ฟังธรรมจากพระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม (พระกิตติวิมลเมธี)

นำปฏิบัติบัลลังก์ที่ 7 นิ่งรู้เฉยอยู่อย่างอิสระที่ฐาน - คอร์สอานาปานสติ วัดบุปผาราม (21-24 มี.ค. 67 15/17)


Listen Later

คอร์สอานาปานสติ วันที่ 21-24 มี.ค. 67 ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตติวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผาราม วรวิหาร


เส้นทางที่เรากําลังเลือก กําลังปฏิบัติอยู่ ที่พระพุทธเจ้าท่านชี้นี้ มันตรงกับตัวปรารถนาดั้งเดิมของตัวจิตนะ จิตมันมีความปรารถนาดั้งเดิม เพื่อความอิสระ เพื่อความบริสุทธิ์ เพื่อความปราศจากทุกข์ทั้งปวง แต่สิ่งที่มาประกอบกับจิต อวิชชา ตัณหา อุปาทาน มันกระชากลากจิตนี้ ให้จมปลักอยู่กับเส้นทางสายนี้

ทําไมเราจึงนิยมชมชอบเรื่องของความยินดี เพราะความยินดีมันเป็นความสุข จิตที่ปรารถนาความสุข มันจึงปรารถนาความยินดี เพราะฉะนั้นมันจึงยึดติด นําพาตัวตน เพื่อให้เข้าไปประกอบพัวพันอยู่กับความน่ายินดีทั้งหมด แต่ความน่ายินดีทั้งหมดที่มันปรากฏต่อจิต และจิตสําคัญว่ามันเป็นสุขนั้น ล้วนแต่ไม่เที่ยง มันเกิดดับและเสื่อม แปรปรวนอยู่ตลอด ความยินดีทั้งหลายมันก็จะกลายมาเป็นความทุกข์

  • ความไม่ยินดี มันก็คือ ความทุกข์
  • ความยินดี มันก็คือ ความทุกข์

ดํารงสติเฉพาะหน้า คือ การนิ่งรู้เฉยอยู่อย่างอิสระที่ฐาน การนิ่งรู้เฉยอยู่อย่างอิสระที่ฐานนี้ ไม่ได้มีกรอบว่า รู้ต้องชัดขนาดไหน แรงขนาดไหน เบาขนาดไหน ไม่ได้หมายไว้ ถ้าว่าหมายไว้ เราก็เข้าไปแทรกรู้ ให้พึงดูขณะจิตแรก ที่รู้นิ่งอยู่ที่ฐานนั้นเป็นอย่างไร แล้วก็เพียรประกอบ ให้นิ่งรู้อยู่ที่ฐานนั้นตามกําลังที่มันลงตัวที่สุด ไม่เข้าไปแทรกแซงอะไรเลย

  • เมื่อลมหายใจปรากฏ ก็รู้ลมที่รู้ได้ ตรงๆ เป็นจริง
  • เมื่อลมออกไหลมากระทบ สั่นสะเทือนถึงตัวผู้รู้ ตัวผู้รู้ก็รู้ลมนั้น
  • เมื่อลมเข้ามากระทบ สั่นสะเทือนถึงตัวผู้รู้ ตัวผู้รู้ก็รู้ลมนั้น

ตัวรู้นิ่งรู้เฉยอยู่อย่างอิสระ ไม่ต้องไปพยายามประคับประคอง หรือไปประกอบการใดๆให้มันชัด ให้มันมั่น ให้มันแน่วแน่ ไม่ต้อง เป็นอย่างไรก็อย่างนั้นตามธรรมชาติ มันจึงจะเป็นอิสระ

แม้มีผัสสะอันใดที่เกิดขึ้น มันก็แค่รู้ ไม่ออกจากฐาน เพื่อเข้าไปปรุงแต่งกับสภาวะใดๆ ถ้ามันซื่อแล้วก็ตรงอย่างนี้ ความสงบก็จะต่อเนื่อง เป็นความสงบชนิดที่มีสติแลอยู่ จิตก็เกิดความปราณีต

  • ในยามที่ไม่มีลม ก็นิ่งรู้เฉยอยู่

เพียงแค่ถ้าจิตมันหลุดออกไป ก็กลับมา

  • หลุดออกไปคิด ก็รู้
  • หลุดออกจากฐานไปรู้ที่อื่น ก็รู้
  • แต่ถ้าเขาอยู่ที่ฐาน ก็รู้อย่างอื่นด้วย นั่นแหละคือ แค่รู้
  • ไม่ไปคว้า ไม่ไปจับ ไม่ไปยึด เรียกว่า ไม่ไปปรุง
  • ทันทีที่จิตลงตัวอย่างนี้ ความสงบมันจะปรากฏทันที
  • การที่ตัวรู้นิ่งรู้เฉยอยู่อย่างอิสระ แล้วเขารู้ลม
  • นั่นก็จิต มีลมนั้นเป็นอารมณ์
  • ตัวรู้มีลมนั้นเป็นอารมณ์อันเดียว
  • แล้วรู้ รู้อย่างอื่น มีการสั่นสะเทือนของกาย ก็แค่รู้

อาการที่แค่รู้นี้ มันไม่เอา มันไม่เข้าไปจัดการ ไม่เข้าไปปรุง

ในขณะที่นิ่งรู้เฉยอยู่อย่างอิสระที่ฐานและก็รู้สภาวะที่ปรากฏอยู่นั้น ขณะจิตที่เกิดดับ เกิดดับ ด้วยความเป็นอย่างนั้น ด้วยสติ มันก็จะแผดเผา เครื่องร้อยรัดใจ เครื่องผูกใจที่มีอยู่แต่เดิม ด้วยอํานาจของอวิชชา

  • พอมันปราณีต มันก็แช่มชื่นภายใน ลมหายใจเข้าก็เย็น ก็แค่รู้
  • พอมันแช่มชื่น แล้วเวลาหายใจเข้า เกิดความเย็น ก็แค่รู้
  • เกิดความแผ่ซ่านอันใดเกิดขึ้น ภายในกายในจิตที่รู้ได้ ก็แค่รู้
  • ไม่ไปถลําลึกกับสภาวะใดๆที่ปรากฏ

ในขณะที่นิ่งรู้เฉยอยู่ที่ฐานอย่างอิสระ สติเข้าไปรู้ตรงต่ออาการกายอาการใจดังกล่าว

  • เกิดเวทนา ก็แค่รู้
  • เกิดความคิดก็แค่รู้

แต่ความเพียรประกอบยังต่อเนื่อง

  • เกิดเป็นสัญญาผุดขึ้นมา ก็แค่รู้

ถ้าแค่รู้ได้ จิตจะไม่หลุดออกจากฐาน นิ่งรู้เฉยอยู่ยังคงเป็นอิสระดังเดิม

  • เกิดความสงบก็อย่าไปดีใจ อย่าไปเสียใจ
  • เกิดความปราณีต ก็แค่ความประณีตนะ รู้
  • เกิดสดชื่นภายใน ก็แค่รู้
  • ร่าเริง ก็แค่รู้
  • เกิดสภาวะนิ่ง คือ จิตมันนิ่งเด่น ก็แค่รู้
  • พอจิตนิ่งเด่นอยู่ชั่วแป๊บๆ กิดเป็นความคิดขึ้นมา ก็แค่รู้
  • เกิดความสงสัย ก็แค่รู้
  • เกิดความกังวล ก็แค่รู้

#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน#ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ฟังธรรมจากพระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม (พระกิตติวิมลเมธี)By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)