รายการพอดแคสต์เพลงดนตรีคลาสสิคของฉัน

รายการดนตรีคลาสสิก 22 มีนาคม 2568


Listen Later

โดยปกติแล้วกลุ่มคนฟังดนตรีคลาสสิกในบ้านเราที่สนใจฟังจริงๆมาจาก 2 กลุ่มหลักๆก็คือ คนที่เกี่ยวข้องกับนักดนตรีไม่ว่าจะเคยเล่นดนตรีมาก่อนหรือว่าญาติ คนสนิท มิตรสหายเป็นคนเล่นแล้วฟังเพิ่มเติมต่อเนื่องกันไป อันนี้ผมจะมองว่าเป็นกลุ่มคนที่ออกจากวงกลม อีกกลุ่มนึงคือเป็นคนฟังดนตรีที่มาจากการเล่นอุปกรณ์ฟังเพลงที่เรามักจะเรียกว่า Audiophile มันจะสนใจเครื่องเสียงหรือหูฟังแล้วลองฟังดนตรีไปเรื่อยๆแล้วเราชอบมันขึ้นมาจนฟังดนตรีคลาสสิกไปเรื่อยๆ ในอันนี้ผมจะมองว่าเป็นกลุ่มคนที่มองเข้าไปในวงกลม จะสังเกตได้ว่านักวิจารณ์ดนตรีหรือแม้แต่คนที่สนใจดนตรีในกลุ่มนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับดนตรีไปมากกว่าการเป็นคนฟังเลย เรียนจบหรือทำงานก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย ซึ้งถ้าว่ากันจริงๆแล้วผมเองก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มนี้เช่นกัน และทั้งสองกลุ่มนี้ก็เป็นคู่ขนานในวงการของตัวเองด้วยซ้ำไป คือคนที่เคยเป็นนักดนตรีก็ไปฟังคอนเสิร์ตของกลุ่มเดียวกันเล่นไม่ได้สนใจว่าคนที่อยากฟังเขาอยากจะฟังอะไรแต่อยากหวังให้คนมาฟัง และในขณะเดียวกันที่คนเล่นฟังเพลงก็สนใจแต่อุปกรณ์การฟังอัพเกรตอุปกรณ์ตัวเองอาจจะเป็นหลักหมื่นหลักแสนถึงล้านเลยที่เดียวและฟังผลงานเก่าวนไปเรื่อยๆต่อไป

และนี่เป็นสิ่งที่ผมเจอบ่อยๆเวลาที่ผมไปดูงานเครื่องเสียงต่างๆในช่วงหลังๆ ถามถึงความชอบในการฟังเพลงซื้งผมบอกว่าในความสำคัญกับแนวนี้ที่สุด และผมก็บอกว่าผมไปดูคอนเสิร์ตและฟังเครื่องเสียงตัวจบของผมไปเรื่อยๆไม่ได้อัพอะไรแบบจริงๆจังๆนานแล้ว ผมให้ความสำคัญกับการไปดูคอนเสิร์ตและฟังสตรีมผลงานใหม่ๆ ยังไม่รวมซีดีเก่าๆอีกด้วย นักเล่นอุปกรณ์เหล่านี้มักคิดว่ายุคทองของดนตรีคลาสสิกมันคือช่วงปี 1950-1970 ที่สมัยนี้มันแตกต่างจากยุคปัจจุปันที่การเล่นในมุมมองของคนเล่นเครื่องเสียงที่มันไม่เป็นศิลปะที่ยอดเยี่ยมอีกแล้ว แล้วเมื่อผมบอกว่าผมให้ความสำคัญกับคอนเสิร์ตมากกว่าและการฟังบันทึกเสียงไม่ได้มีความมายมากมายเช่นนั้นคนเล่นเครื่องเสียงหลายคนจึงสงสัยว่าทำไมเราถึงควรต้องรักดนตรีคลาสสิคในยุคปัจจุบันนี้ด้วยแม้ว่าดนตรีคลาสสิคจะเปลี่ยนไปจาก "ศิลปะที่แท้จริง" ในเมื่อรูปแบบและมาตรฐานของการบรรเลงเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม

ผมคิดว่าถึงแม้ว่าวงการดนตรีคลาสสิคในยุคปัจจุบันในแม้ระดับโลก อาจจะสู้ผลงานในอดีตไม่ได้ก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรจะตระหนักไว้คือดนตรีเป็นศิลปะแห่งการแสดง (performing art) มันเป็นสิ่งที่ให้เห็นผ่านการแสดงจริงๆ ไม่ใช่สิ่งที่เก็บไว้ การที่เราฟังแต่บันทึกเก่าและยึดติดกับอดีต อาจเปรียบได้กับการกักขังวิญญาณของดนตรีเอาไว้ในกรง เราอาจกำลังหลงใหลในสิ่งที่ตายไปแล้วมากกว่าที่จะสัมผัสดนตรีที่ยังมีชีวิตอยู่ และการที่เรายึดติดกับอดีตกลายเป็นว่าเราไม่ได้สนใจดนตรีจริงๆหรอก เราอาจไม่ได้รัก "ดนตรี" จริงๆ แต่รัก "นักดนตรี" หรือ "รูปแบบการเล่น" มากกว่า ถ้าสมมุติว่าคุณชอบผู้หญิงคนหนึ่งแล้วเขาเปลี่ยนไปจะหลังจากแต่งงานหรือเลิกกันแล้วเราคิดว่าเราชอบผู้หญิงคนนั้นเพราะเป็นผู้หญิงคนนั้นหรือไม่หรือเรารักเพียงภาพจำของเธอในอดีตกันแน่

อีกเหตุผลหนึ่งคือถ้าเรารักดนตรีคลาสสิคจริง เราจะรักในความเป็นดนตรีนั้นเราไม่ได้รักคนที่เล่นหรือแม้กระทั่งการเล่นของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่ยึดติดแม้แต่ตัวคีตกวีด้วยซ้ำไป เราไม่ได้ฟังเพราะต้องการยึดติดกับความสมบูรณ์แบบของการเล่นในอดีต เราฟังดนตรีเพราะเราชอบดนตรีเป็นเพียงเท่านั้นเอง เมื่อเราฟังแล้วเรามีความคิดเห็น ซึ่งมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาแต่เราก็ยังอยากฟังอยู่ดี

การที่เราฟังดนตรีที่บันทึกแน่นอนว่ามันเป็นการบันทึกต่อมาจากการแสดงอีกทีนึง มันไม่ใช่เสียงที่แท้จริงตามธรรมชาติ และการบันทึกเสียงยังต้องผ่านกระบวนการปรับแต่งอีกมากมาย ซึ่งทำให้มันไม่ใช่ดนตรีที่สมบูรณ์แบบในแง่ของการเป็นศิลปะการแสดง มันก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เรากินอาหารกระป๋อง ถึงแม้ว่ารสชาติในบางมุมอาจจะดีกว่ากินแบบสดก็ได้ แต่แน่นอนว่าคุณค่าของอาหารสดใหม่มันย่อมดีกว่าอยู่แล้ว

แต่ผมไม่ได้คิดว่าดนตรีที่แสดงในไทยคุณภาพจะดีกว่าที่เคยฟังแผ่น​ของศิลปินระดับโลกได้ ​(แม้ว่าความเป็นจริงอาจเป็นเช่นนั้นก็ตาม) แต่ท้ายที่สุดแล้วดนตรีคือการแสดงที่เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะหนึ่งไม่ใช่ภาพนิ่งที่เราสามารถดูได้ตลอดเวลา มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและจบลงในปัจจุบันขณะ เปรียบเสมือนหลักธรรม "ปัจจักตัง" ซึ่งหมายถึงสิ่งที่ต้องสัมผัสเองถึงจะเข้าใจ มันเป็นสิทธิ์ที่เรารู้สึกขึ้นมา​นั้นเอง​

ในปัจจุบันนี้ทั้ง 2 สายนี้ ที่กล่าวมาข้างต้น อาจจะมีตัวแทนจากทั้งสองฝ่ายพยายามก้าวข้ามไปอีกฝ่าย ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ดีแล้วในยุคปัจจุบันนี้ แต่ผมก็ยังคิดอยู่ว่าวงการนี้อาจจะยังเล็กเกินไปที่จะพิจารณาถึงข้อเท็จจริงข้อนี้อยู่ดี แต่ผมคิดว่าสุดท้ายแล้วดนตรีคลาสสิคมันคือศิลปะที่มีแต่คนฟังเท่านั้นที่จะเข้าใจ และซาบซึ้งไปกับมันได้ อย่างไรก็ตามดนตรีคลาสสิกเป็นศิลปะที่ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนเพราะมันเป็นสิ่งที่คนฟังเท่านั้นที่จะเข้าใจและซาบซึ้งไปกับมันได้ ไม่ว่าดนตรีจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม
...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

รายการพอดแคสต์เพลงดนตรีคลาสสิคของฉันBy Kas Wit