
Sign up to save your podcasts
Or


คอร์สอานาปานสติ วันที่ 8-12 ธ.ค. 66 ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตติวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผาราม วรวิหาร
ทําไมต้องฟังธรรม เพราะถ้าไม่ฟังก็ไม่รู้ใช่ไหม แล้วทําไมเราต้องปฏิบัติธรรม เพราะถ้าไม่ปฏิบัติธรรมก็หมดโอกาสในการที่จะออกจากวัฏฏะ ปฏิบัติธรรมเพื่อให้มีโอกาสออกจากวัฏฏะ ที่เขาเรียกปฏิบัติธรรม ทําไมต้องรักษาศีล สมาธิ และปัญญา คือ มรรค เรารักษาศีลเพราะถ้าเป็นปฏิปักษ์ต่อศีลในแต่ละข้อ จิตจะดิ่งลงสู่ภูมิแห่งอบายทันที ถ้าจิตดิ่งลงสู่ภูมิแห่งอบายทันทีมันยากแล้ว เพราะฉะนั้นเบื้องต้นก็ต้องพยุงรักษา ศีลจึงเป็นข้อปฏิบัติที่คอยพยุงรักษาภูมิแห่งจิต ไม่ให้ดิ่งลงอบาย อบาย คือ นรก เปรต อสูรกาย เดรัจฉาน มันเกิดขึ้นในขณะจิตที่เป็นปัจจุบันนี้นะ คือ ถ้าในขณะจิตที่เป็นปัจจุบันนี้เป็นเปรต ถ้าตายไปในขณะที่เป็นเปรต มันก็เป็นเปรต เป็นอสูรกายมันก็เป็นอสูรกาย เป็นนรกมันก็เป็นนรก ในขณะที่เป็นนรกอยู่ แล้วเศษเสี้ยวของความเป็นนรก เป็นนรกอยู่นานมากแล้วก็หลุดจากความเป็นนรก เศษเสี้ยวของการหลุดออกมาจากการเป็นนรก เศษเสี้ยวของมันเขาเรียกว่า เศษวิบาก เศษเสี้ยวที่เหลือของการอยู่ในนรก เป็นนรก ก็จะมาเป็นอันนู้น อันนี้ อันนั้น อีกหลายเรื่องเลย ถ้าพื้นจิตนี้มันดิ่งลงไปอยู่ในภูมิอะไร ในกามาวจรภูมิ คือ ภูมิที่ยังเกี่ยวข้องอยู่กับกามนี้ มันมีโอกาสเสี่ยงมากกับการที่มันจะร่วงลงไปเป็นนรกภูมิ เป็นปิตติวิสยภูมิ เป็นอสูรกายภูมิ เป็นติรัจฉานภูมิ คําว่าภูมิในที่นี้ คือ ตัวจิต ถ้ามันชอกช้ำบ่อยๆ ผิดหวังบ่อยๆ ภูมิจิตมันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ดังนั้นเปรต นรก อสูรกาย ติรัจฉานภูมิ ทั้งหมดนี้อยู่ที่นี่ ถ้าปล่อยให้มันเป็นไปตามกําลังของอวิชชา
พระพุทธเจ้าบอก
ยสฺส ติณฺโณ กามปงฺโก หล่มคือกามอันบุคคลใดข้ามได้แล้ว
มทฺทิโต กามกณฺฏโก หนามคือกามอันผู้ใดขยี้ได้แล้ว
โมหกฺขยมนุปฺปตฺโต ถ้าข้ามได้ ขยี้ได้ มันจะถึงการสิ้นไปของโมหะโดยลําดับ
โมหะมาจากอวิชชาใช่ไหม อวิชชาและก็โมหะ ถ้ามันข้ามหล่มคือกาม ขยี้หนามคือกามไม่ได้ นั่นหมายความว่ามันอยู่ในกระบวนการที่การทําลายโมหะไปโดยลําดับ มันถึงความสิ้นไปของโมหะโดยลําดับ มันซ่อนอยู่ภายใน ถึงความสิ้นไปของโมหะโดยลําดับ
นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก ผู้นั้นชื่อว่าอยู่ในที่ใกล้พระนิพพาน
ทีนี้ถอยกลับไปดูประโยคแรก ยสฺส ติณฺโณ กามปงฺโก หล่มคือกามอันผู้ใดข้ามแล้ว ข้ามมันมีอยู่ 2 แบบนะ ถ้าเรายืนอยู่อย่างนี้ หล่มมันอยู่ข้างหน้า ข้ามมันก็คือ เดินข้ามไปตรงๆ ซึ่งมันอาจจะข้ามไม่ได้นะมันติดหล่มใช่ไหม หรือหาวิธีใดก็ได้ที่เดินข้ามหล่มคือกามนี้ ลองนึกดูนะ หรืออีกวิธีหนึ่ง ไม่ต้องไปใกล้มันเลย ท่านพูดแบบนี้หมายความว่า ตัวรู้เดิมไม่ได้จมอยู่ใน แต่อวิชชามันไม่รู้ จึงทําให้หลงเดินเข้าไปสู่หล่ม ลงไปในหลุมแห่งกาม ลงในบ่อกาม ในสระของกาม ตัวเดิมมันยังไม่ลงนะ มันลงเมื่อตอนที่เป็นอวิชชาและเป็นโมหะคือหลง หลงแล้วก็เดินลงไปในหล่ม พอหลงเดินไปในหล่มแล้วมันก็ติด ติด 2 แบบ แบบหนึ่งอยากถอนตัวออกมา แต่ยิ่งดิ้นยิ่งลึก อีกแบบหนึ่ง ชอบใจติดใจเพลินก็ดําผุดดําว่ายอยู่ในหล่มนั้น ตอนแรกยังไม่ลงเพราะอวิชชาและโมหะทำให้ไม่รู้แล้วก็หลงเดินลงไป นี่ว่ากันด้วยสภาวะล้วนๆนะ เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่า มันไม่ได้หล่นลงไปในหล่มนี้ตลอดเวลา สภาพจิตเราไม่ได้หล่นลงไปในหล่มคือกามนี้ตลอดเวลา เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้ พระพุทธเจ้าสอนเราว่า ให้ตั้งสติแล้วก็รู้ตรงไปที่กายแท้ๆ พอตั้งสติ หมายความว่าเวลาตั้งสติมันคือ ยืนอยู่ในฝั่งที่ไม่สามารถที่จะเดินลงไปในหล่มได้เมื่อตั้งสติ ปริมุขํ สตึ อุปฏฺฐเปตฺวา มันไม่สามารถที่จะเดินลงไปในหล่มได้ แต่การที่มันเดินลงไปในหล่มและอยู่ในหล่มนั้นบ่อยครั้ง ตัวอวิชชา ตัวโมหะ เมื่อลงไปในหล่ม มันก็ได้สั่งสมสิ่งซึ่งชื่อว่าอนุสัย เคลือบอยู่ ตามฐานะที่เรียก อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ คือเป็น ตัวจรมา เคลือบอยู่ อยู่ตรงนี้อยู่ แต่เมื่อเราตั้งสติตามที่พระพุทธเจ้าว่า ปริมุขํ สตึ อุปฏฺฐเปตฺวา ลงไปที่กายแท้ๆ วางผู้รู้อยู่ที่นิมิต นิ่งรู้ถึงขั้นที่เรียกว่า เอาตั้งแต่แรกเลยก็ได้ ตั้งแต่เริ่มเลย วางจิตผู้รู้ไว้ที่นิมิตและทําการรู้ลมตรงนี้รู้ลมเข้า รู้ลมออก เมื่อใดที่ตัวรู้ตรงต่อสิ่งที่ถูกรู้ ทําตรงนี้ให้เป็นปัจจุบันขณะที่แท้ๆ ตัวรู้ที่รู้อยู่นั้นเป็นปัจจุบันธรรม ลมที่เกิดในขณะเดียวกันกับตัวผู้รู้เป็นปัจจุบันกาล ปัจจุบันกาลกับปัจจุบันธรรม เรียกว่า ปัจจุบันแท้
#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน
By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)คอร์สอานาปานสติ วันที่ 8-12 ธ.ค. 66 ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตติวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผาราม วรวิหาร
ทําไมต้องฟังธรรม เพราะถ้าไม่ฟังก็ไม่รู้ใช่ไหม แล้วทําไมเราต้องปฏิบัติธรรม เพราะถ้าไม่ปฏิบัติธรรมก็หมดโอกาสในการที่จะออกจากวัฏฏะ ปฏิบัติธรรมเพื่อให้มีโอกาสออกจากวัฏฏะ ที่เขาเรียกปฏิบัติธรรม ทําไมต้องรักษาศีล สมาธิ และปัญญา คือ มรรค เรารักษาศีลเพราะถ้าเป็นปฏิปักษ์ต่อศีลในแต่ละข้อ จิตจะดิ่งลงสู่ภูมิแห่งอบายทันที ถ้าจิตดิ่งลงสู่ภูมิแห่งอบายทันทีมันยากแล้ว เพราะฉะนั้นเบื้องต้นก็ต้องพยุงรักษา ศีลจึงเป็นข้อปฏิบัติที่คอยพยุงรักษาภูมิแห่งจิต ไม่ให้ดิ่งลงอบาย อบาย คือ นรก เปรต อสูรกาย เดรัจฉาน มันเกิดขึ้นในขณะจิตที่เป็นปัจจุบันนี้นะ คือ ถ้าในขณะจิตที่เป็นปัจจุบันนี้เป็นเปรต ถ้าตายไปในขณะที่เป็นเปรต มันก็เป็นเปรต เป็นอสูรกายมันก็เป็นอสูรกาย เป็นนรกมันก็เป็นนรก ในขณะที่เป็นนรกอยู่ แล้วเศษเสี้ยวของความเป็นนรก เป็นนรกอยู่นานมากแล้วก็หลุดจากความเป็นนรก เศษเสี้ยวของการหลุดออกมาจากการเป็นนรก เศษเสี้ยวของมันเขาเรียกว่า เศษวิบาก เศษเสี้ยวที่เหลือของการอยู่ในนรก เป็นนรก ก็จะมาเป็นอันนู้น อันนี้ อันนั้น อีกหลายเรื่องเลย ถ้าพื้นจิตนี้มันดิ่งลงไปอยู่ในภูมิอะไร ในกามาวจรภูมิ คือ ภูมิที่ยังเกี่ยวข้องอยู่กับกามนี้ มันมีโอกาสเสี่ยงมากกับการที่มันจะร่วงลงไปเป็นนรกภูมิ เป็นปิตติวิสยภูมิ เป็นอสูรกายภูมิ เป็นติรัจฉานภูมิ คําว่าภูมิในที่นี้ คือ ตัวจิต ถ้ามันชอกช้ำบ่อยๆ ผิดหวังบ่อยๆ ภูมิจิตมันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ดังนั้นเปรต นรก อสูรกาย ติรัจฉานภูมิ ทั้งหมดนี้อยู่ที่นี่ ถ้าปล่อยให้มันเป็นไปตามกําลังของอวิชชา
พระพุทธเจ้าบอก
ยสฺส ติณฺโณ กามปงฺโก หล่มคือกามอันบุคคลใดข้ามได้แล้ว
มทฺทิโต กามกณฺฏโก หนามคือกามอันผู้ใดขยี้ได้แล้ว
โมหกฺขยมนุปฺปตฺโต ถ้าข้ามได้ ขยี้ได้ มันจะถึงการสิ้นไปของโมหะโดยลําดับ
โมหะมาจากอวิชชาใช่ไหม อวิชชาและก็โมหะ ถ้ามันข้ามหล่มคือกาม ขยี้หนามคือกามไม่ได้ นั่นหมายความว่ามันอยู่ในกระบวนการที่การทําลายโมหะไปโดยลําดับ มันถึงความสิ้นไปของโมหะโดยลําดับ มันซ่อนอยู่ภายใน ถึงความสิ้นไปของโมหะโดยลําดับ
นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก ผู้นั้นชื่อว่าอยู่ในที่ใกล้พระนิพพาน
ทีนี้ถอยกลับไปดูประโยคแรก ยสฺส ติณฺโณ กามปงฺโก หล่มคือกามอันผู้ใดข้ามแล้ว ข้ามมันมีอยู่ 2 แบบนะ ถ้าเรายืนอยู่อย่างนี้ หล่มมันอยู่ข้างหน้า ข้ามมันก็คือ เดินข้ามไปตรงๆ ซึ่งมันอาจจะข้ามไม่ได้นะมันติดหล่มใช่ไหม หรือหาวิธีใดก็ได้ที่เดินข้ามหล่มคือกามนี้ ลองนึกดูนะ หรืออีกวิธีหนึ่ง ไม่ต้องไปใกล้มันเลย ท่านพูดแบบนี้หมายความว่า ตัวรู้เดิมไม่ได้จมอยู่ใน แต่อวิชชามันไม่รู้ จึงทําให้หลงเดินเข้าไปสู่หล่ม ลงไปในหลุมแห่งกาม ลงในบ่อกาม ในสระของกาม ตัวเดิมมันยังไม่ลงนะ มันลงเมื่อตอนที่เป็นอวิชชาและเป็นโมหะคือหลง หลงแล้วก็เดินลงไปในหล่ม พอหลงเดินไปในหล่มแล้วมันก็ติด ติด 2 แบบ แบบหนึ่งอยากถอนตัวออกมา แต่ยิ่งดิ้นยิ่งลึก อีกแบบหนึ่ง ชอบใจติดใจเพลินก็ดําผุดดําว่ายอยู่ในหล่มนั้น ตอนแรกยังไม่ลงเพราะอวิชชาและโมหะทำให้ไม่รู้แล้วก็หลงเดินลงไป นี่ว่ากันด้วยสภาวะล้วนๆนะ เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่า มันไม่ได้หล่นลงไปในหล่มนี้ตลอดเวลา สภาพจิตเราไม่ได้หล่นลงไปในหล่มคือกามนี้ตลอดเวลา เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้ พระพุทธเจ้าสอนเราว่า ให้ตั้งสติแล้วก็รู้ตรงไปที่กายแท้ๆ พอตั้งสติ หมายความว่าเวลาตั้งสติมันคือ ยืนอยู่ในฝั่งที่ไม่สามารถที่จะเดินลงไปในหล่มได้เมื่อตั้งสติ ปริมุขํ สตึ อุปฏฺฐเปตฺวา มันไม่สามารถที่จะเดินลงไปในหล่มได้ แต่การที่มันเดินลงไปในหล่มและอยู่ในหล่มนั้นบ่อยครั้ง ตัวอวิชชา ตัวโมหะ เมื่อลงไปในหล่ม มันก็ได้สั่งสมสิ่งซึ่งชื่อว่าอนุสัย เคลือบอยู่ ตามฐานะที่เรียก อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ คือเป็น ตัวจรมา เคลือบอยู่ อยู่ตรงนี้อยู่ แต่เมื่อเราตั้งสติตามที่พระพุทธเจ้าว่า ปริมุขํ สตึ อุปฏฺฐเปตฺวา ลงไปที่กายแท้ๆ วางผู้รู้อยู่ที่นิมิต นิ่งรู้ถึงขั้นที่เรียกว่า เอาตั้งแต่แรกเลยก็ได้ ตั้งแต่เริ่มเลย วางจิตผู้รู้ไว้ที่นิมิตและทําการรู้ลมตรงนี้รู้ลมเข้า รู้ลมออก เมื่อใดที่ตัวรู้ตรงต่อสิ่งที่ถูกรู้ ทําตรงนี้ให้เป็นปัจจุบันขณะที่แท้ๆ ตัวรู้ที่รู้อยู่นั้นเป็นปัจจุบันธรรม ลมที่เกิดในขณะเดียวกันกับตัวผู้รู้เป็นปัจจุบันกาล ปัจจุบันกาลกับปัจจุบันธรรม เรียกว่า ปัจจุบันแท้
#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน