
Sign up to save your podcasts
Or


คอร์สอานาปานสติ วันที่ 5-10 ธ.ค. 67 ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตตวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผาราม วรวิหาร
การที่มันยื้อกันระหว่างอกุศลกับกุศล เราปฏิบัติมาถึงขั้นนี้แล้ว ให้พึงรู้ว่า “หลุมหลบภัยที่ดีที่สุด คือ ลมหายใจ” จิตที่ตั้งมั่นแล้วรู้ลมเป็นหลุมหลบภัยที่ดีที่สุดนะ พอเข้าสู่ฐานแล้วรู้ลมเลย ตรงนี้จะเป็นหลุมหลบภัยที่ดีที่สุด ไม่ปล่อยให้จิตมันถูกบีบคั้นตีกันระหว่างกุศลกับอกุศล ถ้าปล่อยให้เขาบีบคั้นตีกันระหว่างกุศลกับอกุศลขึ้นมา จะแพ้อกุศลทุกที น้อยครั้งที่กุศลจะชนะอกุศลได้ และกุศลใดก็ตามที่เขาชนะอกุศลมา อีกหน่อยเดี๋ยวมันก็ต้องโดนอกุศลรุกรานอีกมันไม่ถาวร หลุมหลบภัยที่ดีที่สุด คือ เข้าสู่ฐานแล้วรู้ลม จะหลบภัยนี้ได้อย่างแน่นอนและมีแต่จะชนะ
ใจคนเราเวลามันเป็นอกุศลเพราะมันเป็นกุศลมาก่อน เป็นอกุศลมาก่อน แต่จิตที่เป็นอวิชชาของปุถุชน จะหลงในกุศล หลงในกุศลก็คือไม่รู้ในความเป็นกุศลของจิต พอของจิตตัวเองหลงในกุศลและอกุศล มันก็เลยทําให้หลงในกุศลอกุศลของคนอื่นด้วย
ให้สังเกตอย่างไร? ให้สังเกตว่าเมื่อเรามองไม่ค่อยเห็นกุศลในตัวเอง เราก็จะไม่เห็นกุศลของผู้อื่น พอเกิดอกุศลในตัวเอง ทําให้เห็นอกุศลในคนอื่น เวลาเขาทําดีกับเราเท่าไร มันก็รู้สึกในตอนที่กระทํา หลังจากทําไปแล้วนานๆ แล้วก็เขาทําดีมาร้อยครั้งพันครั้งนะ เกิดเขาทําไม่ดีครั้งเดียว มันจะจับอกุศลเลย นี่มันเป็นธรรมชาติของจิตที่มีอวิชชาห่ออยู่ แล้วอวิชชามันจะถนัดในการที่จะห่อจิตให้เป็นแบบนั้น หน้าที่ของมันเลย เพราะมันเป็นหัวหน้าของอกุศล ไม่ได้เป็นหัวหน้าของกุศล อกุศลที่เกิดอยู่ อวิชชามันจะห่อให้จิตหลงไปเลย
พระพุทธเจ้าถึงตรัส อวิชฺชา ภิกฺขเว ปุพฺพงฺคมา อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา หมายความว่า อวิชชาเป็นหัวหน้าอันเป็นที่ประชุมของอกุศลทั้งหมด ตราบใดที่จิตยังมีอวิชชาห่ออยู่ มันจะให้ลงไปที่อกุศล แต่ทั้งๆที่ก่อนที่มันจะเป็นอกุศล มันมีกุศลอยู่ แต่มันหลงอกุศล ด้วยอํานาจของอวิชชา มันไม่รู้ ไม่รู้เรื่องอกุศลในตัวเอง ไม่รู้กุศล แล้วอัตตาตัวตนมันเลยมั่วไปหมดเลย เวลาโกรธ ใครโกรธ? มันว่าเราโกรธใช่ไหม? เวลาดี มันว่าใครดี? ก็เราดี เราดีเราไม่ดี เราดีเราไม่ดี มันจะหลงยึดแต่เราดี ใช่ไหม? แต่ว่าเวลาเราโกรธ มันก็หลงว่าเราดีอยู่นั่นแหละ ถูกไหม? ใช่ไหม? เออหลงไง เวลาโกรธ เกลียดขี้หน้าเขาอยู่ ใครเกลียด เราเกลียดขี้หน้าเขา แต่มันยังหลงว่าเราดี นั่นนะเรียกว่าหลง ทั้งหมดเกิดด้วยอํานาจของอะไร? ของอวิชชา เพราะฉะนั้นพึงรู้ไว้เลยว่า เมื่อมันเป็นอกุศล ก่อนที่เป็นอกุศลมันเป็นกุศลอยู่
สิ่งเหล่านี้จะถูกเปิดเผยหมดเลยเมื่อจิตเข้าสู่ฐานแล้วก็รู้ลม คําว่าเปิดเผยหมายความว่าอะไร? หมายความว่ามันเคลียร์ตัวพวกนี้หมดเลย เพราะตัวที่นิ่งอยู่ที่ฐานมันเป็นกุศลธาตุ ธาตุแท้ตัวดั้งเดิมของมันตัวนี้ ตัวที่นิ่งเฉยอยู่อย่างอิสระ นิ่งอยู่ที่ฐานแล้วรู้ลม ตัวจิตที่นิ่งอยู่ที่ฐานมันเป็นกุศล พอมันมีกําลังขึ้นมามันจึงเกิดอกุศลวิเวกไง เพราะมันเป็นกุศลธาตุพอมันมีกําลังขึ้นมามันจึงเป็นอกุศลวิเวก คือ หลีกออกจากอกุศล สิ่งที่กระทบและจะให้เกิดอกุศล ตัวนี้จะหลีกออก จิตจะไม่เสวยอกุศลมาเป็นอารมณ์โดยเด็ดขาด ตามกําลังของความตั้งมั่น เพราะจิตที่ตั้งมั่นมีสติแลอยู่เป็นตัวกุศลธาตุ เข้าใจไหม? เพราะฉะนั้นตัวความตั้งมั่น ถ้ามันมีกําลังในระดับใด ทิศทางทางเดินของจิตที่ตั้งมั่นในขณะนั้น มันจะเป็นทางเดินของกุศล
ที่พูดนี่พูดเพื่อให้พวกเราเห็นความสําคัญของความตั้งมั่นของจิตนะ เพราะว่าตอนนี้เรารู้จักแล้ว เราทุกคนมีฐานกันหมดแล้ว ได้เห็นความสําคัญว่า มันจําเป็นแล้วหรือยังที่เราจะต้องฝึกฝนอบรมให้จิตนิ่งอยู่ที่ฐานได้ตลอดเวลา ให้เป็นส่วนมากของชีวิต ถ้าเขาอยู่ที่ฐานเป็นส่วนมากของชีวิต นั่นหมายความว่าจิตมันอยู่ข้างในเป็นส่วนมาก ถ้าจิตอยู่ข้างในเป็นส่วนมาก ส่วนมากของชีวิตเป็นกุศล#พระกิตติวิมลเมธี #วัดบุปผาราม #อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน #ความตั้งมั่น #จิตตสังขาร"
By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)คอร์สอานาปานสติ วันที่ 5-10 ธ.ค. 67 ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตตวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผาราม วรวิหาร
การที่มันยื้อกันระหว่างอกุศลกับกุศล เราปฏิบัติมาถึงขั้นนี้แล้ว ให้พึงรู้ว่า “หลุมหลบภัยที่ดีที่สุด คือ ลมหายใจ” จิตที่ตั้งมั่นแล้วรู้ลมเป็นหลุมหลบภัยที่ดีที่สุดนะ พอเข้าสู่ฐานแล้วรู้ลมเลย ตรงนี้จะเป็นหลุมหลบภัยที่ดีที่สุด ไม่ปล่อยให้จิตมันถูกบีบคั้นตีกันระหว่างกุศลกับอกุศล ถ้าปล่อยให้เขาบีบคั้นตีกันระหว่างกุศลกับอกุศลขึ้นมา จะแพ้อกุศลทุกที น้อยครั้งที่กุศลจะชนะอกุศลได้ และกุศลใดก็ตามที่เขาชนะอกุศลมา อีกหน่อยเดี๋ยวมันก็ต้องโดนอกุศลรุกรานอีกมันไม่ถาวร หลุมหลบภัยที่ดีที่สุด คือ เข้าสู่ฐานแล้วรู้ลม จะหลบภัยนี้ได้อย่างแน่นอนและมีแต่จะชนะ
ใจคนเราเวลามันเป็นอกุศลเพราะมันเป็นกุศลมาก่อน เป็นอกุศลมาก่อน แต่จิตที่เป็นอวิชชาของปุถุชน จะหลงในกุศล หลงในกุศลก็คือไม่รู้ในความเป็นกุศลของจิต พอของจิตตัวเองหลงในกุศลและอกุศล มันก็เลยทําให้หลงในกุศลอกุศลของคนอื่นด้วย
ให้สังเกตอย่างไร? ให้สังเกตว่าเมื่อเรามองไม่ค่อยเห็นกุศลในตัวเอง เราก็จะไม่เห็นกุศลของผู้อื่น พอเกิดอกุศลในตัวเอง ทําให้เห็นอกุศลในคนอื่น เวลาเขาทําดีกับเราเท่าไร มันก็รู้สึกในตอนที่กระทํา หลังจากทําไปแล้วนานๆ แล้วก็เขาทําดีมาร้อยครั้งพันครั้งนะ เกิดเขาทําไม่ดีครั้งเดียว มันจะจับอกุศลเลย นี่มันเป็นธรรมชาติของจิตที่มีอวิชชาห่ออยู่ แล้วอวิชชามันจะถนัดในการที่จะห่อจิตให้เป็นแบบนั้น หน้าที่ของมันเลย เพราะมันเป็นหัวหน้าของอกุศล ไม่ได้เป็นหัวหน้าของกุศล อกุศลที่เกิดอยู่ อวิชชามันจะห่อให้จิตหลงไปเลย
พระพุทธเจ้าถึงตรัส อวิชฺชา ภิกฺขเว ปุพฺพงฺคมา อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา หมายความว่า อวิชชาเป็นหัวหน้าอันเป็นที่ประชุมของอกุศลทั้งหมด ตราบใดที่จิตยังมีอวิชชาห่ออยู่ มันจะให้ลงไปที่อกุศล แต่ทั้งๆที่ก่อนที่มันจะเป็นอกุศล มันมีกุศลอยู่ แต่มันหลงอกุศล ด้วยอํานาจของอวิชชา มันไม่รู้ ไม่รู้เรื่องอกุศลในตัวเอง ไม่รู้กุศล แล้วอัตตาตัวตนมันเลยมั่วไปหมดเลย เวลาโกรธ ใครโกรธ? มันว่าเราโกรธใช่ไหม? เวลาดี มันว่าใครดี? ก็เราดี เราดีเราไม่ดี เราดีเราไม่ดี มันจะหลงยึดแต่เราดี ใช่ไหม? แต่ว่าเวลาเราโกรธ มันก็หลงว่าเราดีอยู่นั่นแหละ ถูกไหม? ใช่ไหม? เออหลงไง เวลาโกรธ เกลียดขี้หน้าเขาอยู่ ใครเกลียด เราเกลียดขี้หน้าเขา แต่มันยังหลงว่าเราดี นั่นนะเรียกว่าหลง ทั้งหมดเกิดด้วยอํานาจของอะไร? ของอวิชชา เพราะฉะนั้นพึงรู้ไว้เลยว่า เมื่อมันเป็นอกุศล ก่อนที่เป็นอกุศลมันเป็นกุศลอยู่
สิ่งเหล่านี้จะถูกเปิดเผยหมดเลยเมื่อจิตเข้าสู่ฐานแล้วก็รู้ลม คําว่าเปิดเผยหมายความว่าอะไร? หมายความว่ามันเคลียร์ตัวพวกนี้หมดเลย เพราะตัวที่นิ่งอยู่ที่ฐานมันเป็นกุศลธาตุ ธาตุแท้ตัวดั้งเดิมของมันตัวนี้ ตัวที่นิ่งเฉยอยู่อย่างอิสระ นิ่งอยู่ที่ฐานแล้วรู้ลม ตัวจิตที่นิ่งอยู่ที่ฐานมันเป็นกุศล พอมันมีกําลังขึ้นมามันจึงเกิดอกุศลวิเวกไง เพราะมันเป็นกุศลธาตุพอมันมีกําลังขึ้นมามันจึงเป็นอกุศลวิเวก คือ หลีกออกจากอกุศล สิ่งที่กระทบและจะให้เกิดอกุศล ตัวนี้จะหลีกออก จิตจะไม่เสวยอกุศลมาเป็นอารมณ์โดยเด็ดขาด ตามกําลังของความตั้งมั่น เพราะจิตที่ตั้งมั่นมีสติแลอยู่เป็นตัวกุศลธาตุ เข้าใจไหม? เพราะฉะนั้นตัวความตั้งมั่น ถ้ามันมีกําลังในระดับใด ทิศทางทางเดินของจิตที่ตั้งมั่นในขณะนั้น มันจะเป็นทางเดินของกุศล
ที่พูดนี่พูดเพื่อให้พวกเราเห็นความสําคัญของความตั้งมั่นของจิตนะ เพราะว่าตอนนี้เรารู้จักแล้ว เราทุกคนมีฐานกันหมดแล้ว ได้เห็นความสําคัญว่า มันจําเป็นแล้วหรือยังที่เราจะต้องฝึกฝนอบรมให้จิตนิ่งอยู่ที่ฐานได้ตลอดเวลา ให้เป็นส่วนมากของชีวิต ถ้าเขาอยู่ที่ฐานเป็นส่วนมากของชีวิต นั่นหมายความว่าจิตมันอยู่ข้างในเป็นส่วนมาก ถ้าจิตอยู่ข้างในเป็นส่วนมาก ส่วนมากของชีวิตเป็นกุศล#พระกิตติวิมลเมธี #วัดบุปผาราม #อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน #ความตั้งมั่น #จิตตสังขาร"