
Sign up to save your podcasts
Or


การรู้แจ้งกายทั้งปวง คือรู้ลมในกายทั้งปวง หรือลมทั้งปวง
ลม ยาว สั้น ทั้งปวง หยุด(หรือระงับ)
ลมทั้งปวงเวลาเรารู้ลมหายใจออกเข้ายาว จิตผู้รู้อยู่ที่นิมิตไม่เกาะอยู่กับลม ลมจะค่อยเป็นลมธรรมดา กายเริ่มสงบ อาการโอนเอนต่างๆจะหยุด
พอจิตอยู่กับที่นิมิต เฝ้ารู้ลมที่ไหลออกไหลเข้าอยู่นั้น มันจะเกิดการน้อมเข้าไปเพื่อการรู้ที่ยิ่งขึ้นที่นิมิต การที่ใจน้อมเข้าไปนี้เรียกว่าฉันทะ ตัวฉันทะทำหน้าที่ ที่จะผูกรวมจิตผู้รู้ให้ สงบ คมละเอียด ลมก็เลยละเอียดตาม ลมจะหดตัวสั้นลงด้วยอำนาจของฉันทะ พอฉันทะเข้าไปแล้วจะมีความปราโมทย์ด้วย สติปรากฏ กายปรากฏ และญาณที่เป็นสติสัมปชัญญะก็จะปรากฏ เมื่อลมสั้นลงต่อเนื่อง เรารู้ลมที่สั้นนั้นเหมือนตอนรู้ลมยาว คือรู้ตามระยะเวลา แต่สัญญา นิมิตความทรงจำของลมที่จิตมีอยู่ จิตจะรู้ลมตามกำลังของสัญญา เลยรู้สึกเหมือนคลื่น หรือลมกังสดาล เหมือนเสียงระฆัง อันนี้คือ ลมทั้งปวง คือลมที่ปรากฏออกหรือเข้าและลมที่เป็นความทรงจำต่อจากนั้น มันจะเกิดก่อน พอลมเข้าเกิด ลมที่อยู่ในสัญญาความทรงจำจะเกิดก่อนแล้วจิตที่รู้จะเกิดตามหลังไปอยู่ที่นิมิต จนใกล้ที่จะหยุด จิตที่รู้จะอยู่ก่อนเพื่อหาลมนั้น สัญญาความทรงจำจะอยู่หลัง แล้วลมก็จะดับ แล้วลมออกหรือเข้าก็จะเกิดอีก เหมือนฟังเสียงระฆัง ให้อยู่ที่นิมิต อย่าไปเกาะกับลมนั้น ทำบ่อยๆจนชำนาญ อันนี้เรียกว่าลมทั้งปวง
พอเราทำเหตุที่ถูกต้องผลก็จะปรากฏ เราฟังเพื่อให้รู้ว่านี่คือสภาวะที่ถูกต้องเพื่อใช้เป็นเหตุต่อไป จะได้ไม่หลงในสภาวะอื่นๆ
เรารู้ลมยาวตามความยาวของลม จิตสงบ กายสงบ ลมจะสั้นลงโดยที่เราไม่ต้องไปทำอะไรกับมัน พอลมสั้นไปเรื่อยๆ สั้นมาก เหมือนเราเคาะระฆัง ความคม ความสงบของจิต จะรู้ถึงลมที่เกิดขึ้น ลมที่ไม่ใช่ลมออก ลมเข้า เป็นลมในสัญญาและความทรงจำ สังเกตอาการกระเพื่อมนี้จะเกิดตอนที่เรารู้ลมที่สั้นกว่าปกติ แต่ละคนอาการอาจจะต่างกัน (พริ้ว คลื่น กระเซ็น) แต่มันคือลมทั้งปวง
ถ้าเราไม่ชำนาญในลมยาว ลมสั้น ลมทั้งปวง แล้วเราเจอลมหยุด เจอปิติ สุข จิตตสังขาร เราจะไปต่อไม่เป็น
เมื่อก่อนเวลาเรารู้ลมหายใจออก เข้า เรารวมกับลมหายใจเป็นอารมณ์อันเดียวกัน นี่เป็นอานาปานสติสมาธิ จิตปักไปที่ลมหายใจ แต่กลับกัน จิตหลีกออกจากลมหายใจ มาชัดเจนที่นิมิต แล้วลมหายใจจะเริ่มต้นลมยาวเป็นผู้ที่ถูกรู้ ถูกดู ถูกเห็น เพราะเราจะรู้ลมหายใจตรงที่ผัสสะ ที่ลมกระทบกับที่นิมิต รู้ความนานของลมที่ไหลผ่านไป ไม่ได้ปักไปที่ลมหายใจ เมื่อความยาวของลมนี้มันสงบสั้นลง สติสัมปชัญญะยิ่งแข็งแรง ลมยิ่งละเอียดสั้นลง จะเกิดลมทั้งปวง
การเดินแล้วรู้ลมที่นิมิต จะเป็นตัวอุปการะในการเข้าอานาปานสติภาวนาได้อย่างดี
31:00 ลมระงับ ลมหยุด เราจะรู้กายสังขารระงับหายใจออก เราจะรู้กายสังขารระงับหายใจเข้า
อานาปานสติภาวนา ในแง่ที่เป็นนิพเพธิก เมื่อลมทั้งปวงสุด ก่อนที่ลมออกลมเข้าจะเกิด ลมจะหยุดของมันเอง เราอยู่ที่นิมิต แล้วรู้สภาวะที่ลมหยุดระงับ สติมีอยู่ ญาณรู้มีอยู่ และมีฉันทะอยู่ที่นิมิต น้อมเข้าไปรู้การหยุด นี่คือกายสังขารระงับ เมื่อรู้กายสังขารระงับด้วยสติ และญาณนั้นสักครู่นึง ลมออกก็ปรากฏ
ต้องแน่วแน่ในกิจแต่ละขั้น เมื่อเข้าสู่ขั้นลมระงับ เมื่อสติสัมปชัญญะชัดเจนแล้วกับลมที่ระงับ เน้นรู้ลมหยุด เอาลมระงับมาเป็นกิจ เมื่อลมเข้าออกเกิด ก็แค่รู้ลมเข้าลมออกเมื่อปรากฏ
#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน
By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)การรู้แจ้งกายทั้งปวง คือรู้ลมในกายทั้งปวง หรือลมทั้งปวง
ลม ยาว สั้น ทั้งปวง หยุด(หรือระงับ)
ลมทั้งปวงเวลาเรารู้ลมหายใจออกเข้ายาว จิตผู้รู้อยู่ที่นิมิตไม่เกาะอยู่กับลม ลมจะค่อยเป็นลมธรรมดา กายเริ่มสงบ อาการโอนเอนต่างๆจะหยุด
พอจิตอยู่กับที่นิมิต เฝ้ารู้ลมที่ไหลออกไหลเข้าอยู่นั้น มันจะเกิดการน้อมเข้าไปเพื่อการรู้ที่ยิ่งขึ้นที่นิมิต การที่ใจน้อมเข้าไปนี้เรียกว่าฉันทะ ตัวฉันทะทำหน้าที่ ที่จะผูกรวมจิตผู้รู้ให้ สงบ คมละเอียด ลมก็เลยละเอียดตาม ลมจะหดตัวสั้นลงด้วยอำนาจของฉันทะ พอฉันทะเข้าไปแล้วจะมีความปราโมทย์ด้วย สติปรากฏ กายปรากฏ และญาณที่เป็นสติสัมปชัญญะก็จะปรากฏ เมื่อลมสั้นลงต่อเนื่อง เรารู้ลมที่สั้นนั้นเหมือนตอนรู้ลมยาว คือรู้ตามระยะเวลา แต่สัญญา นิมิตความทรงจำของลมที่จิตมีอยู่ จิตจะรู้ลมตามกำลังของสัญญา เลยรู้สึกเหมือนคลื่น หรือลมกังสดาล เหมือนเสียงระฆัง อันนี้คือ ลมทั้งปวง คือลมที่ปรากฏออกหรือเข้าและลมที่เป็นความทรงจำต่อจากนั้น มันจะเกิดก่อน พอลมเข้าเกิด ลมที่อยู่ในสัญญาความทรงจำจะเกิดก่อนแล้วจิตที่รู้จะเกิดตามหลังไปอยู่ที่นิมิต จนใกล้ที่จะหยุด จิตที่รู้จะอยู่ก่อนเพื่อหาลมนั้น สัญญาความทรงจำจะอยู่หลัง แล้วลมก็จะดับ แล้วลมออกหรือเข้าก็จะเกิดอีก เหมือนฟังเสียงระฆัง ให้อยู่ที่นิมิต อย่าไปเกาะกับลมนั้น ทำบ่อยๆจนชำนาญ อันนี้เรียกว่าลมทั้งปวง
พอเราทำเหตุที่ถูกต้องผลก็จะปรากฏ เราฟังเพื่อให้รู้ว่านี่คือสภาวะที่ถูกต้องเพื่อใช้เป็นเหตุต่อไป จะได้ไม่หลงในสภาวะอื่นๆ
เรารู้ลมยาวตามความยาวของลม จิตสงบ กายสงบ ลมจะสั้นลงโดยที่เราไม่ต้องไปทำอะไรกับมัน พอลมสั้นไปเรื่อยๆ สั้นมาก เหมือนเราเคาะระฆัง ความคม ความสงบของจิต จะรู้ถึงลมที่เกิดขึ้น ลมที่ไม่ใช่ลมออก ลมเข้า เป็นลมในสัญญาและความทรงจำ สังเกตอาการกระเพื่อมนี้จะเกิดตอนที่เรารู้ลมที่สั้นกว่าปกติ แต่ละคนอาการอาจจะต่างกัน (พริ้ว คลื่น กระเซ็น) แต่มันคือลมทั้งปวง
ถ้าเราไม่ชำนาญในลมยาว ลมสั้น ลมทั้งปวง แล้วเราเจอลมหยุด เจอปิติ สุข จิตตสังขาร เราจะไปต่อไม่เป็น
เมื่อก่อนเวลาเรารู้ลมหายใจออก เข้า เรารวมกับลมหายใจเป็นอารมณ์อันเดียวกัน นี่เป็นอานาปานสติสมาธิ จิตปักไปที่ลมหายใจ แต่กลับกัน จิตหลีกออกจากลมหายใจ มาชัดเจนที่นิมิต แล้วลมหายใจจะเริ่มต้นลมยาวเป็นผู้ที่ถูกรู้ ถูกดู ถูกเห็น เพราะเราจะรู้ลมหายใจตรงที่ผัสสะ ที่ลมกระทบกับที่นิมิต รู้ความนานของลมที่ไหลผ่านไป ไม่ได้ปักไปที่ลมหายใจ เมื่อความยาวของลมนี้มันสงบสั้นลง สติสัมปชัญญะยิ่งแข็งแรง ลมยิ่งละเอียดสั้นลง จะเกิดลมทั้งปวง
การเดินแล้วรู้ลมที่นิมิต จะเป็นตัวอุปการะในการเข้าอานาปานสติภาวนาได้อย่างดี
31:00 ลมระงับ ลมหยุด เราจะรู้กายสังขารระงับหายใจออก เราจะรู้กายสังขารระงับหายใจเข้า
อานาปานสติภาวนา ในแง่ที่เป็นนิพเพธิก เมื่อลมทั้งปวงสุด ก่อนที่ลมออกลมเข้าจะเกิด ลมจะหยุดของมันเอง เราอยู่ที่นิมิต แล้วรู้สภาวะที่ลมหยุดระงับ สติมีอยู่ ญาณรู้มีอยู่ และมีฉันทะอยู่ที่นิมิต น้อมเข้าไปรู้การหยุด นี่คือกายสังขารระงับ เมื่อรู้กายสังขารระงับด้วยสติ และญาณนั้นสักครู่นึง ลมออกก็ปรากฏ
ต้องแน่วแน่ในกิจแต่ละขั้น เมื่อเข้าสู่ขั้นลมระงับ เมื่อสติสัมปชัญญะชัดเจนแล้วกับลมที่ระงับ เน้นรู้ลมหยุด เอาลมระงับมาเป็นกิจ เมื่อลมเข้าออกเกิด ก็แค่รู้ลมเข้าลมออกเมื่อปรากฏ
#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน