เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ฟังพอดแคสต์ของนักโอโบที่พูดคุยกับ ปรเมศวร์ เลิศเกษม เกี่ยวกับวง Chiangrai Youth (String) Orchestra ซึ่งให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้างวงดนตรีคลาสสิกในท้องถิ่น โดยพอดแคสต์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนาดนตรีคลาสสิกในไทยที่มักเริ่มต้นจากความรักในเสียงดนตรีของนักดนตรีที่ต้องการแสดงสิ่งที่พวกเขาเชื่อมั่น แม้ว่าหลายครั้งความต้องการของนักดนตรีและความสนใจของผู้ฟังส่วนใหญ่จะไม่สอดคล้องกัน นอกจากนี้ วงการดนตรีคลาสสิกในไทยยังคงเป็นสังคมเฉพาะกลุ่มซึ่งคนทั่วไปมักมองข้าม
หนึ่งในปัญหาใหญ่ของวงการดนตรีคลาสสิกในไทยคือการที่มีผู้ผลิตงานดนตรีจำนวนมาก แต่กลับมีผู้ฟังน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศในแถบเอเชีย อย่างไรก็ตาม เมื่อมีวงออเคสตราระดับโลกมาแสดงในไทย กลับได้รับความสนใจอย่างมาก สะท้อนถึงความขาดแคลนของความสนใจในวงการดนตรีคลาสสิกท้องถิ่น ผู้คนอาจรับรู้ถึงความแตกต่างในมาตรฐานระหว่างวงไทยและวงจากต่างประเทศอย่างชัดเจน
สถานการณ์นี้ยิ่งขัดแย้งเมื่อเทียบกับประเทศที่มีระบบการศึกษาดนตรีที่เข้มแข็ง เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และมาเลเซีย แม้ว่าในไทยจะมีโรงเรียนสอนดนตรีคลาสสิกและคณะดนตรีในมหาวิทยาลัยมากมาย แต่นักเรียนดนตรีจำนวนมากกลับหันไปทำอาชีพสอนดนตรีหรือเข้ารับราชการ มากกว่าที่จะก้าวสู่การเป็นนักแสดงมืออาชีพ สาเหตุอาจมาจากความมั่นคงทางการเงินและโอกาสที่จำกัดในสายการแสดงดนตรีจริงๆ จึงส่งผลให้จำนวนผู้แสดงดนตรีคลาสสิกในไทยมีน้อยลง
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ การเชียร์นักดนตรีไทยที่มักพบในการประชาสัมพันธ์คอนเสิร์ต ทำให้บางครั้งรู้สึกเหมือนว่าเราต้องเชียร์ด้วยความสงสารมากกว่าเป็นการชื่นชมในฝีมือของนักดนตรีจริงๆ นี่ไม่ใช่แนวทางที่ควรจะเป็น ผู้ฟังควรมาฟังคอนเสิร์ตเพราะความสนใจในดนตรี มากกว่าการมาฟังเพียงเพราะอยากให้กำลังใจนักดนตรีไทย
นอกจากนี้ การที่คอนเสิร์ตคลาสสิกในไทยมักจะจัดฟรี หรือมีราคาถูกจนเกินไป ทำให้ผลงานเหล่านั้นดูเหมือนไม่มีมูลค่า แม้ว่าจริงๆ แล้ว เวลาและความทุ่มเทในการซ้อมของนักดนตรีนั้นมีค่าอย่างยิ่ง ผู้ฟังที่ได้รับประสบการณ์ดนตรีที่มีคุณภาพจะช่วยเพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะกลับมาฟังคอนเสิร์ตครั้งต่อไป แต่เพื่อสร้างฐานผู้ฟังในระยะยาวนั้น การปลูกฝังความรักในดนตรีต้องเริ่มตั้งแต่โรงเรียน แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายในระบบการศึกษาไทยที่ยังคงให้ความสำคัญน้อยกับดนตรีคลาสสิก
จากทั้งหมดนี้ การพัฒนาวงการดนตรีคลาสสิกในไทยยังคงมีความท้าทายอยู่มาก แม้บางประเด็นจะยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด แต่ก็เป็นสิ่งที่น่าติดตามและสะท้อนให้เห็นถึงความจริงบางประการในวงการดนตรีคลาสสิกของไทย