ฟังธรรมจากพระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม (พระกิตติวิมลเมธี)

ความตั้งมั่น - การอบรมอานาปานสติสำหรับผู้เริ่มต้น วัดบุปผาราม (26-28 ม.ค. 67 10/14)


Listen Later

การอบรมอานาปานสติสำหรับผู้เริ่มต้น วันที่ 26-28 ม.ค. 67 ณ วัดบุปผาราม กทม. โดยพระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม (พระกิตติวิมลเมธี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผารามวรวิหาร


ความตั้งมั่นแบบผิดๆที่อยู่ในอํานาจของอวิชชาเพิ่มพูนความเป็นเรา เพิ่มพูนความเป็นอัตตาตัวตน และเป็นที่ตั้งอาศัยของกิเลสทั้งหมด ถ้าความตั้งมั่นนั้นแข็งแรงกิเลสก็จะอ้วนพี ความตั้งมั่นที่ผิดนี่อันตรายมาก บางครั้งพระพุทธเจ้าเรียกว่า สุสมาหิต แปลว่า ความตั้งมั่นดี หมายความว่า ความตั้งมั่นที่เกิดจากสติสัมปชัญญะที่ถูกอบรมมา หรือเรียกว่า เป็นสติที่เกิดขึ้นมาจากการเจริญสติปัฏฐานเท่านั้น ถ้าเจริญสติปัฏฐานถูกต้องตามที่พระพุทธเจ้าสอน เราจะสังเกตทําไมถึงกล่าวถึงพระพุทธเจ้าอยู่เรื่อยๆ เพราะในโลกนี้ไม่มีใครรู้ เรื่องที่พูดอยู่นี่มันไม่มีใครรู้ เพราะเราอยู่ในเหยื่อของอวิชชาทั้งหมด พระพุทธเจ้าตรัสรู้จึงนํามาเปิดเผย เราจึงรู้ว่าในตัวของเรายังมีธรรมธาตุอีกชนิดหนึ่ง เราโตมากับจิตที่ตั้งมั่นและมีคุณสมบัติของอวิชชา คือ ความไม่รู้ เพราะฉะนั้นจะทําอะไรก็เข้าทางของอวิชชาหมด ทุกอย่างเลยอยู่ในจินตนาการ อยู่ในความคิด อยู่ในห้วงคํานึง แล้วยิ่งเราเคลื่อนไหวเท่าไร ก็จะเป็นอาหารให้กับอวิชชาหมด ความคิดดีๆที่เราว่าดีแล้ว แต่สุดท้ายมันก็ไปบํารุงอวิชชา ให้เราหมุนวนลูปอยู่ในวัฏสงสารนี้

เพราะฉะนั้นในเรื่องของความตั้งมั่น ที่พูดกันว่าเรารู้ลมหายใจแล้วก็บ่มความตั้งมั่น มันหมายถึง ความตั้งมั่นชนิดที่เป็น สุสมาหิต คือ เป็นความตั้งมั่นดี และความตั้งมั่นนี้จะเกิดขึ้นจากอื่นไม่ได้นอกเหนือจากการรู้ตามความเป็นจริงต่อกายต่อใจเท่านั้น พระพุทธเจ้าถึงบอกว่า

สมาธึ ภิกฺขเว ภาเวถ

พวกเธอจงทําสมาธิกันเถิด

สมาหิโต ภิกฺขเว ภิกฺขุ ยถาภูตํ ปชานาติ

ภิกษุทั้งหลายเพราะจิตที่ตั้งมั่นดีนั้น ย่อมรู้ทุกอย่างตามความเป็นจริง

ยถาภูตํ ปชานาติ แปลว่า รู้ทุกอย่างตามความเป็นจริง คําว่าทุกอย่างในที่นี้ หมายถึง รูป เวทนา สัญญา สังขารวิญญาณ หรือขันธ์ 5 อันหมายถึงกายและใจ รู้กายตามความเป็นจริง รู้ใจตามความเป็นจริง

เมื่อรู้กายรู้ใจนี้ตามความเป็นจริง มันจะรู้ทุกอย่างตามความเป็นจริง

ถ้าไม่รู้กายรู้ใจตามความเป็นจริง มันจะรู้ทุกอย่างผิดหมด

  1. ความเป็นจริงชั้นแรก คือ ความปรากฏรูปลักษณ์ อย่างรูปกายนี้ เนื้อก็รู้ว่าเนื้อ ดูลงไปอีก เราก็รู้ว่าใต้เนื้อเป็นพังผืด น้ำเหลือง เลือด เห็นตามความเป็นจริงของสิ่งที่ปรากฏไม่มีสัญญาอย่างอื่นเข้ามา
  2. ความเป็นจริงชั้นที่ 2 ก็จะเปิดเผยออกมา อย่างความเชื่อที่เราเคยมีอยู่ ว่าผิวสวย ผิวงาม หล่อ น่ารัก คําพูดพวกนี้จะหายไปหมด เพราะมันจะปรากฏความเป็นจริงว่า มันไม่สวย ไม่งาม ไม่น่ารัก เลือดน่ารักไหม ขี้หัวน่ารักไหม ขี้หูน่ารักไหม มันเป็นปฏิกูลเผยตัวเองออกมา
  3. ความจริงชั้นที่ 3 รูปที่แยกย่อยออกมาเป็นส่วนละเอียดที่เราเรียกว่า ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ม้าม หัวใจ ตับ พังผืด ไต ปอด ไส้ใหญ่ ไส้น้อย อาหารใหม่ อาหารเก่า ที่เป็นธาตุดินนี้ล้วนแต่เกิดขึ้นด้วยเหตุและปัจจัย แล้วมีปัจจัยเข้าไปปรุงแต่งเปลี่ยนแปลงแปรปรวนตลอดเวลา ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ และมันจะแตกสลาย

ความจริงชั้นแรกนี้เห็นด้วยการนิ่งรู้เฉยอยู่อย่างอิสระ ถ้านิ่งรู้เฉยอยู่อย่างอิสระ มันจะตรง เห็นมันก็คือเห็น ได้ยินมันก็คือได้ยิน แต่ถ้าไม่นิ่งรู้เฉยอยู่อย่างอิสระ พอเห็นปั๊บมันมีสัญญาเข้าไป สัญญา อุปาทาน คือ การยึดมั่นถือมั่นที่ผูกพันไว้กับภาษาเรียกทั้งหลาย พอเห็นคนนี้ โอ้โหหน้าตาดีนะ เห็นตามอำนาจของสัญญาที่ปรุงแต่ง

แต่ในตัวที่นิ่งรู้เฉยอยู่อย่างอิสระจะตรง ไม่ปรุงอะไร เห็นก็คือเห็น ได้ยินก็คือได้ยิน ได้กลิ่นก็คือได้กลิ่น ในความจริงชั้นแรกนี้พระพุทธเจ้าท่านสอนพาหิยทารุจีริยะว่า เห็นก็สักแต่ว่าเห็น พอเห็นตรงแล้วนะ ก็สักแต่ว่าเห็น หมายถึง ไม่ปรุง ได้ยินสักว่าได้ยินก็คือไม่ปรุง ได้กลิ่นสักว่าได้กลิ่นก็ไม่ปรุง คิดสักว่าคิดก็คือไม่ปรุง ไม่ปรุงเห็นแล้วนิ่งเฉยรู้อยู่อย่างอิสระ คือการไม่ปรุง ตัวนี้ถ้าไม่ฝึกไม่ได้ แต่สภาวะปรุงกับไม่ปรุงมีอยู่ไหม มีอยู่ แต่เราอยู่กับการปรุงมาเป็นปกติเพราะเรามีความเชื่อว่านี่เป็นตัวเรา แล้วเราก็มีความรู้ มีความจําอยู่ข้างในนี้เยอะมาก พอเห็นอะไรปั๊บก็ปรุง เวลาปรุงก็เป็นที่ตั้งของอะไร ข้างในของใจที่มันนอนเนื่องอยู่ เรียก อาสวะ

พอเรามาปฏิบัติธรรม สภาวะที่นิ่งรู้เฉยอยู่อย่างอิสระในการเจริญสตินี้ ตรงต่อสิ่งที่ถูกรู้อันเป็นกายและใจอย่างแท้จริง พอตรงปั๊บความตั้งมั่นที่เกิดขึ้นจากสติที่บริสุทธิ์ คือ ความตั้งมั่นที่มีสติและเป็นฐานของรู้ ตัวนี้จะเป็นตัวอุเบกขาที่มีกําลังเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ กําลังเขาจะทํางานเป็นที่ตั้งของวิชชา วิชชาที่เกิดจะดับอวิชชาโดยปริยาย

อวิชฺชา ปหียติ ละอวิชชาได้

วิชฺชา อุปฺปชฺชติ วิชชาก็เกิดขึ้น ทันที

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ฟังธรรมจากพระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม (พระกิตติวิมลเมธี)By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)