม่ข่ายโทรศัพท์ในไต้หวัน ปี 2021 เพิ่มเป็น 155,000 ล้านเหรียญไต้หวัน สำหรับไตรมาส 3 ปี 2022 มูลค่า 120,000 ล้านเหรียญไต้หวัน คาดว่าผลประกอบการทั้งปีจะสูงกว่าปี 2021
สำหรับจำนวนผู้ใช้บริการสื่อสารไร้สายปี 2020 เท่ากับ 29.29 ล้านราย ถึงปี 2021 เพิ่มเป็น 29.58 ล้านราย ไตรมาส 3 ปี 2022 เพิ่มเป็น 29.94 ล้านราย คาดว่าในปี 2022 จะทะลุ 30 ล้านราย ซึ่งทาง NCC ชี้ว่า ได้มอบหมายให้สถาบันวิจัยเศรษฐกิจไต้หวันดำเนินการทำการสำรวจ แนวโน้มการพัฒนาตลาดบริการสื่อสารโทรคมนาคม ปี 2022 พบพฤติกรรม เกินกว่า 50% ของผู้บริโภคชาวไต้หวันอายุ 16 ปีขึ้นไป ใช้บริการสื่อสารไร้สายในที่พัก ในจำนวนนี้ เกินกว่า 70 % ยังไม่เปลี่ยนจาก 4G เป็น 5G เนื่องจากเห็นว่าบริการ 4G เพียงพออยู่แล้ว
ในด้านความพอใจการใช้บริการ 4G และ 5G ประชาชนเห็นว่าเครือข่าย 5G ดีกว่า 4G แต่รัศมีครอบคลุมยังไม่เพียงพอนอกจากนี้ 90% ของผู้บริโภค ใช้อินเทอร์เน็ตในที่พัก เครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ใช้เป็นแบบสื่อสารไร้สายมากกว่า fix network 80% ของประชาชนบอกว่าขึ้นอินเทอร์เน็ตเพื่อการใช้ search engine หาข้อมูล ส่วนในด้านการรับชม content ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปบอกว่ายังคงใช้เคเบิลทีวี รองลงมาคือ OTT TV โดยที่ 50% ของกลุ่มที่ดู OTT TV บอกว่าไม่เคยดู Cable TV อีก 40% บอกว่าแต่เดิมดู Cable TV แต่ตอนนี้หันมาดู OTT TV สาเหตุที่เปลี่ยน เนื่องจากว่า Cable TV เก็บค่าบริการสูงกว่า
รายงานการสำรวจอีกชิ้นหนึ่งของ NCC ระบุว่า ชาวไต้หวันดู content ภาพเสียงวันละ 106 นาที Netflix ครองอันดับ 1 กล่าวได้ว่าความเคยชินในการชม content เปลี่ยนไป ผู้ที่ยินดีจ่าย OTT Streaming TV เพิ่มขึ้นในช่วง 5 ปีนับจากปี 2017 ถึง 2022 ทั่วประเทศมีสัดส่วนการบอกรับเป็นสมาชิก OTT TV เพิ่มขึ้น จาก 19.8% เพิ่มเป็น 49.8% ซึ่งตามการสำรวจของ NCC ปี 2022 ทั่วไต้หวันผู้ใช้บริการ OTT TV มีความนิยม Netfix เป็นอันดับ 1 สัดส่วน 44.8% อันดับ 2 Dsney+ 15.2% อันดับ 3 คือ iQIYI 2.2% รองลงมาคือ Hami Video 2.2% และอีก 1% เป็น KKTV、Apple TV、HBO GO、LiTV、CatchPlay