
Sign up to save your podcasts
Or


คอร์สอานาปานสติ วัดป่าไม้แดง จ.เชียงใหม่ วันที่ 10-14 ธ.ค. 65 นำปฏิบัติโดย พระกิตติวิมลเมธี (สุชีพ สุธมฺโม) วัดบุปผาราม กทม.ณ สำนักปฏิบัติธรรมสวนป่าพุทธชยันตี อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่
ปัญหาของนักปฏิบัติการน้อมจิตผู้รู้ ให้สภาวะรู้ดำรงอยู่เฉพาะหน้าแล้ว แต่การน้อมรู้เขามารู้ลมมันเร็วไป กลายเป็นเราไปหมด ตัวกำหนดเวลารู้ลมโผฏฐัพพารมณ์กลายเป็นเราเข้าไปรู้
การรู้ลมยาว คือ ลมธรรมดา ลมปกติ ลมธรรมชาติ ยาวโดยลักษณะของการสัมผัสนาน ลมที่หายใจออกกระทบกับกายประสาทในร่องจมูก ลมที่กระทบกับกายประสาท ลมนั้นเป็นลมที่เราเอาตัวรู้เข้าไปรู้มัน
ท่านแสดงอุปกิเลสไว้ว่า ผู้ปฏิบัติ ต้องไม่ปล่อยให้ตัวรู้ วิ่งไปสู่อดีตหรืออนาคต
อดีตคือวิ่งตามไปรู้ลมที่สัมผัสไปแล้วออกไป สัมผัสแล้วเข้าไป
อนาคตคือไม่ไปวิ่งหาลมที่ยังไม่ได้สัมผัส ส่วนมากวิ่งไปหาอนาคตนี้ คือตัณหาจริยา อยากรู้โผฏฐัพพารมณ์ให้มันชัดๆ ลมยังไม่สัมผัส ตัวรู้วิ่งเข้าไปหาลมนั้นก่อน จึงทำให้เกิดการหวั่นไหวของผู้รู้ จิตก็เลยฟุ้ง หรือลมเข้ายังไม่สัมผัส ตัวรู้ตั้งท่าเพื่อที่จะเข้าไปหาลมนั้น น้อมนำมันมาเพื่อที่จะให้เกิดการสัมผัส ลมออกที่ยังไม่สัมผัส ตัวรู้ตั้งท่าโน้มน้าวที่จะรู็การสัมผัส จึงวิ่งไปหาลมนั้นที่ยังไม่ได้สัมผัส
ดังนั้นตัวผู้รู้ต้องชัดเจนบริเวณนิมิต ไม่ใช่ปักนิมิต แต่ว่าทรงตัวอยู่ เฝ้ารู้อยู่ รออยู่
ท่านเปรียบเหมือนยามเฝ้าประตู ยามมีหน้าที่ยืนที่ป้อมยามดูคนเข้าออกเฉพาะคนที่เดินเข้าสู่ประตู เขารู้คนนั้น คนที่เดินออกประตู ตรงจุดที่ประตูเขารู้คนนั้น คนที่ยังไม่เข้าไม่สนใจ คนที่ออกหรือเข้าไปแล้วก็ไม่สนใจ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของทหารยาม
การน้อมจิตผู้รู้ เมื่อจิตผู้รู้ทรงตัวอยู่เฉพาะหน้าแล้ว ระลึกเข้ามาสู่นิมิต แล้วรู้คลออยู๋ที่นิมิตนั้น อย่าเพิ่งไปวิ่งหาลม รู้คลออยู่ที่นิมิต จนตัวผู้รู้เขารู้ลมที่ผ่านเข้าออกได้ จากนั้นค่อยไปรู้ลมที่เป็นโผฏฐัพพารมณ์ เวลารู้ลมที่เป็นโผฏฐัพพารมณ์ ต้องรู้ให้มันชัดเจน รู้เฉพาะลมที่สัมผัสเท่านั้น ลมที่ยังไม่สัมผัสไม่สนใจ ลมที่สัมผัสแล้วก็ไม่สนใจ ซึ่งมันเกิดง่ายมากถ้าเป็นเราปัญญากำลังของรู้ไม่พัฒนา แม้รู้ถูกแล้ว ก็คือการเติมฉันทะเข้าไปสู่รู้ ถ้าเราไม่เติมฉันทำเข้าไปสู่รู้ ในการรู้นั้น กายคือลม ไม่ปรากฏต่อรู้ สติก็ไม่ปรากฏ แล้วตัวรู้จะแยกไม่ออกว่าอะไรลม อะไรรู้ อะไรสติ ตัวที่จะทำให้แยกกออกคือฉันทะ ที่เราจะต้องเติมเข้าไป
ขั้นตอนการเข้าสู่สมาธิ
#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน
By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)คอร์สอานาปานสติ วัดป่าไม้แดง จ.เชียงใหม่ วันที่ 10-14 ธ.ค. 65 นำปฏิบัติโดย พระกิตติวิมลเมธี (สุชีพ สุธมฺโม) วัดบุปผาราม กทม.ณ สำนักปฏิบัติธรรมสวนป่าพุทธชยันตี อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่
ปัญหาของนักปฏิบัติการน้อมจิตผู้รู้ ให้สภาวะรู้ดำรงอยู่เฉพาะหน้าแล้ว แต่การน้อมรู้เขามารู้ลมมันเร็วไป กลายเป็นเราไปหมด ตัวกำหนดเวลารู้ลมโผฏฐัพพารมณ์กลายเป็นเราเข้าไปรู้
การรู้ลมยาว คือ ลมธรรมดา ลมปกติ ลมธรรมชาติ ยาวโดยลักษณะของการสัมผัสนาน ลมที่หายใจออกกระทบกับกายประสาทในร่องจมูก ลมที่กระทบกับกายประสาท ลมนั้นเป็นลมที่เราเอาตัวรู้เข้าไปรู้มัน
ท่านแสดงอุปกิเลสไว้ว่า ผู้ปฏิบัติ ต้องไม่ปล่อยให้ตัวรู้ วิ่งไปสู่อดีตหรืออนาคต
อดีตคือวิ่งตามไปรู้ลมที่สัมผัสไปแล้วออกไป สัมผัสแล้วเข้าไป
อนาคตคือไม่ไปวิ่งหาลมที่ยังไม่ได้สัมผัส ส่วนมากวิ่งไปหาอนาคตนี้ คือตัณหาจริยา อยากรู้โผฏฐัพพารมณ์ให้มันชัดๆ ลมยังไม่สัมผัส ตัวรู้วิ่งเข้าไปหาลมนั้นก่อน จึงทำให้เกิดการหวั่นไหวของผู้รู้ จิตก็เลยฟุ้ง หรือลมเข้ายังไม่สัมผัส ตัวรู้ตั้งท่าเพื่อที่จะเข้าไปหาลมนั้น น้อมนำมันมาเพื่อที่จะให้เกิดการสัมผัส ลมออกที่ยังไม่สัมผัส ตัวรู้ตั้งท่าโน้มน้าวที่จะรู็การสัมผัส จึงวิ่งไปหาลมนั้นที่ยังไม่ได้สัมผัส
ดังนั้นตัวผู้รู้ต้องชัดเจนบริเวณนิมิต ไม่ใช่ปักนิมิต แต่ว่าทรงตัวอยู่ เฝ้ารู้อยู่ รออยู่
ท่านเปรียบเหมือนยามเฝ้าประตู ยามมีหน้าที่ยืนที่ป้อมยามดูคนเข้าออกเฉพาะคนที่เดินเข้าสู่ประตู เขารู้คนนั้น คนที่เดินออกประตู ตรงจุดที่ประตูเขารู้คนนั้น คนที่ยังไม่เข้าไม่สนใจ คนที่ออกหรือเข้าไปแล้วก็ไม่สนใจ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของทหารยาม
การน้อมจิตผู้รู้ เมื่อจิตผู้รู้ทรงตัวอยู่เฉพาะหน้าแล้ว ระลึกเข้ามาสู่นิมิต แล้วรู้คลออยู๋ที่นิมิตนั้น อย่าเพิ่งไปวิ่งหาลม รู้คลออยู่ที่นิมิต จนตัวผู้รู้เขารู้ลมที่ผ่านเข้าออกได้ จากนั้นค่อยไปรู้ลมที่เป็นโผฏฐัพพารมณ์ เวลารู้ลมที่เป็นโผฏฐัพพารมณ์ ต้องรู้ให้มันชัดเจน รู้เฉพาะลมที่สัมผัสเท่านั้น ลมที่ยังไม่สัมผัสไม่สนใจ ลมที่สัมผัสแล้วก็ไม่สนใจ ซึ่งมันเกิดง่ายมากถ้าเป็นเราปัญญากำลังของรู้ไม่พัฒนา แม้รู้ถูกแล้ว ก็คือการเติมฉันทะเข้าไปสู่รู้ ถ้าเราไม่เติมฉันทำเข้าไปสู่รู้ ในการรู้นั้น กายคือลม ไม่ปรากฏต่อรู้ สติก็ไม่ปรากฏ แล้วตัวรู้จะแยกไม่ออกว่าอะไรลม อะไรรู้ อะไรสติ ตัวที่จะทำให้แยกกออกคือฉันทะ ที่เราจะต้องเติมเข้าไป
ขั้นตอนการเข้าสู่สมาธิ
#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน