
Sign up to save your podcasts
Or
ยานยนต์ไฟฟ้าแพร่หลายมากขึ้น ในยุค EV 2.0 การชาร์จด้วยความเร็วสูงพิเศษกลายเป็นกุญแจสำคัญ
ในอดีตรถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีราคาแพง วิ่งช้าเกินไป และวิ่งได้ระยะทางสั้นเพราะว่าความความจุแบตเตอรี่ต่ำ ปัจจุบัน ทางเทคโนโลยีก้าวหน้า รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่สามารถวิ่งต่อเนื่องได้เกินกว่า 300 กิโลเมตร ราคาต่ำลง มีรุ่นที่ราคาต่ำกว่าล้านบาทให้เลือกหลากหลาย สมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้าเหนือกว่ารถแข่งซะด้วยซ้ำ ในช่วง 130 ปีที่ผ่านมาถือเป็นยุค EV 1.0 ก็ว่าได้ ขณะนี้ได้ก้าวเข้าสู่ยุคที่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังแพร่หลายอย่างกว้างขวาง มุ่งสู่ยุค EV 2.0 แล้ว
ปริมาณการขายรถยนต์ไฟฟ้าในไต้หวันมีสัดส่วนเกิน 5% ในปี 2023 และคาดว่าจะเกิน 10% ในปี 2024 ตามภาวะเช่นนี้ ในปี 2030 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะสูงถึง 250,000 คัน และจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าสะสมรวมทั้งหมดจะถึง 1 ล้านคัน ซึ่งหมายความว่าจะมีความต้องการไฟฟ้า 3 พันล้านหน่วย (กิโลวัตต์-ชั่วโมง) ต่อปี ขนาดตลาดบริการชาร์จคาดว่าจะอยู่ที่ 3 หมื่นล้านเหรียญไต้หวัน หากรถยนต์ทั้งหมดในไต้หวันล้วนเป็นรถพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดแล้ว ขนาดตลาดบริการชาร์จไฟจะสูงถึง 300,000 ล้านเหรียญไต้หวัน ถ้านับรวมอุปกรณ์ชาร์จมูลค่าจะสูงถึง 400,000 ล้านเหรียญไต้หวัน.
ในยุค EV 2.0 ที่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมในตลาด เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายปรับปรุงประสิทธิภาพการชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยลดเวลาชาร์จจาก 40 นาที หรือ 1 ชั่วโมง อาจสั้นลงเหลือ 20 นาที หรือในอนาคตอาจลดลงเหลือ 5 นาที ภายใต้แนวโน้มนี้ผู้ให้บริการชาร์จจะต้องให้บริการที่มีมาตรฐานสูงเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
เพื่อตอบสนองการชาร์จเร็วพิเศษ การสร้างสถานีชาร์จจะต้องรองรับมาตรฐานได้ตั้งแต่ต้น เช่น การติดตั้งเครื่องชาร์จกำลังไฟสูงพิเศษ 360kW และใช้สายไฟกระบอกชาร์จที่ระบายความร้อนด้วยของเหลวราคาตัวละ 15,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อรองรับกระแสไฟขนาดใหญ่พิเศษสูงถึง 500 แอมป์ และการตั้งค่าข้อมูลจำเพาะที่สูงเป็นพิเศษภายใต้ข้อกำหนดที่ปลอดภัย เพื่อตอบสนองการใช้พลังงานสูงและกระแสไฟสูงสำหรับการชาร์จเร็วพิเศษ
ยานยนต์ไฟฟ้าแพร่หลายมากขึ้น ในยุค EV 2.0 การชาร์จด้วยความเร็วสูงพิเศษกลายเป็นกุญแจสำคัญ
ในอดีตรถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีราคาแพง วิ่งช้าเกินไป และวิ่งได้ระยะทางสั้นเพราะว่าความความจุแบตเตอรี่ต่ำ ปัจจุบัน ทางเทคโนโลยีก้าวหน้า รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่สามารถวิ่งต่อเนื่องได้เกินกว่า 300 กิโลเมตร ราคาต่ำลง มีรุ่นที่ราคาต่ำกว่าล้านบาทให้เลือกหลากหลาย สมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้าเหนือกว่ารถแข่งซะด้วยซ้ำ ในช่วง 130 ปีที่ผ่านมาถือเป็นยุค EV 1.0 ก็ว่าได้ ขณะนี้ได้ก้าวเข้าสู่ยุคที่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังแพร่หลายอย่างกว้างขวาง มุ่งสู่ยุค EV 2.0 แล้ว
ปริมาณการขายรถยนต์ไฟฟ้าในไต้หวันมีสัดส่วนเกิน 5% ในปี 2023 และคาดว่าจะเกิน 10% ในปี 2024 ตามภาวะเช่นนี้ ในปี 2030 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะสูงถึง 250,000 คัน และจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าสะสมรวมทั้งหมดจะถึง 1 ล้านคัน ซึ่งหมายความว่าจะมีความต้องการไฟฟ้า 3 พันล้านหน่วย (กิโลวัตต์-ชั่วโมง) ต่อปี ขนาดตลาดบริการชาร์จคาดว่าจะอยู่ที่ 3 หมื่นล้านเหรียญไต้หวัน หากรถยนต์ทั้งหมดในไต้หวันล้วนเป็นรถพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดแล้ว ขนาดตลาดบริการชาร์จไฟจะสูงถึง 300,000 ล้านเหรียญไต้หวัน ถ้านับรวมอุปกรณ์ชาร์จมูลค่าจะสูงถึง 400,000 ล้านเหรียญไต้หวัน.
ในยุค EV 2.0 ที่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมในตลาด เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายปรับปรุงประสิทธิภาพการชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยลดเวลาชาร์จจาก 40 นาที หรือ 1 ชั่วโมง อาจสั้นลงเหลือ 20 นาที หรือในอนาคตอาจลดลงเหลือ 5 นาที ภายใต้แนวโน้มนี้ผู้ให้บริการชาร์จจะต้องให้บริการที่มีมาตรฐานสูงเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
เพื่อตอบสนองการชาร์จเร็วพิเศษ การสร้างสถานีชาร์จจะต้องรองรับมาตรฐานได้ตั้งแต่ต้น เช่น การติดตั้งเครื่องชาร์จกำลังไฟสูงพิเศษ 360kW และใช้สายไฟกระบอกชาร์จที่ระบายความร้อนด้วยของเหลวราคาตัวละ 15,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อรองรับกระแสไฟขนาดใหญ่พิเศษสูงถึง 500 แอมป์ และการตั้งค่าข้อมูลจำเพาะที่สูงเป็นพิเศษภายใต้ข้อกำหนดที่ปลอดภัย เพื่อตอบสนองการใช้พลังงานสูงและกระแสไฟสูงสำหรับการชาร์จเร็วพิเศษ