ถ้าจะแสดงโดยปฏิบัติ ให้แน่ชัดลงไปแล้วละก็ ในสัจธรรมนี้นะคือ
ใคร รู้จักพระพุทธเจ้าเสียก่อน พระพุทธเจ้านะคือใคร ที่ไปเห็นสัจธรรมทั้ง ๔ นะ
เห็นด้วยพระสิทธัตถราชกุมาร หรือด้วยตาของพระสิทธัตถราชกุมาร
ความเห็น ความรู้ของพระสิทธัตถราชกุมาร หรือไม่ใช่
หรือเห็นด้วยกายละเอียดของพระสิทธัตถราชกุมาร กายที่นอนฝัน
ออกไปนะ ไม่ใช่ ไม่ได้เป็นด้วยตานั้นกายนั้น
เห็นด้วยตากายทิพย์ของพระสิทธัตถราชกุมาร หรือกายที่ฝันในฝัน
ออกไปนะ ไม่ใช่ เห็นด้วยกายนั้นเป็นพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ไม่ได้
เห็นด้วยตากายทิพย์ละเอียดของพระสิทธัตถราชกุมารอย่างนั้นหรือ
ถึงจะเป็นพระพุทธเจ้าได้ ไม่ใช่ ไม่เห็นเช่นนั้น เพราะสัจธรรมนี่เป็นขั้นท้าย
ไม่ใช่เห็นขั้นต้น
เห็นด้วยตากายรูปพรหม หรือรูปพรหมละเอียดของพระสิทธัตถราชกุมาร
อย่างนั้นหรือ เห็นทุกข์ เห็นเหตุเกิดทุกข์ ความดับทุกข์ ข้อปฏิบัติให้
ถึงความดับทุกข์ ไม่ใช่
เห็นด้วยตากายอรูปพรหมอรูปพรหมละเอียดของพระสิทธัตถราชกุมาร
เป็นกายที่ ๗ ที่ ๘ กระนั้นหรือ ไม่ใช่ เห็นด้วยตากายนั้น มันอยู่ในภพ
มันทะลุหลุดสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าไม่ได้ มันยังติดภพอยู่
ท่านเห็นด้วยตาธรรมกาย ธรรมกายที่เป็นโคตรภูนะ ยังหาได้เป็น
พระโสดา สกทาคาไม่ ยังหาได้เป็นโสดามรรคผล สกทาคามรรคผล
อนาคามรรคผล อรหัตมรรคผล ไม่
เห็นด้วยตากายธรรม รู้ด้วยญาณของกายธรรม ไม่ใช่รู้ด้วยดวงวิญญาณ
เพราะกายมนุษย์มีดวงวิญญาณ ญาณไม่มี
กายมนุษย์กายมนุษย์ละเอียดกายทิพย์กายทิพย์ละเอียดมี
ดวงวิญญาณทั้งนั้น ดวงญาณไม่มี
กายรูปพรหมรูปพรหมละเอียดมีแต่ดวงวิญญาณ ดวงญาณไม่มี
กายอรูปพรหมอรูปพรหมละเอียดมีแต่ดวงวิญญาณ ดวงญาณไม่มี
พอถึงกายธรรมเข้า มีญาณทีเดียว