ฟังธรรมจากพระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม (พระกิตติวิมลเมธี)

รู้ต้องเป็นอิสระ จากความเป็นเรา - คอร์สอานาปานสติ วัดป่าไม้แดง จ.เชียงใหม่ (10-14 ธ.ค. 65 3/22)


Listen Later

คอร์สอานาปานสติ วัดป่าไม้แดง จ.เชียงใหม่ วันที่ 10-14 ธ.ค. 65 นำปฏิบัติโดย พระกิตติวิมลเมธี (สุชีพ สุธมฺโม) วัดบุปผาราม กทม.ณ สำนักปฏิบัติธรรมสวนป่าพุทธชยันตี อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่

นักปฏิบัติสำคัญการปฏิบัติของตนเองผิด หลงเราเป็นรู้ จนไปติดกับนิมิต สัญญา กลของสมาธิ

การปฏิบัติตามแนวทางพระพุทธเจ้า ปฏิบัติแล้วสติปัญญาต้องพัฒนา การปฏิบัติถ้าเดินด้วยอำนาจความเป็นเรา เราเข้าไปบงการจัดการทุกอย่างเพื่อให้เป็นความตั้งมั่น อุเบกขา สติ องค์ธรรมต่างๆ ไม่สามารถจัดการได้ เราจริงๆมันไม่มี เราคืออุปาทานขันธ์ เกิดความสำคัญยึดถือ เกิดความหลง ความเพลิน เข้าใจผิด สิ่งที่เราขาดที่สุดคือ สติ สมาธิ และปัญญา

ธรรมชาติที่เราต้องเผชิญกับความเป็นจริงที่ปรากฏคือ ทุกข์ ทุกข์ที่เกิดจากความแปรปรวนของกายใจ ที่เราเรียกว่า แก่ เจ็บ ตาย ทั้งหมดนั้นเกิดที่ขันธ์ เกิดที่กายใจ ถ้าเรามัวแต่หลงกับความเป็นเรา เราก็ไม่เจออะไรนอกจากทุกข์ สิ่งที่สนุกสนาน เพลิดเพลิน มีความสุขอยู่ ก็คือการหลอกตัวเอง เพราะในที่สุดแล้ว ร่างกายนี้มันจะเติมอะไรเข้าไปก็ช่าง แต่สุดท้ายมันแปรปรวน เปลี่ยนแปลง แล้วก็แตกดับไป

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ออกจากความเป็นเรา ออกจากการยึดถือในความเป็นขันธ์

ความเป็นเรา คือ

รูปูปาทานักขันโธ การยึดมั่นถือมั่นในขันธ์คือรูป

เวทะนูปาทานักขันโธ การยึดมั่นถือมั่นในขันธ์คือเวทนา

สัญญูปาทานักขันโธ การยึดมั่นถือมั่นในขันธ์คือสัญญา

สังขารูปาทานักขันโธ การยึดมั่นถือมั่นในขันธ์คือสังขาร

วิญญาณูปาทานักขันโธ การยึดมั่นถือมั่นในขันธ์คือวิญญาณ

การยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ทั้ง 5 พอมีความเป็นเรา มันทำงานตลอดเวลา ตาเห็นรูป เกิดความรู้ในรูปในสีนั้น เกิดความคิดเป็นสังขาร เกิดความรู้สึกเป็นเวทนา เห็นอะไรก็ทำงานอยู่อย่างนี้ การทำงานของอุปาทานขันธ์ จะอบรมบ่มเพาะมาที่จิตของเรา เรียกว่า เป็นกิเลส ทำให้ความเป็นเราหนาขึ้น จนมันมืดสนิท ครั้นเรามาเห็นโทษภัยของมันแล้ว ประสงค์ทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็ไปพอกพูนความเป็นเราเข้าไปอีก ถ้าจะเดินตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอน เราว่ามันยาก เพราะความเป็นเรามันหนา ดังนั้นจึงมีช่องทางเดียว ตามที่พระพุทธเจ้าสอน เพื่อให้เป็นสติสัมปชัญญะรวมลงในตัวรู้ เมื่อตัวรู้ที่ถูกต้องเกิดขึ้นแล้ว ประคองตัวรู้อยู่กับสิ่งที่ถูกรู้อย่างสม่ำเสมอก็จะตกตะกอนเป็นอุเบกขาและความตั้งมั่น ถ้าหากเดินด้วยความเป็นเรา ไม่สามารถจะตกขึ้นมาเป็นอุเบกขาและความตั้งมั่นได้

ในอานาปานสติ พระสารีบุตร ท่านแยกไว้ชัด นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส อชานโต จ ตโย ธมฺเม ภาวนา นุปลพฺภติ

ผู้ที่จะปฏิบัติอานาปานสติ ถ้าไม่รู้เรื่อง ๓ เรื่องนี้ว่าไม่ใช่เป็นอารมณ์อันเดียว ภาวนาไม่ได้ (นิมิต ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า ไม่เป็นอารมณ์ของจิตดวงเดียว แต่ละอย่างเป็นธรรมชาติของมัน ไม่มีเราอยู่ในนั้น) ถ้ามีเราลงไปอยู่เมื่อไร ทุกอย่างจะเป็นอันเดียวกันหมด

รู้จักอุปกิเลสในอานาปานสติ ให้เข้าใจชัดเจนว่า รู้ที่เป็นอิสระเป็นอย่างไร ไม่ได้รับการถูกแทรกแซงจากเราให้รู้ลมกระทบ เป็นปัจจุบัน ที่ตัวรู้เข้าไปรู้แล้วจะทำให้เกิดความตั้งมั่นที่บริสุทธิ์ และมีอุเบกขาเป็นฐาน มีสติบริสุทธิ์

พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้เลือกวิธีปฏิบัติที่ถูกจริต แต่สอนว่าควรแก่จริต/เหมาะแก่จริต เช่น คนเป็นราคะจริต ให้ไปเจริญอสุภะ เหมาะแก่จริตคือ เจริญแล้วลดราคะได้ คนโทสะจริตให้ไปเจริญเมตตา


รู้ต้องเป็นอิสระจากความเป็นเรา

  1. ปะริมุขัง สะติง อุปัฏฐะเปตวา ดำรงสติอยู่เฉพาะหน้า นั่งนิ่งๆ ยืนนิ่งๆ ยกตัวรู้เข้าไป ยกสติระลึกเข้าไปที่ใบหน้า เอาตัวรู้คลออยู่ตรงนั้น รู้ได้เท่าไหร่เท่านั้น รู้ต่อเนื่องคลอไปเรื่อยๆ จนตัวรู้สามารถรู้ของเขาเอง คือยกจิตผู้รู้ให้มีกำลังพอที่จะทรงตัวอยู่เฉพาะหน้าได้
  2. เมื่อรู้ปรากฏ น้อมรู้เข้าสู่นิมิต
  3. รู้ลมหายใจที่กระทบด้วยจิตผู้รู้

กิจแรก ดำรงสติอยู่เฉพาะหน้านี้ เมื่อได้จิตผู้รู้แล้ว สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ใช้เดินจงกรมได้ สามารถรู้แตะการกระเพื่อมของกายใจได้ทั้งหมด ไม่เป็นเราลงไป เมื่อจิตผู้รู้เป็นอิสระ มีกำลัง สามารถรู้ความเป็นจริงของกายของใจได้ ทุกอย่างสามารถยกเข้าสู่การปฏิบัติได้ แค่เอารู้ไปแตะ

เมื่อใดที่รู้เป็นอิสระ เราไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงรู้ได้ มีสภาวะรู้มารองรับ กิริยารู้ที่เข้าไปแตะ เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ตามความเป็นจริง

ระลึกคือสติ สัมปชัญญะคือความรู้ตัว

#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ฟังธรรมจากพระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม (พระกิตติวิมลเมธี)By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)