ความไม่ประมาทน่ะ คือ ความไม่เผลอ ไม่เผลอละใจจดใจจ่อที
เดียวนั่น อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา นี่เรียกว่าผู้ไม่ประมาท
ท่านจึงได้อุปมาไว้ ไม่ประมาท ไม่เผลอด้วยอะไร?
ไม่ประมาท ไม่เผลอในความเสื่อมไปในข้างต้น ในปัจฉิมวาจา ไม่
ประมาทไม่เผลอในความเสื่อมไป นึกถึงความเสื่อมอยู่เสมอ ให้เจอความ
เสื่อมไว้เสมอ นึกหนักเข้า ๆ แล้วใจหาย
เอ๊ะ นี่เรามาคนเดียวหรือ
เอ๊ะ นี่เราก็ตายคนเดียวซิ บุรพชนต้นตระกูลของเราไปไหนหมดล่ะ
อ้าว ตายหมด เราล่ะก็ตายแบบเดียวกัน
ตกใจละคราวนี้ ทำชั่วก็เลิกละทันที
รีบทำความดีโดยกะทันหันทีเดียว เพราะไปเห็นอ้ายความเสื่อมเข้า
ถ้าไม่เห็นความเสื่อมละก็ กล้าหาญนักทำชั่วก็ได้ ด่าว่าผู้หลักผู้ใหญ่
ได้ตามชอบใจ
ถ้าเห็นความเสื่อมเข้าแล้ว กราบผู้ใหญ่ ปะหลก ๆ ๆ ทีเดียว
เพราะเหตุอะไรล่ะ เพราะเห็นความเสื่อมเข้า มันไม่ประมาท ถ้าว่า
ประมาทเข้าก็ไปอีกเรื่องหนึ่ง เพราะฉะนั้นสำคัญนักความประมาท
จาก พระธรรมเทศนา กัณฑ์ที่ ๑๖ เรื่อง ปัจฉิมวาจา