ฟังธรรมจากพระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม (พระกิตติวิมลเมธี)

นำปฏิบัติบัลลังก์ที่ 1 นิ่งรู้ - คอร์สอานาปานสติ วัดบุปผาราม (8-12 ธ.ค. 66 3/21)


Listen Later

คอร์สอานาปานสติ วันที่ 8-12 ธ.ค. 66 ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตติวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผารามวรวิหาร

พระสารีบุตรจึงกล่าวไว้ในเรื่องของลมว่า รู้ลมหายใจออก รู้ลมหายใจเข้า รู้ลมหายใจออกหายใจเข้า ท่านก็กล่าวไว้ 3 แบบ ลมหายใจเข้าลมหายใจออกเป็นธรรมชาติที่มีอยู่จริง เราก็รู้ไปตามนั้นโดยไม่ได้หวังอะไร ไม่ต้องการอะไร ไม่ต้องไปตกแต่งอะไร

จากการทําลมยาวก็ปล่อยลมให้ปกติ ถ้ากายสงบนิ่งไม่มีเกร็งในส่วนหนึ่งส่วนใด มือวางนิ่ง ลําตัวตั้งตรง ใบหน้านิ่ง แรงสั่นสะเทือนกระเพื่อมของกายก็มีแค่ลมหายใจ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ร่างกายก็มีการสั่นสะเทือน เมื่อร่างกายสั่นสะเทือนตัวรู้ก็รู้ได้ ถ้ามันรู้ก็รู้ไปก็แค่รู้ไปเฉยๆ ร่างกายสั่นสะเทือนตัวรู้ก็รู้ได้ รู้ลมรู้การสั่นสะเทือนของกายนี่เรียกว่ารู้รูป เกิดความรู้สึกขึ้นนี่เรียกว่ารู้ความรู้สึก แค่รู้ นี่รู้เวทนา มีความคิดเกิดขึ้นก็รู้ เรียกว่า รู้จิต รู้ความคิด กายยิ่งสงบมากเท่าไรความรู้สึกก็จะเกิดขึ้นง่ายเท่านั้น เมื่อความรู้สึกสงบลงไปความคิดก็จะเกิดขึ้น เมื่อความคิดสงบลงไปความผุดผ่องของจิตก็จะเกิดขึ้น

ตัวรอที่รู้นี้กับตัวรู้ที่คลออยู่ คือ ตัววิตกวิจาร ถ้าเพียรรู้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ตัวรอก็จะสงบตัวเองไป ตัวคลอก็จะสงบตัวเองไป ตัวรู้ก็จะเป็นอิสระมากขึ้น สิ่งที่ถูกรู้ก็จะเป็นธรรมชาติมากขึ้น ความรวดเร็วของตัวรู้ที่ตรงต่อสิ่งที่ถูกรู้ก็จะรวดเร็วยิ่งขึ้น เรียกว่า เท่าทันลมกระทบออกลมกระทบเข้า ความแผ่วเบาของลมนั่นคือธรรมชาติ เป็นความปราณีต ความแผ่วเบาเป็นความปราณีตของลมนั่นหมายความว่า ตัวผู้รู้ก็ปราณีตขึ้นมีกําลังเพิ่มขึ้น ตัวรู้ที่มีกําลังเพิ่มขึ้นในขณะที่ลมมันแผ่วเบาปราณีตก็จะเห็นความรู้สึกปรากฏ ความรู้สึกนี้อาศัยกาย ร้อนเย็นปวดเจ็บคันชา เป็นความรู้สึกที่อาศัยกายเกิดขึ้น ก็รู้แค่รู้เท่านั้น ไม่มีความสงสัยในสภาวะใดๆ ไม่มีความปรารถนาอะไร ไม่มีความอยากจะได้อะไร ไม่มีความอยากจะรู้อะไร รู้จึงจะเป็นอิสระ รู้ง่ายๆซื่อๆตรงๆ ถ้าใครที่มีวิตกวิจารดับไปแล้ว คือว่า มันไม่ต้องรอเพื่อที่จะรู้ ไม่ต้องจ้องที่จะรู้ นั่นนะวิตกวิจารเขาระงับตัวลงเกิดเป็นความปราณีตขึ้นที่ลม ที่รู้มีกําลัง ก็จะเกิดความโปร่งความสบาย ณ ภายใน มีความรู้สึกที่เรียกว่าเวทนาเกิด รู้นิ่งอยู่กับลมและก็ชำเลืองรู้ไปที่เวทนา ชําเลืองรู้ไปที่ความรู้สึกได้ ให้เขาชําเลืองโดยที่รู้ไม่หลุดออกไปที่เวทนา ปวดรู้ก็ไม่หลุดออกไปที่ปวด แค่ชําเลืองรู้ ปล่อยวางใจให้ได้นะ ยังไงมันก็ไม่หักไม่ขาด ยังไงมันก็ไม่ตาย แต่ถ้ารู้หลุดไปจมอยู่แล้ว เวทนาที่เกิดอยู่มันจะเป็นมากยิ่งขึ้น ทําให้เรานิ่งอยู่ในอิริยาบถอย่างแน่วแน่ไม่ได้ กายก็จะกระสับกระส่าย พอกายกระสับกระส่าย ลมมันก็จะหยาบขึ้น รู้ก็จะแผ่วเบาขึ้น กําหนดก็จะเข้ามามีกําลัง พอร่างกายสงบระงับ ความรู้สึกคือเวทนาก็จะโผล่ รู้ยังอยู่ที่นิมิต เรียกว่า รู้อยู่ภายใน ชําเลืองรู้ไปที่เวทนาด้วย ทําหน้าที่แค่ชําเลืองรู้ เหมือนโคแม่ลูกอ่อนกําลังเล็มหญ้าอยู่ชําเลืองดูลูกน้อย เมื่อมันเกิดการวางใจได้ เบาใจได้ เย็นใจได้ ตัวรู้ที่ตรงต่อสิ่งที่ถูกรู้ก็จะเป็นธรรมชาติมากขึ้น เวทนาก็จะอ่อนกําลังลง ความรู้สึกก็จะอ่อนกําลังลง เพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกรู้ เกิดขึ้นจากเหตุจากปัจจัย ตั้งอยู่ตามเหตุตามปัจจัย และก็ดับไปตามเหตุตามปัจจัย รู้จะเข้าถึงกลไกของขันธ์ทั้ง 5 เมื่อสัญญาไม่ได้ออกมาทํางาน ตัวเวทนาก็ดับ เพราะว่ามันไม่ได้ปรุงแต่ง ถ้าสัญญาทํางาน ตัวเวทนาคือความรู้สึกต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น สัญญาเข้ามาทํางานด้วยก็จะเกิดการปรุงแต่ง การปรุงแต่งขึ้นมารู้ก็จะหลุดออกมาอยู่กับเวทนา ก็จะเข้าไปสู่การปรุงแต่ง มันเกิดขึ้นง่าย เกิดขึ้นได้ ณ ขณะนั้นตัวรู้ก็จะหยุดทําหน้าที่มีแต่เรา เราก็สงบกายให้ตัวรู้ตั้งขึ้น ถ้ารู้ตั้งขึ้นรู้ก็จะหลุดออกมาจากเวทนาแล้วก็รู้ลมไปอย่างเดิมอย่างเป็นธรรมชาติของมัน เริ่มต้นด้วยองค์ของความรู้ใหม่ รู้ลมออก รู้ลมเข้า รู้ลมออกลมเข้าไปตามธรรมชาติของมัน จนตัววิตกวิจารมันสงบไป รู้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ตัวเวทนาก็โผล่ ตัวความรู้สึกโผล่ มันอาศัยกาย เป็นเย็น เป็นร้อน เป็นปวด เป็นเหน็บ เป็นคัน เป็นชา เกิดขึ้นได้ ตัวรู้ก็ชำเลืองดูอยู่กับลม ลมก็จะปราณีต รู้ดูเวทนา ชําเลืองดูเวทนาในฐานะแค่รู้ จนตัวรู้มีความนิ่งมาเป็นฐานอย่างมีกําลังในระดับหนึ่ง ตัวความรู้สึกหรือตัวเวทนาที่มีอยู่ก็มีกําลังเบากว่า กว่ารู้ที่อยู่กับนิ่ง รู้ก็จะทําหน้าที่แค่รู้อย่างเป็นอิสระและมีกําลังมากขึ้น จนตัวผู้รู้ปล่อยวางเวทนาได้ เพราะมีความนิ่งมาเป็นวิหาระ มีความนิ่งมาเป็นฐานให้กับรู้ มีกําลังเหนือกว่าเวทนา เขาก็แค่รู้เวทนาที่ปรากฏได้ การชําเลืองรู้เวทนาก็เกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติ เกิดขึ้นอย่างเป็นอิสระมากขึ้น ถ้าเกิดความผุดผ่องภายในก็แค่รู้ มีความคิดเกิดขึ้นก็แค่รู้

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ฟังธรรมจากพระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม (พระกิตติวิมลเมธี)By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)