
Sign up to save your podcasts
Or


คอร์สอานาปานสติ วันที่ 21-24 มี.ค. 67 ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตติวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผารามวรวิหารการฝึกตัวรู้ ก็คือ ดูกายดูใจ แต่ชีวิตอยู่ข้างนอกดูแต่กายแต่ใจอย่างเดียวไม่ได้ ก็เลยเป็นดูนอกดูใน รู้นอกรู้ใน รู้นอกก็ต้องรู้ตามความเป็นจริง ตาเห็นก็เห็นตามความเป็นจริง หูได้ยินก็ได้ยินจริง จมูกได้กลิ่นก็ได้กลิ่นจริง กายสัมผัสก็สัมผัสจริง แต่จริงที่เกิดขึ้น ที่ตัวรู้เข้าไปรู้ รู้นอกนี้ มันรู้กันตรงๆในขณะจิต รู้ว่าได้เห็น ได้เห็นที่เรียกว่ารู้ ถ้าเห็นแล้ว มันดับ ได้ยิน รู้ กําลังได้ยินอยู่ รู้ มันตรงๆ เราได้ยินแล้ว แสดงว่ามันดับ ตัวได้ยินดับ
ตัวผู้รู้มันบ่มความตั้งมั่นอย่างไร? ตัวผู้รู้บ่มความตั้งมั่น ให้ตัวความตั้งมั่นที่มีอยู่ภายในนั้นมีสติแลอยู่ ในตัวความตั้งมั่นมีสติพร้อมที่จะทํางาน แต่ในขณะที่ยังไม่ทํางานเราก็ไม่เรียกเขาว่าสติ จิตเป็นธาตุรู้อยู่กับความตั้งมั่น มันพร้อมที่จะรู้ เวลารู้มันเป็นสติ
อย่างได้ยินเสียง รู้ ตัวที่กระโดดไปจากความตั้งมั่นเพื่อไปรับรู้เสียงนั่นแหละเป็นสติ พอเสียงจบมันดับ สติจึงดับ สติจึงเกิดและดับ แต่ละขณะของจิต ถ้าสติที่เกิดและดับไปทุกครั้งที่เป็นสติบริสุทธิ์ก็จะมาบ่มความตั้งมั่น ทําให้ตัวผู้รู้ก็มีฐาน
ความตั้งมั่นเหมือนกับฐานของเจดีย์ เป็นตัวนิ่งอยู่ข้างใน เราเพียรรู้ด้วยสติ ความตั้งมั่นจะเกิดขึ้นเองตามเหตุที่เราได้ทําอย่างถูกต้อง อันนี้เรียกว่า รู้ข้างนอก
งานการทั้งหลายที่เราจะต้องไปเกี่ยวพันกับสิ่งต่างๆ
ตัวรู้อยู่ข้างในอยู่กับความตั้งมั่น แล้วก็รู้นอก รู้สิ่งเหล่านี้
ทีนี้รู้ใน รู้ในนี่สําคัญ รู้ในจะเป็นตัววัดภูมิ ภูมิของตัวผู้รู้ รู้ในคือรู้อะไร? เขาเรียกว่ารู้ อนงฺค หรือ องฺคณ องฺคณ คือเนิน หรือ กิเลส พระสารีบุตรท่านเคยพูดเกี่ยวกับตัวผู้รู้ว่า ในหนึ่งขณะจิต ในโลกนี้จะมีคนอยู่ 4 ประเภท
กิเลสที่มองเห็นได้ง่าย ท่านเรียกว่ากิเลส แต่ในภาษาบาลีท่านเรียก องฺคณ คือ กิเลสที่เป็นเนินออกมา หมายถึง ๒ ตัวเท่านั้นเอง คือ ความโกรธและความไม่แช่มชื่น ความโกรธ เรียกว่า กุปฺปิโต หรือ โกโป ความไม่แช่มชื่น เรียกว่า อปฺปจฺจโย โกรธและไม่แช่มชื่น มันกําเริบออกมา ไม่ใช่ตัวเดิมตัวใน เป็น องฺคณ มันเป็นเนินที่ออกมา เป็นสิ่งที่ผู้ปฏิบัติจะต้องดูในภายใน มันจะเกิดขึ้นจากคําว่า อิจฉาวจร คือ การท่องไปของความปรารถนา แล้วมันเกิดติดขัด หรือเกิดการไม่สมปรารถนาอันใดอันหนึ่งจึงกําเริบ เรียกว่า โกโป กําเริบมาเป็นความโกรธ พอเป็นความโกรธแล้ว เลยเกิดความไม่แช่มชื่นในขณะนั้น ความกําเริบ เรียกว่า โกป หรือ ความโกรธ และความไม่แช่มชื่นนั่นแหละ ที่พระสารีบุตรท่านบอกว่า ให้ดูอันนี้ เพราะมันเกิดบ่อย มันเกิดเรื่อย
รู้นอกรู้ใน
#อานาปานสติ #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน#ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน#ผู้รู้ #จิตตั้งมั่น #จิตตสังขาร #เจตสิก #อิจฉาวจร #อังคะณะ #โกโป #อัปปะติโต
By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)คอร์สอานาปานสติ วันที่ 21-24 มี.ค. 67 ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตติวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผารามวรวิหารการฝึกตัวรู้ ก็คือ ดูกายดูใจ แต่ชีวิตอยู่ข้างนอกดูแต่กายแต่ใจอย่างเดียวไม่ได้ ก็เลยเป็นดูนอกดูใน รู้นอกรู้ใน รู้นอกก็ต้องรู้ตามความเป็นจริง ตาเห็นก็เห็นตามความเป็นจริง หูได้ยินก็ได้ยินจริง จมูกได้กลิ่นก็ได้กลิ่นจริง กายสัมผัสก็สัมผัสจริง แต่จริงที่เกิดขึ้น ที่ตัวรู้เข้าไปรู้ รู้นอกนี้ มันรู้กันตรงๆในขณะจิต รู้ว่าได้เห็น ได้เห็นที่เรียกว่ารู้ ถ้าเห็นแล้ว มันดับ ได้ยิน รู้ กําลังได้ยินอยู่ รู้ มันตรงๆ เราได้ยินแล้ว แสดงว่ามันดับ ตัวได้ยินดับ
ตัวผู้รู้มันบ่มความตั้งมั่นอย่างไร? ตัวผู้รู้บ่มความตั้งมั่น ให้ตัวความตั้งมั่นที่มีอยู่ภายในนั้นมีสติแลอยู่ ในตัวความตั้งมั่นมีสติพร้อมที่จะทํางาน แต่ในขณะที่ยังไม่ทํางานเราก็ไม่เรียกเขาว่าสติ จิตเป็นธาตุรู้อยู่กับความตั้งมั่น มันพร้อมที่จะรู้ เวลารู้มันเป็นสติ
อย่างได้ยินเสียง รู้ ตัวที่กระโดดไปจากความตั้งมั่นเพื่อไปรับรู้เสียงนั่นแหละเป็นสติ พอเสียงจบมันดับ สติจึงดับ สติจึงเกิดและดับ แต่ละขณะของจิต ถ้าสติที่เกิดและดับไปทุกครั้งที่เป็นสติบริสุทธิ์ก็จะมาบ่มความตั้งมั่น ทําให้ตัวผู้รู้ก็มีฐาน
ความตั้งมั่นเหมือนกับฐานของเจดีย์ เป็นตัวนิ่งอยู่ข้างใน เราเพียรรู้ด้วยสติ ความตั้งมั่นจะเกิดขึ้นเองตามเหตุที่เราได้ทําอย่างถูกต้อง อันนี้เรียกว่า รู้ข้างนอก
งานการทั้งหลายที่เราจะต้องไปเกี่ยวพันกับสิ่งต่างๆ
ตัวรู้อยู่ข้างในอยู่กับความตั้งมั่น แล้วก็รู้นอก รู้สิ่งเหล่านี้
ทีนี้รู้ใน รู้ในนี่สําคัญ รู้ในจะเป็นตัววัดภูมิ ภูมิของตัวผู้รู้ รู้ในคือรู้อะไร? เขาเรียกว่ารู้ อนงฺค หรือ องฺคณ องฺคณ คือเนิน หรือ กิเลส พระสารีบุตรท่านเคยพูดเกี่ยวกับตัวผู้รู้ว่า ในหนึ่งขณะจิต ในโลกนี้จะมีคนอยู่ 4 ประเภท
กิเลสที่มองเห็นได้ง่าย ท่านเรียกว่ากิเลส แต่ในภาษาบาลีท่านเรียก องฺคณ คือ กิเลสที่เป็นเนินออกมา หมายถึง ๒ ตัวเท่านั้นเอง คือ ความโกรธและความไม่แช่มชื่น ความโกรธ เรียกว่า กุปฺปิโต หรือ โกโป ความไม่แช่มชื่น เรียกว่า อปฺปจฺจโย โกรธและไม่แช่มชื่น มันกําเริบออกมา ไม่ใช่ตัวเดิมตัวใน เป็น องฺคณ มันเป็นเนินที่ออกมา เป็นสิ่งที่ผู้ปฏิบัติจะต้องดูในภายใน มันจะเกิดขึ้นจากคําว่า อิจฉาวจร คือ การท่องไปของความปรารถนา แล้วมันเกิดติดขัด หรือเกิดการไม่สมปรารถนาอันใดอันหนึ่งจึงกําเริบ เรียกว่า โกโป กําเริบมาเป็นความโกรธ พอเป็นความโกรธแล้ว เลยเกิดความไม่แช่มชื่นในขณะนั้น ความกําเริบ เรียกว่า โกป หรือ ความโกรธ และความไม่แช่มชื่นนั่นแหละ ที่พระสารีบุตรท่านบอกว่า ให้ดูอันนี้ เพราะมันเกิดบ่อย มันเกิดเรื่อย
รู้นอกรู้ใน
#อานาปานสติ #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน#ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน#ผู้รู้ #จิตตั้งมั่น #จิตตสังขาร #เจตสิก #อิจฉาวจร #อังคะณะ #โกโป #อัปปะติโต