
Sign up to save your podcasts
Or
ชวนชิมปูว่านหลี่แสนอร่อยกับอากงอายุ 86 ปี เย็บปะกรงดักปูฝีมือเยี่ยม
ช่วงนี้เข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง อากาศกำลังสบายๆไม่หนาวไม่ร้อนเกินไป หากใครอยากจะหาอาหารทะเลอร่อยๆ อย่างเช่นปูทะเลจับจากธรรมชาติ ก็ตรงดิ่งไปแถวๆ หมู่บ้านว่านหลี่ ใกล้ๆ อุทธยานเหย๋หลิว ท่าเรือตลาดปลากุยโห่ว (龜吼漁港) ในเขตนครนิวไทเปกันค่ะ เนื่องแหล่งที่จับปูได้มากก็อยู่ในเขตหมู่บ้านว่านหลี่ บริเวณใกล้ๆกับจุดเหนือสุดของไต้หวันที่เรียกว่าฟู่กุ้ยเจี่ยว-富貴角 เพราะฉะนั้นก็เลยตั้งชื่อปูที่จับได้ในทะเลละแวกหมู่บ้านนี้ว่า ปูว่านหลี่-萬里蟹
ปูว่านหลี่ก็มีปูอยู่หลายชนิดด้วยกัน หลักๆก็มีปูอยู่ 3 ชนิดได้แก่ ปูม้า (Flower crab-花蟹) ปู 3 จุดหรือว่าปูดาว (3 Spot Crab-三點蟹) แล้วก็ปูหิน (stone crab-石蟳蟹) โดยปูแต่ละชนิดรสชาติที่อร่อยแตกต่างกัน อย่างปูม้าที่กระดองมีปานดำเป็นเส้นตรง เนื้อจะแน่นและมีมาก ฤดูกาลมีอยู่ 2 ช่วง ถ้าเป็นช่วงต้นปีแรกก็ประมาณก่อนและหลังเทศกาลบ๊ะจ่าง ส่วนครึ่งปีหลังก็เป็นช่วงก่อนและหลังเทศกาลไหว้พระจันทร์ ส่วนปูดาวหรือปู 3 จุดฤดูกาลก็อยู่ช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค.เนื่องจากบนกระดองมี 3 จุดสีแดงม่วง จึงเป็นที่มาของการเรียกชื่อปูนี้ เนื้อปู 3 จุดจะละเอียด รสหวาน อร่อย ถือเป็นสุดยอดของปูในเขตว่านหลี่ ส่วนปูหิน เนื่องจากลักษณะเปลือกนอกแข็งหยาบราวกับหิน มีจุดนูนเป็นเม็ดเล็กๆอยู่ตามก้ามปู ฤดูกาลของปูหินอยู่ในช่วงของเดือนตค.-ช่วงก่อนตรุษจีน ราคาขึ้นอยู่กับขนาดของปูและชนิดของปู ยกตัวอย่าง ปู 3 จุด น้ำหนัก 600 กรัมหรือ 1 ชั่ง ประมาณ 300 เหรียญไต้หวัน ปูม้า 600 กรัมประมาณ 450 เหรียญไต้หวัน ส่วนปูหิน 600 กรัม ประมาณ 250 เหรียญไต้หวัน ปูหินจะถูกที่สุด ถ้าตัวเล็กที่สุด ราคาก็จะถูกที่สุด ปูหินมักจะนำมาต้มสุกี้หรือไม่ก็นำมาปรุงกับข้าวต้ม
และที่ว่านหลี่ก็มีชาวประมงอากงท่านหนึ่งชื่อ สวี่ปาหลัง (許八郎) เป็นคนที่เก่งหรือช่ำชองในการปะกรงดักปูมากๆๆ ว๊าว อายุตั้ง 86 ปีแล้วฝีมือของท่านเจ๋งมาก อาศัย 2 มือนี่แหละเย็บปะกรงดักปูที่ขาด ก็อย่างที่รู้อยู่แล้วว่าปูมีก้ามเกี่ยว กรงที่เป็นเชือกก็มักถูกกัดขาดบ่อย ถ้ากรงขาดรับรองว่าออกทะเลจะต้องตัวเปล่ากลับมาแน่นอน เพราะฉะนั้นกรงจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญจะต้องผูกแน่น ไม่มีช่องโหว่ อากงสวี่ปาหลังได้ชื่อว่าเป็นคนเย็บปะกรงปูที่มีฝีมือขั้นเทพก็ว่าได้ และที่สำคัญเบื้องหลังชีวิตของอากงก่อนที่จะมาเป็นชาวประมงจับปูและฝึกการเย็บปะกรงปู อายุก็ปาเข้าไปครึ่งร้อยปีหรือประมาณ อายุ 50 ปีไปแล้วค่ะ แถมยังมีหนี้สินติดตัวมา180 ล้านเหรียญไต้หวัน แต่ว่าอากงสวี่ปาหลังไม่หวั่นไหวกับความล้มเหลว มาเริ่มต้นใหม่ด้วยการเป็นชาวประมงจับปู และเรียนรู้ที่จะเย็บปะกรงดักปูด้วยตนเอง และอีกอย่างอากงเดิมทีก็เป็นคนชอบทะเล ชอบตกปลาอยู่แล้ว หลังจากธุรกิจล้มเหลวมีหนี้สินก็หันมาเป็นชาวประมงดักปูขาย
อ่านข้อมูลปูว่านหลี่เพิ่มเติมได้ที่ https://wanlicrab.tw/index.php/chooselanguage/english/what-is-wanli-crab
เทศบาลนครนิวไทเปเชิญชวนนักชิมไปลิ้มลองปูว่านหลี่แสนอร่อย
ปูว่านหลี่มี 3 ชนิดหลักได้แก่ ปูม้า (Flower crab-花蟹) ปู 3 จุดหรือว่าปูดาว (3 Spot Crab-三點蟹) และปูหิน (stone crab-石蟳蟹)
ท่าเรือตลาดปลากุยโห่ว (龜吼漁港) ว่านหลี่ อยู่ใกล้ๆ อุทยานเหยหลิ่ว ในเขตพื้นที่นครนิวไทเป
ว่านหลี่อยู่ติดชายฝั่งทะเลทิศเหนือ เป็นเขตบริหารของนครนิวไทเป
ชวนชิมปูว่านหลี่แสนอร่อยกับอากงอายุ 86 ปี เย็บปะกรงดักปูฝีมือเยี่ยม
ช่วงนี้เข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง อากาศกำลังสบายๆไม่หนาวไม่ร้อนเกินไป หากใครอยากจะหาอาหารทะเลอร่อยๆ อย่างเช่นปูทะเลจับจากธรรมชาติ ก็ตรงดิ่งไปแถวๆ หมู่บ้านว่านหลี่ ใกล้ๆ อุทธยานเหย๋หลิว ท่าเรือตลาดปลากุยโห่ว (龜吼漁港) ในเขตนครนิวไทเปกันค่ะ เนื่องแหล่งที่จับปูได้มากก็อยู่ในเขตหมู่บ้านว่านหลี่ บริเวณใกล้ๆกับจุดเหนือสุดของไต้หวันที่เรียกว่าฟู่กุ้ยเจี่ยว-富貴角 เพราะฉะนั้นก็เลยตั้งชื่อปูที่จับได้ในทะเลละแวกหมู่บ้านนี้ว่า ปูว่านหลี่-萬里蟹
ปูว่านหลี่ก็มีปูอยู่หลายชนิดด้วยกัน หลักๆก็มีปูอยู่ 3 ชนิดได้แก่ ปูม้า (Flower crab-花蟹) ปู 3 จุดหรือว่าปูดาว (3 Spot Crab-三點蟹) แล้วก็ปูหิน (stone crab-石蟳蟹) โดยปูแต่ละชนิดรสชาติที่อร่อยแตกต่างกัน อย่างปูม้าที่กระดองมีปานดำเป็นเส้นตรง เนื้อจะแน่นและมีมาก ฤดูกาลมีอยู่ 2 ช่วง ถ้าเป็นช่วงต้นปีแรกก็ประมาณก่อนและหลังเทศกาลบ๊ะจ่าง ส่วนครึ่งปีหลังก็เป็นช่วงก่อนและหลังเทศกาลไหว้พระจันทร์ ส่วนปูดาวหรือปู 3 จุดฤดูกาลก็อยู่ช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค.เนื่องจากบนกระดองมี 3 จุดสีแดงม่วง จึงเป็นที่มาของการเรียกชื่อปูนี้ เนื้อปู 3 จุดจะละเอียด รสหวาน อร่อย ถือเป็นสุดยอดของปูในเขตว่านหลี่ ส่วนปูหิน เนื่องจากลักษณะเปลือกนอกแข็งหยาบราวกับหิน มีจุดนูนเป็นเม็ดเล็กๆอยู่ตามก้ามปู ฤดูกาลของปูหินอยู่ในช่วงของเดือนตค.-ช่วงก่อนตรุษจีน ราคาขึ้นอยู่กับขนาดของปูและชนิดของปู ยกตัวอย่าง ปู 3 จุด น้ำหนัก 600 กรัมหรือ 1 ชั่ง ประมาณ 300 เหรียญไต้หวัน ปูม้า 600 กรัมประมาณ 450 เหรียญไต้หวัน ส่วนปูหิน 600 กรัม ประมาณ 250 เหรียญไต้หวัน ปูหินจะถูกที่สุด ถ้าตัวเล็กที่สุด ราคาก็จะถูกที่สุด ปูหินมักจะนำมาต้มสุกี้หรือไม่ก็นำมาปรุงกับข้าวต้ม
และที่ว่านหลี่ก็มีชาวประมงอากงท่านหนึ่งชื่อ สวี่ปาหลัง (許八郎) เป็นคนที่เก่งหรือช่ำชองในการปะกรงดักปูมากๆๆ ว๊าว อายุตั้ง 86 ปีแล้วฝีมือของท่านเจ๋งมาก อาศัย 2 มือนี่แหละเย็บปะกรงดักปูที่ขาด ก็อย่างที่รู้อยู่แล้วว่าปูมีก้ามเกี่ยว กรงที่เป็นเชือกก็มักถูกกัดขาดบ่อย ถ้ากรงขาดรับรองว่าออกทะเลจะต้องตัวเปล่ากลับมาแน่นอน เพราะฉะนั้นกรงจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญจะต้องผูกแน่น ไม่มีช่องโหว่ อากงสวี่ปาหลังได้ชื่อว่าเป็นคนเย็บปะกรงปูที่มีฝีมือขั้นเทพก็ว่าได้ และที่สำคัญเบื้องหลังชีวิตของอากงก่อนที่จะมาเป็นชาวประมงจับปูและฝึกการเย็บปะกรงปู อายุก็ปาเข้าไปครึ่งร้อยปีหรือประมาณ อายุ 50 ปีไปแล้วค่ะ แถมยังมีหนี้สินติดตัวมา180 ล้านเหรียญไต้หวัน แต่ว่าอากงสวี่ปาหลังไม่หวั่นไหวกับความล้มเหลว มาเริ่มต้นใหม่ด้วยการเป็นชาวประมงจับปู และเรียนรู้ที่จะเย็บปะกรงดักปูด้วยตนเอง และอีกอย่างอากงเดิมทีก็เป็นคนชอบทะเล ชอบตกปลาอยู่แล้ว หลังจากธุรกิจล้มเหลวมีหนี้สินก็หันมาเป็นชาวประมงดักปูขาย
อ่านข้อมูลปูว่านหลี่เพิ่มเติมได้ที่ https://wanlicrab.tw/index.php/chooselanguage/english/what-is-wanli-crab
เทศบาลนครนิวไทเปเชิญชวนนักชิมไปลิ้มลองปูว่านหลี่แสนอร่อย
ปูว่านหลี่มี 3 ชนิดหลักได้แก่ ปูม้า (Flower crab-花蟹) ปู 3 จุดหรือว่าปูดาว (3 Spot Crab-三點蟹) และปูหิน (stone crab-石蟳蟹)
ท่าเรือตลาดปลากุยโห่ว (龜吼漁港) ว่านหลี่ อยู่ใกล้ๆ อุทยานเหยหลิ่ว ในเขตพื้นที่นครนิวไทเป
ว่านหลี่อยู่ติดชายฝั่งทะเลทิศเหนือ เป็นเขตบริหารของนครนิวไทเป