
Sign up to save your podcasts
Or


คอร์สอานาปานสติ วันที่ 5-10 ธ.ค. 67 ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตติวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผาราม วรวิหาร
ฉันทะกับหลงมันใกล้เคียงกันนะ เพราะลักษณะของฉันทะคือ อาการของใจที่มันใส่ใจลงไป อาการหลงก็คืออาการที่ใจมันไหลออกไป ถ้าเราเผลอสติก็เป็นหลง ไม่เผลอมันก็เป็นฉันทะ โอกาสที่จะเผลอสติ ง่ายเหมือนกันนะ แต่คนปฏิบัติก็จริงจังแบบที่ไม่ต้องจริงจังมันมากอ่ะ เอ๊ะ ยังไง? ต้องจริงจังนะแต่ว่าไม่ต้องจริงจังมาก เอาจริงนะแต่ไม่ต้องเคร่งเครียด เอาตลอดเวลาเลยนะแต่ว่าไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องอะไรมาก ตรงนั้นมันเป็นฉันทะ ไม่อย่างนั้นมันหลง
เพราะตัวที่จะพาเราให้หลงมันเยอะมากจริงๆนะ อะไรบ้างรู้ไหม? ความรู้ ความรู้กับอะไรที่มันใกล้เคียงกันมากเลย แล้วเราหลงว่ามันคือความรู้ คือ มานะ มานะสังโยชน์ที่พระอนาคามียังละไม่ได้ มันลึกมากเลยนะ มานะกับความรู้ บางทีเราหลงว่าเป็นความรู้ แท้ที่จริงมันคือมานะ มันพุออกมา มันเหมือนกับจุดปะทุของมัน เราเข้าใจว่ามันคือความรู้ แต่แท้ที่จริงเป็นมานะทั้งนั้น มานะถ้ามันอยู่กับตัว มันเป็นมานานุสัย ที่เราเรียกกันว่า อหังการ มมังการา มานานุสัย อนุสัยก็คือ การถือว่าเป็นเราเป็นของเรา การถือว่าเป็นเราเป็นของเรานี่มันคือมานะ แต่ความรู้ในชั้นที่มันจะล่องแก่งของความเป็นเราและความเป็นของเรา มันล่องเข้าไป ล่องเข้าไปอย่างนั้นน่ะ ความรู้ชนิดนั้นเป็นมานะ แล้วเราก็จะหลงความรู้อย่างนี้
พอเราหลงความรู้อย่างนี้นะ มันจะไม่ได้ดูจิตดูใจตัวเอง เวลามันหลงมันจะไม่ได้ดูจิตดูใจตัวเอง แต่มันมีความเข้าใจไปตามความหลง เข้าใจว่าโกรธมีไหม? ไม่มีหรอก ตอนที่โกรธมันก็เข้าใจว่าไม่โกรธ ใช่เปล่า? “เฮ้ย อย่าใจร้อนสิ” “ที่ไหนอ่ะ ไม่ได้ใจร้อน” เพราะมันเข้าใจว่าใจไม่ร้อน อันนั้นมันมาจากอะไร? มันมาจากหลงนะ ทําให้เราเกิดสร้างความเข้าใจ มันเป็นความเข้าใจผิดที่เราหลงว่าถูกอะ ยามโกรธมันมาจากอะไร? มันเข้าใจว่าไม่โกรธ แล้วมันไม่มองข้างใน เพราะมันมั่นใจมากด้วยความมานะ ข้างในนี่มันมั่นใจมากเลย
พระพุทธเจ้าถึงบอกว่าให้อยู่ตรงกลาง พอไปอยู่ตรงกลางมันไม่มีเรา พอมันมีเราแล้วเราเข้าใจว่าเป็นกลาง มันก็จะเป็นเราไปหมด แล้วก็ไปอยู่ ๒ ฟากขั้ว ถ้าเราเดินไปอย่างนั้น เดินไปอย่างนั้น สักพักหนึ่ง มันก็สงสัยกับตัวเอง งง ก็อย่างโกรธนี่ ไม่ได้โกรธใคร มันไม่มีเหยื่อของความโกรธ แต่มันโกรธอยู่ในใจ โกรธไปนานๆ มันมึนงงไม่รู้โกรธใคร ใช่ไหม? เขาก็เลยลดศัพท์โกรธว่าหงุดหงิด หงุดหงิดกับอะไรไม่รู้ งงกับความหงุดหงิด ใช่ไหม? นั่นคือหลง แต่มันตอบไม่ได้ ถ้ามันตอบได้มันไม่หลง
ถ้าเราหลงจึงจะไม่รู้เลยว่ามันคือมลทินนะ โกรธ หนึ่ง ลบหลู่คุณท่าน หนึ่ง ริษยา หนึ่ง ตระหนี่ หนึ่ง มักอวด หนึ่ง พูดปด หนึ่ง มีความปรารถนาลามก หนึ่ง เห็นผิด หนึ่ง พอมันหลงแล้วพวกนี้มันจะเกาะกินใจ เกาะกินใจ เกาะกินใจ
เรื่องราวพวกนี้มันเป็นตาข่ายของอวิชชาที่มันวางไว้สําหรับให้คนเดินหน้าไม่ได้ เข้าไปถึงจุดของความพ้นทุกข์ไม่ได้ เข้าไปถึงความตั้งมั่นแห่งจิตไม่ได้ เข้าไปถึงความบริสุทธิ์แห่งจิตไม่ได้ มันเป็นตาข่ายเป็นกับดักของอวิชชาที่มันวางไว้ แต่ละคนยืนอยู่บนตาข่ายของอวิชชาหมด
แต่พระพุทธเจ้าท่านรู้แจ้งเห็นจริง ท่านนําสิ่งพวกนี้มาแจกแจงให้ละเอียด ตีผ่าเข้าไปในใจของทุกคน ว่ามันเป็นแบบนี้ แบบนี้ แบบนี้ ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะเชื่อพระพุทธเจ้าเท่านั้นนะ ถ้าเราเชื่อพระพุทธเจ้า ได้มองจิตมองใจตนเอง ได้มองตัวเองว่า เออ นี่มันเป็นตาข่ายของอวิชชานะ นี่มันโกรธนะ นี่มันลบหลู่คุณท่านนะ นี่มันอิจฉานะ นี่มันริษยานะ นี่มันโอ้อวดนะ นี่มันพูดปดนะ นี่มันขี้โอ่นะ นี่มันเห็นผิดนะ
#พระกิตติวิมลเมธี #วัดบุปผาราม #อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน #ความตั้งมั่น #จิตตสังขาร
By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)คอร์สอานาปานสติ วันที่ 5-10 ธ.ค. 67 ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตติวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผาราม วรวิหาร
ฉันทะกับหลงมันใกล้เคียงกันนะ เพราะลักษณะของฉันทะคือ อาการของใจที่มันใส่ใจลงไป อาการหลงก็คืออาการที่ใจมันไหลออกไป ถ้าเราเผลอสติก็เป็นหลง ไม่เผลอมันก็เป็นฉันทะ โอกาสที่จะเผลอสติ ง่ายเหมือนกันนะ แต่คนปฏิบัติก็จริงจังแบบที่ไม่ต้องจริงจังมันมากอ่ะ เอ๊ะ ยังไง? ต้องจริงจังนะแต่ว่าไม่ต้องจริงจังมาก เอาจริงนะแต่ไม่ต้องเคร่งเครียด เอาตลอดเวลาเลยนะแต่ว่าไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องอะไรมาก ตรงนั้นมันเป็นฉันทะ ไม่อย่างนั้นมันหลง
เพราะตัวที่จะพาเราให้หลงมันเยอะมากจริงๆนะ อะไรบ้างรู้ไหม? ความรู้ ความรู้กับอะไรที่มันใกล้เคียงกันมากเลย แล้วเราหลงว่ามันคือความรู้ คือ มานะ มานะสังโยชน์ที่พระอนาคามียังละไม่ได้ มันลึกมากเลยนะ มานะกับความรู้ บางทีเราหลงว่าเป็นความรู้ แท้ที่จริงมันคือมานะ มันพุออกมา มันเหมือนกับจุดปะทุของมัน เราเข้าใจว่ามันคือความรู้ แต่แท้ที่จริงเป็นมานะทั้งนั้น มานะถ้ามันอยู่กับตัว มันเป็นมานานุสัย ที่เราเรียกกันว่า อหังการ มมังการา มานานุสัย อนุสัยก็คือ การถือว่าเป็นเราเป็นของเรา การถือว่าเป็นเราเป็นของเรานี่มันคือมานะ แต่ความรู้ในชั้นที่มันจะล่องแก่งของความเป็นเราและความเป็นของเรา มันล่องเข้าไป ล่องเข้าไปอย่างนั้นน่ะ ความรู้ชนิดนั้นเป็นมานะ แล้วเราก็จะหลงความรู้อย่างนี้
พอเราหลงความรู้อย่างนี้นะ มันจะไม่ได้ดูจิตดูใจตัวเอง เวลามันหลงมันจะไม่ได้ดูจิตดูใจตัวเอง แต่มันมีความเข้าใจไปตามความหลง เข้าใจว่าโกรธมีไหม? ไม่มีหรอก ตอนที่โกรธมันก็เข้าใจว่าไม่โกรธ ใช่เปล่า? “เฮ้ย อย่าใจร้อนสิ” “ที่ไหนอ่ะ ไม่ได้ใจร้อน” เพราะมันเข้าใจว่าใจไม่ร้อน อันนั้นมันมาจากอะไร? มันมาจากหลงนะ ทําให้เราเกิดสร้างความเข้าใจ มันเป็นความเข้าใจผิดที่เราหลงว่าถูกอะ ยามโกรธมันมาจากอะไร? มันเข้าใจว่าไม่โกรธ แล้วมันไม่มองข้างใน เพราะมันมั่นใจมากด้วยความมานะ ข้างในนี่มันมั่นใจมากเลย
พระพุทธเจ้าถึงบอกว่าให้อยู่ตรงกลาง พอไปอยู่ตรงกลางมันไม่มีเรา พอมันมีเราแล้วเราเข้าใจว่าเป็นกลาง มันก็จะเป็นเราไปหมด แล้วก็ไปอยู่ ๒ ฟากขั้ว ถ้าเราเดินไปอย่างนั้น เดินไปอย่างนั้น สักพักหนึ่ง มันก็สงสัยกับตัวเอง งง ก็อย่างโกรธนี่ ไม่ได้โกรธใคร มันไม่มีเหยื่อของความโกรธ แต่มันโกรธอยู่ในใจ โกรธไปนานๆ มันมึนงงไม่รู้โกรธใคร ใช่ไหม? เขาก็เลยลดศัพท์โกรธว่าหงุดหงิด หงุดหงิดกับอะไรไม่รู้ งงกับความหงุดหงิด ใช่ไหม? นั่นคือหลง แต่มันตอบไม่ได้ ถ้ามันตอบได้มันไม่หลง
ถ้าเราหลงจึงจะไม่รู้เลยว่ามันคือมลทินนะ โกรธ หนึ่ง ลบหลู่คุณท่าน หนึ่ง ริษยา หนึ่ง ตระหนี่ หนึ่ง มักอวด หนึ่ง พูดปด หนึ่ง มีความปรารถนาลามก หนึ่ง เห็นผิด หนึ่ง พอมันหลงแล้วพวกนี้มันจะเกาะกินใจ เกาะกินใจ เกาะกินใจ
เรื่องราวพวกนี้มันเป็นตาข่ายของอวิชชาที่มันวางไว้สําหรับให้คนเดินหน้าไม่ได้ เข้าไปถึงจุดของความพ้นทุกข์ไม่ได้ เข้าไปถึงความตั้งมั่นแห่งจิตไม่ได้ เข้าไปถึงความบริสุทธิ์แห่งจิตไม่ได้ มันเป็นตาข่ายเป็นกับดักของอวิชชาที่มันวางไว้ แต่ละคนยืนอยู่บนตาข่ายของอวิชชาหมด
แต่พระพุทธเจ้าท่านรู้แจ้งเห็นจริง ท่านนําสิ่งพวกนี้มาแจกแจงให้ละเอียด ตีผ่าเข้าไปในใจของทุกคน ว่ามันเป็นแบบนี้ แบบนี้ แบบนี้ ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะเชื่อพระพุทธเจ้าเท่านั้นนะ ถ้าเราเชื่อพระพุทธเจ้า ได้มองจิตมองใจตนเอง ได้มองตัวเองว่า เออ นี่มันเป็นตาข่ายของอวิชชานะ นี่มันโกรธนะ นี่มันลบหลู่คุณท่านนะ นี่มันอิจฉานะ นี่มันริษยานะ นี่มันโอ้อวดนะ นี่มันพูดปดนะ นี่มันขี้โอ่นะ นี่มันเห็นผิดนะ
#พระกิตติวิมลเมธี #วัดบุปผาราม #อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน #ความตั้งมั่น #จิตตสังขาร