
Sign up to save your podcasts
Or
อรหํ
อรหํ เป็นเนมิตกนาม เกิดขึ้นเองพร้อมกับที่พระองค์บรรลุพระโพธิญาณ ยกตัวอย่างเทียบเคียงคล้ายกับชื่อ พระมเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศล ชื่อว่า มัลลิกา กล่าวคือว่าวันที่พระนางเธอประสูตินั้น มีดอกมะลิร่วงลงมาจากอากาศในเวลาเกิด พระราชบิดาและพระประยูรญาติ ถือเอานิมิตดอกมะลินั้น ขนานนามธิดาองค์นั้นว่า มัลลิกา แปลว่า พระนางมะลิ
อรหํ เป็นคำที่พวกเรานักปฏิบัติธรรมเชิดชูกันนักหนา ถึงแก่ได้นำมาใช้เป็นบทบริกรรมภาวนาในเมื่อนั่งสมาธิ
อรหํ แปลสั้นๆ ว่า ไกล ว่า ควร เป็น ๒ นัยอยู่
และเปรียบได้อีกสถานหนึ่งว่า อินทขีลูปโม พระทัยมั่นคงดังเสาเขื่อน ถึงจะมีพายุมาแต่จาตุรทิศก็ไม่คลอน เมื่อเช่นนี้ จึงมีนัยที่แปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า เป็นผู้ควร คือเป็นผู้ที่เราสมควรจะเทิด จะบูชาไว้เหนือสิ่งทั้งหมด
อรหํ เป็นนามเหตุ พระคุณนาม นอกนั้นเป็นนามผล
ว่าในด้านภาวนา กายนี้มีซ้อนกันเป็นชั้นๆ
การละกิเลสของพระองค์หลุดไปเป็นชั้นๆ ตั้งแต่กิเลสในกายมนุษย์ กายทิพย์ กายรูปพรหม กายอรูปพรหม เป็นลำดับไป
โคตรภูบุคคลนี้ เดินสมาบัติ เพ่งอริยสัจ ๔ เป็นอนุโลมปฏิโลม จนหลุดพ้นจากกิเลส พวกสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาสแล้วตกศูนย์วับกลับเป็นพระโสดาบัน เป็นอันว่าพระโสดาบันละกิเลสได้ ๓ คือสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส
แล้วกายโสดาบันนี้เดินสมาบัติ เพ่งอริยสัจ ๔ เป็นอนุโลมปฏิโลม ต่อไปถึงขีดสุด ละกิเลสได้อีก ๒ คือกามราคะ พยาบาทชั้นหยาบ จึงเลื่อนชั้นขึ้นเป็นสกทาคามี
กายพระสกทาคามีเดินสมาบัติ เพ่งอริยสัจ ๔ ทำนองเดียวกันนั้นต่อไปถึงขีดสุด ละกิเลสได้อีก ๒ คือกามราคะ พยาบาทขั้นละเอียด จึงเลื่อนชั้นเป็นพระอนาคามี
แล้วกายพระอนาคามีเดินสมาบัติ เพ่งอริยสัจ ๔ ทำนองเดียวกันนั้นต่อไปถึงขีดสุด ละกิเลสได้อีก ๕ คือ รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อวิชชา จึงเลื่อนขึ้นจากพระอนาคามีเป็นพระอรหันต์ จิตของพระองค์บริสุทธิ์ผุดผ่องปราศจากกิเลสทั้งมวลจึงได้พระเนมิตกนามว่า อรหํ
กัณฑ์ที่ 1 - พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
4
44 ratings
อรหํ
อรหํ เป็นเนมิตกนาม เกิดขึ้นเองพร้อมกับที่พระองค์บรรลุพระโพธิญาณ ยกตัวอย่างเทียบเคียงคล้ายกับชื่อ พระมเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศล ชื่อว่า มัลลิกา กล่าวคือว่าวันที่พระนางเธอประสูตินั้น มีดอกมะลิร่วงลงมาจากอากาศในเวลาเกิด พระราชบิดาและพระประยูรญาติ ถือเอานิมิตดอกมะลินั้น ขนานนามธิดาองค์นั้นว่า มัลลิกา แปลว่า พระนางมะลิ
อรหํ เป็นคำที่พวกเรานักปฏิบัติธรรมเชิดชูกันนักหนา ถึงแก่ได้นำมาใช้เป็นบทบริกรรมภาวนาในเมื่อนั่งสมาธิ
อรหํ แปลสั้นๆ ว่า ไกล ว่า ควร เป็น ๒ นัยอยู่
และเปรียบได้อีกสถานหนึ่งว่า อินทขีลูปโม พระทัยมั่นคงดังเสาเขื่อน ถึงจะมีพายุมาแต่จาตุรทิศก็ไม่คลอน เมื่อเช่นนี้ จึงมีนัยที่แปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า เป็นผู้ควร คือเป็นผู้ที่เราสมควรจะเทิด จะบูชาไว้เหนือสิ่งทั้งหมด
อรหํ เป็นนามเหตุ พระคุณนาม นอกนั้นเป็นนามผล
ว่าในด้านภาวนา กายนี้มีซ้อนกันเป็นชั้นๆ
การละกิเลสของพระองค์หลุดไปเป็นชั้นๆ ตั้งแต่กิเลสในกายมนุษย์ กายทิพย์ กายรูปพรหม กายอรูปพรหม เป็นลำดับไป
โคตรภูบุคคลนี้ เดินสมาบัติ เพ่งอริยสัจ ๔ เป็นอนุโลมปฏิโลม จนหลุดพ้นจากกิเลส พวกสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาสแล้วตกศูนย์วับกลับเป็นพระโสดาบัน เป็นอันว่าพระโสดาบันละกิเลสได้ ๓ คือสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส
แล้วกายโสดาบันนี้เดินสมาบัติ เพ่งอริยสัจ ๔ เป็นอนุโลมปฏิโลม ต่อไปถึงขีดสุด ละกิเลสได้อีก ๒ คือกามราคะ พยาบาทชั้นหยาบ จึงเลื่อนชั้นขึ้นเป็นสกทาคามี
กายพระสกทาคามีเดินสมาบัติ เพ่งอริยสัจ ๔ ทำนองเดียวกันนั้นต่อไปถึงขีดสุด ละกิเลสได้อีก ๒ คือกามราคะ พยาบาทขั้นละเอียด จึงเลื่อนชั้นเป็นพระอนาคามี
แล้วกายพระอนาคามีเดินสมาบัติ เพ่งอริยสัจ ๔ ทำนองเดียวกันนั้นต่อไปถึงขีดสุด ละกิเลสได้อีก ๕ คือ รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อวิชชา จึงเลื่อนขึ้นจากพระอนาคามีเป็นพระอรหันต์ จิตของพระองค์บริสุทธิ์ผุดผ่องปราศจากกิเลสทั้งมวลจึงได้พระเนมิตกนามว่า อรหํ
กัณฑ์ที่ 1 - พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
87 Listeners
8 Listeners
4 Listeners
2 Listeners
0 Listeners