สวัสดีและยินดีต้อนรับเพื่อนๆชาวคริปโตทุกท่านเข้าสู่รายการ Cryptomind DeFi Recap EP.4ดำเนินรายการโดยผม ธีระพงษ์ ศรีสุพรรณ Analyst จาก Cryptomind Advisory ครับ

Defi Recap เป็นรายการที่ทางทีม Cryptomind Research ได้นำเสนอ Overview หรือภาพรวมของ Innovative Defi protocolที่น่าสนใจมาให้เพื่อนๆฟังโดยเนื้อหาจะเน้นไปที่การใช้งานและ หลักการทำงานเบื้องต้นของ Protocol นั้นๆ ซึ่งจะมีการพูดถึงราคาของเหรียญ นั้นๆไปในตัวด้วย

ทั้งนี้ทั้งนั้นทางทีมงานไม่ได้ให้คำแนะนำการลงทุนใดๆทั้งสิ้น

คริปโทเคอร์เรนซี่มีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน

โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

เรียกได้ว่าข่าวการขอเปิด Bitcoin ETF ลงกอง iShare ของ Black Rock นั้นมาแรงมากๆเลยนะครับในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่แปลกใจมากเท่าไหร่ที่ว่าเค้าจะขอเปิด เพราะทางทีมงาน Cryptomind เองก็ได้คุยกันมาสักพักแล้วแต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ ตอนนั้นทางทีมงานเราก็ได้คุยเรื่องสถาบันจะเข้ามาโดยอ้างอิงจาก Big Idea 2023 report ของ Ark Invest และสุดท้ายสถาบันก็เข้ามาเล่นจนได้นะครับ

จริงๆมันไม่ใช่แค่ Blackrock หรอกนะครับที่ยืน ETF แมันก็มีเจ้าใหญ่เจ้าอื่นๆเหมือนกันและมันมีการยื่นขอเปิด ETF จากหลายๆเจ้ามาแล้วหลายรอบนับตั้งแต่ปี 2021 เลย แต่ว่าพอมันเป็น Blacrock เนี่ยความเป็นกระแสมันก็ต้องมากกว่าใครอยู่แล้วเพราะเค้าเป็นกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกนอกจากนั้นแล้ว Big Idea 2023 report ของ Ark invest เองก็ได้มีการพูดถึง Tokenized assets/RWA tokenization ไม่ใช่แค่พุดถึงสิ เรียกได้ว่ากาวถึง Tokenized asset/RWA tokenization แบบโจ่งแจ้งเลยก็ว่าได้วันนี้ผมเลยจะมากาว ONDO Finance แหละ เพราะว่าเป็นโอกาสเหมาะเหม็งของทั้งสองเรื่องเลยคือ Block Rock ETF และ Ark invest ที่กาว Tokenized asset เอาไว้ ซึ่ง ONDO Finance เนี่ยเรียกได้ว่าเป็นตัวตึงและมี Skin in the game ของทั้งสองฝั่งเลยนะครับก็คือจะมี ตัว Product ที่ทำ Tokenized asset ผ่าน iShare ของ Blackrock 

ต้องเท้าความก่อนนะครับว่า ONDO finance เนี่ยเกิดขึ้นมาได้ยังไง ใครคือ Founder ใครคือ Back ใครคือ PartnerFounder ของ ONDO finance เนี่ยก็เป็นทีมที่มากจาก Goldmansach ก็คือเป็นอดีตของ Head of Digital assets ของ Goldmansach เลย

ส่วน Backers / Investors เนี่ยก็ได้ PENTERA Coinbase Founders funds, wintermute, Tigerglobal วึ่งบอกได้เลยว่าก็เป็นตัวตึงในวงการกันทั้งนั้นเลย Backers/Investors รอบนี้ก็ได้ลงไปในรอบ Series A ได้เงินลงทุนไป $20M

Public Funding Raise ได้ประมาณ $34,000,000 บน Coinlist นะครับซึ่งตอนนั้นมันเป็นตบาดหมีคนก็ไม่ค่อยได้สนใจแล้ว

Product ณ ปัจจุบันของ ONDO finance ครับ เรียกได้ว่าเป็น Product ที่ทำ RWA tokenization ให้เกิดขึ้นแล้วจริงๆและมีการใช้งานจริง TVL เกิน $100m และเริ่มเป็นที่พูดถึงกันในวง Crypto แล้ว วันนี้ผมเลยจะมาเล่าให้ฟังกันครับ

สวัสดีและยินดีต้อนรับเพื่อนๆชาวคริปโตทุกท่านเข้าสู่รายการ Cryptomind DeFi Recap EP.3ดำเนินรายการโดยผม ธีระพงษ์ ศรีสุพรรณ Analyst จาก Cryptomind Advisory ครับ

Defi Recap เป็นรายการที่ทางทีม Cryptomind Research ได้นำเสนอ Overview หรือภาพรวมของ Innovative Defi protocolที่น่าสนใจมาให้เพื่อนๆฟังโดยเนื้อหาจะเน้นไปที่การใช้งานและ หลักการทำงานเบื้องต้นของ Protocol นั้นๆ ซึ่งจะมีการพูดถึงราคาของเหรียญ นั้นๆไปในตัวด้วย

ทั้งนี้ทั้งนั้นทางทีมงานไม่ได้ให้คำแนะนำการลงทุนใดๆทั้งสิ้น

คริปโทเคอร์เรนซี่มีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน

โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

Defi Recap EP.3 วันนี้เราก็ยังไม่พ้นธีมของ LST หรือ LSDFi เลยนะครับเพราะผมมองว่า Bullrun รอบหน้า Sector นี้น่าจะเป็นผู้นำและ Capture value ของตลาดคริปโตได้เยอะมากเลยว่าแต่ LSD LST LSDfi คืออะไร ก็มีหลายคนในทวิตเตอร์ได้ถามคำถามนี้นะครับวันนี้ผมก็จะมาอธิบายให้ฟังง่ายๆเลยละกันครับ

ก่อนอื่นมันต้องเริ่มจาก

LSD Liquid staking derivatives โปรเจ็คที่อณุญาติให้เราไปฝาก ETH ใน Platform ของเค้าเพื่อนำไป stake เป็น validator node เช่น Rocket Pool, Lido หรือ FRAX  และสร้างเหรียญตัวแทนขึ้นมาหรือใบเสร็จขึ้นมา ให้เราเอาไปใช้ใน DeFi

LST หรือ Liquistaking tokens ก็คือใบเสร็จที่เราได้มาหลังจากการที่เราไปฝาก ETH ใน LSD platform ต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น stETH, rETH, frxETH, cbETH หรือแม้กระทั่ง WBETH 

LSDfi ก็คือการเอา LST มาต่อยอดสร้างเป็น Product ใหม่ขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น Lybra Finance ที่ผมได้พูดไปใน EP.1 ก็คือหนึ่งใน LSDfi

อ่าวแล้วทำไม Abruzy พูดถึงแต่ LSDfi หรือ LST  จังเลย คำตอบก็คืออย่างที่ผมได้บอกไปว่า Bullrun รอบนี้ LSDfi มาแน่ๆ เพราะถ้าเรามาดูตัวเลขหรือข้อมูล On-chain ดูนะครับจะเห็นได้ว่าตอนนี้ TVL หรือ Total value locked ใน Defi ตอนนี้ Sector ที่มีมุลค่าดงินฝากมากที่สุดเลยก็คือ LSD ซึ่งถ้าเราลองมองย้อนกลับไปตอน Defi Summer ในปี 2020 2021 เนี่ยตอนนั้นก็คือ DEX Money market เป็นตัวนำตลาดและเหรียญของ Protocol เหล่านั้นเนี่ยมี Valuation ที่สูงมากๆในช่วงทีตลาดพีค แค่นั้นยังไม่พอนะครับตอนนี้เราก็เริ่มเห็นคนถอน ETH ออกจาก exchange มาเข้า On-chain มากขึ้นและ ETH ที่เข้า On-chain พวกนั้นก็ไหลเข้าหา LSD platform ซะส่วนใหญ่

กลับมาที่ Prisma กันครับทีนี้ มาดูกันว่าทำไมมันถึงน่ากาว
Prisma protocol ทำให้เราเอา LST token ไป Mint stablecoin Coin (ได้อีกแล้ว) แต่จะไม่เหมือนกับ Lybra จาก EP.1 นะครับ ไอ้ Lybra จาก  EP.1 เนี่ยคือเราจะต้องใช้ stETH ใชมูลค่า $150 เพื่อที่จะ Mint eUSD $100 ใช่ป่ะ แต่ว่าทาง Prisma เนี่ยจะใช้ LST tokens (stETH,frxETH หรือ rETH) เนี่ยอย่างน้อยแค่ $110 ก็จะสามารถ Mint acUSD ได้ถึง $100 เลยทีเดียว นั่นหมายความว่า Capital efficiency ของ Prisma น่าจะทำได้ดีกว่าของ Lybra ซึ่งตัว Code base ของ acUSD stablecoin ของ Prisma เองก็คือมีต้นตอมาจาก Liquity finance ที่เป็น CDP platform ที่ออกเหรียญ LUSD นั่นเอง โดย Code ของ Liquity LUSD นี่คือ Immutable ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้หรือที่เค้าเรียกกันว่า Hard code นั่นเอง ผมก็เลยมองไว้ว่ามันมีความเป็นไปได้สูงมากๆที่ acUSD Stablecoin ของ Prisma เนี่ยก็น่าจะมีการรักษาเสถียรภาพได้ดีคล้ายๆกับ LUSD เลย

ทำไมถึงมาบอกล่ะ ?  ก็เพราะว่าเป็นโอกาสสำหรับคนที่มี LST token คือถ้าคุณถือ stETH, rETH, cbETH หรือ frxETH อยู่เนี่ยถ้า Prisma protocol เปิดตัวให้ใช้งานเมื่อไหร่ล่ะก็ถ้าเราเป็นคนเข้าไปใช้เป็นคนแรกๆเราก็จะได้ Emission ของเหรียญ หรือ Farming reward ได้สูงมากๆนั่นเองเพราะทาง Prisma ได้ Confirm มาแล้วว่า เหรียญ governance $PRISMA เองก็จะเริ่ม emit ตอนเปิดให้ใช้งานเลย

สวัสดีและยินดีต้อนรับเพื่อนๆชาวคริปโตทุกท่านเข้าสู่รายการ Cryptomind DeFi Recap ดำเนินรายการโดยผม ธีระพงษ์ ศรีสุพรรณ Analyst จาก Cryptomind Advisory ครับ

Defi Recap เป็นรายการที่ทางทีม Cryptomind Research ได้นำเสนอ Overview หรือภาพรวมของ Innovative Defi protocolที่น่าสนใจมาให้เพื่อนๆฟังโดยเนื้อหาจะเน้นไปที่การใช้งานและ หลักการทำงานเบื้องต้นของ Protocol นั้นๆ ซึ่งจะมีการพูดถึงราคาของเหรียญ นั้นๆไปในตัวด้วย

ทั้งนี้ทั้งนั้นทางทีมงานไม่ได้ให้คำแนะนำการลงทุนใดๆทั้งสิ้น คริปโทเคอร์เรนซี่มีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนโปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

กลับมาพบกันอีกแล้วนะครับกับ Defi Recap EP.2 วันนี้เราจะมาพูดถึง Maverick Protocol กันนะครับหลายๆคนคงจะเห็นข่าวแล้วแหละว่า Binance Luanchpool  ตัวใหม่ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อ 3 วันก่อนก็คือเหรียญของ Maverick Protocol หรือเหรียญที่มีชื่อว่า $MAV นั่นเอง

สวัสดีและยินดีต้อนรับเพื่อนๆชาวคริปโตทุกท่านเข้าสู่รายการ Cryptomind DeFi Recap

Defi Recap เป็นรายการที่ทางทีม Cryptomind Research ได้นำเสนอ Overview หรือภาพรวมของ Innovative Defi protocolที่น่าสนใจมาให้เพื่อนๆฟังโดยเนื้อหาจะเน้นไปที่การใช้งานและ หลักการทำงานเบื้องต้นของ Protocol นั้นๆ ซึ่งจะมีการพูดถึงราคาของเหรียญ นั้นๆไปในตัวด้วยทั้งนี้ทั้งนั้นทางทีมงานไม่ได้ให้คำแนะนำการลงทุนใดๆทั้งสิ้น

คริปโทเคอร์เรนซี่มีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนโปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

What is Lybra finance ? – Protocol ที่ให้เราสามารถฝาก ETH หรือ sETH เข้าไปแล้ว Mint stablecoin ออกมาได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ลองมองภาพ Lybra เหมือน MakerDao ก็ได้ครับ แต่ว่า stablecoin ของ Lybra หรือ eUSD เนี่ย ถ้าเราถือไว้เฉยๆเราจะได้ดอกเบี้ยทบต้นทบดอกด้วยแต่สำหรับ DAI ของ MakerDao ถ้าเราถือไว้เฉยๆเราจะไม่ได้อะไรเลยซึ่งดอกเบี้ยที่ได้ก็คือมากจาก sETH ที่เราฝากไว้กับ Lybra แล้ว Lybra เองก็เอาไป Stake ที่ไว้ Lido นั่นเองโดยดอกเบี้ยหรือ APY ของ eUSD Lybra stablecoin เนี่ยจะเฉลี่ยอยู่ที่ 7-8% ต่อปี 

ประเด็นคือว่าทำไมเราจำเป็นต้องไป Mint stablecoin ด้วยล่ะ ? แค่เอา ETH ไปฝากที่ Lido เราก็ได้ Yield เป็น ETH แบบเต็มจำนวนแล้วหนิเพราะว่า ถึงแม้ APY ตอนเราถือ Stablecoin เนี่ยจะอยู่ที่ 7-8% แต่เราก็ได้ Yieldไม่เต็ม 7-8% อยู่ดี เพราะว่าเราสามารถมิ้น Stablecoin ได้แค่ 75% ของ ETH ที่ฝากไปเองซึ่งพอคำนวนมาดีๆมันก็ได้เท่าๆกับ Lido หรือ LSD ตัวอื่นๆแหละ เออทำไมเราต้องไป Mint ด้วย ? 

Key factor หรือปัจจัยหลักๆมันอยู่ตรงนี้ครับ ซึ่งสิ่งนั้นเรียกว่า emission farming นั่นเอง ซึ่งมันก็คือเรื่องของ Tokenomics

คือ

ถ้าใครไปฝาก ETH แล้ว Mint eUSD stablecoin มาเนี่ยทาง ก็จะได้ Reward เป็นเหรียญ Lybra $esLRB มา โดย APYในการฟาร์มเหรียญ esLybra เนี่ยจะอยู่แถวๆ 30-40% หรือสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามการขึ้ยลงของราคาเหรียญ LBR เลย ซึ่งคนที่ฟาร์มสามารถ vest esLBR ไปเป็น LBR แล้วเอาไปขายได้  ซึ่งมันก็ได้เยอะกว่าการไป Stake ETH แล้วใช่ไหมล่ะครับ นั่นจึงเหตุผลแหละว่าทำไมนถึงไป Mint eUSD กัน

แต่ใหญ่ๆเลยนะครับ   ว่า LBR เป็นเหรียญที่ฟาร์มฟรี่ได้โดยการ Deposit ETH แล้ว Mint eUSD ในช่วงที่ผ่านมาเราก็เลยเห็น TVL ของ LBR พุ่งอย่างรวดเร็วและแรงทำให้พวก Degen เนี่ยไป Speculate ราคาเหรียญ LBR กับเยอะมากโดย metric ที่เค้าเอามากาวๆกันก็จะเป็น Marketcap เทียบกับ TVL มันก็เลยทำให้ $LBR พุ่งไปถึง  20x เลยทีเดียวซึ่งมันเกิดขึ้นเร็วและแรงมาก แต่หลังจากนั้นราคาก็ร่วงลงมาแรงและเร็วเหมือนกันเนื่องจาก คนที่ฟาร์ม $LBR ในช่วงแรกๆได้ปลดล็อคเหรียญ $LBR จากการ vest มาแล้วเอามาเท 

ถ้าอยากไปฟาร์มล่ะมีความเสี่ยงอะไรที่รู้บ้าง ก็แน่นอนอย่างแรกเลยคือ Smart contract Risk แต่ว่าทางของ  Lybra เองเนี่ยเบื้องต้นก็ถูกAudit โดย SolidityFinance แล้ว

Stablecoin Overview

ปี 2022 เป็นปีที่ตลาด Cryptocurrency ตกหนักอย่างมาก โดยจุดเริ่มต้นของการพังในครั้งนี้หลายคนยกให้เกิดจากความล้มเหลวของ UST Stablecoin จนลามไปถึงการล้มละลายของ FTX ทำให้หลายคนไม่เชื่อมั่นใน Cryptocurrency อีกเลย

Podcast นี้จึงต้องการอธิบาย Stablecoin ว่ามีวิวัฒนาการอย่างไร มีกี่ประเภท จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นอย่างไร พร้อมทั้งเล่าถึงอนาคตของ Stablecoin อีกด้วย

สวัสดีครับสำหรับ Ep นี้ก็จะเป็นการแนะนำตัวและอธิบายคร่าวๆเกี่ยวกับ Cryptomind Research Podcast นะครับ โดยเบื๊องต้น Podcast นี้เป็นส่วนหนึ่งของบริหาร Cryptomind Research ที่เป็น Crypto Research content provider ของบริษัท Cryptomind Advisory ที่เป็นบริษัทที่ได้รับใบอนุญาติที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างถูกต้องจาก กลต. ครับขอฝากตัวด้วยครับ