
Sign up to save your podcasts
Or


ที่นี่ไต้หวัน –28 เม.ย. 63-อยากรู้ไหม?? กว่า 20 ประเทศเจาะจงสั่งซื้อเครื่องจักรหน้ากากอนามัยจากไต้หวันทั้งๆ ที่ต้องรอคิวยาว
ในไต้หวันมีโรงงานผลิตเครื่องจักรที่ผลิตหน้ากากอนามัยขนาดใหญ่อยู่ 2 โรงงาน โรงงานหนึ่งชื่อว่า “ฉางหง長宏” ส่วนอีกโรงงานหนึ่งชื่อ “เฉวียนเหอ權和” ซึ่งทางโรงงานฉางหงจะผลิตเครื่องจักรคุณภาพดีที่ใช้ผลิตหน้ากากอนามัยที่ขายในตลาดไต้หวัน ครองสัดส่วนการผลิต 70% ส่วนโรงงานเฉวียนเหอนั้นจะผลิตเครื่องจักรหน้ากากอนามัยคุณภาพพรีเมียมให้กับบริษัท 3M โดยทั้งบริษัทฉางหงและบริษัทเฉวียนเหอที่เปรียบเสมือนพี่น้อง เป็นศิษย์ที่แยกมาจากอาจารย์สำนักเดียวกันก็คือโรงงานผลิตเครื่องจักรผลิตหน้ากากอนามัยในเมืองถู่เฉิงของนครนิวไทเป และทั้ง 2 ต่างแยกออกมาเปิดกิจการของตัวเองในช่วงปี 1999 อย่างไรก็ตาม ภายใน 1 ปีที่เกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A/H1N1 2009 ได้มีโรงงานผลิตเครื่องจักรสำหรับการผลิตหน้ากากอนามัยเกิดขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่มากกว่า 50 เจ้า และโรงงานเหล่านี้ต่างขายเครื่องจักรราคาถูกประมาณครึ่งหนึ่งของไต้หวันเพื่อแย่งลูกค้า จนทำให้แต่เดิมในไต้หวันเองมีโรงงานที่ผลิตเครื่องจักรเพื่อผลิตหน้ากากอนามัยที่มีจำนวนเลข 2 หลัก ซบเซาลงจนเหลือแค่ 2โรงงาน
บริษัทฉางหงหรือเฉวียนเหอคงอยู่ได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ผลกำไรก็ไม่ได้สูงมาก
คำตอบคือ ในปีแรกที่เริ่มประกอบกิจการ ประธานบริษัททั้ง 2 ก็เริ่มท้าทายกับเป้าหมายสูง คือใช้วิธีรับจ้างผลิตเครื่องจักรให้กับบริษัท 3 เอ็มซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการการผลิตหน้ากากอนามัยคุณภาพสูงป้อนให้กับทั่วโลก นายลวี่ชิงหลิน(呂清林) ปธ.บริษัทฉางหง และนายเซียวหงปิน(蕭鴻彬) ปธ.บริษัทเฉวียนเหอ บอกว่า ตอนที่เริ่มประกอบกิจการ ก็เริ่มรับจ้างผลิตเครื่องจักรให้กับบริษัท 3 เอ็ม แต่ว่าการทำการค้ากับบริษัท 3 เอ็มไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทั้ง 2 หวลคิดถึงอดีต พร้อมเล่าให้ฟังว่า หลายคนคิดว่าการผลิตหน้ากากก็เพียงเอาผ้า 3 แผ่นเชื่อมด้วยเครื่องอุลตราซาวด์ก็พอแล้ว แต่ความจริงไม่ใช่ง่ายอย่างที่เล่าให้ฟังเลย เพราะว่า การรับจ้างผลิตให้กับบริษัท 3 เอ็ม ยิ่งถ้าเป็นหน้ากากอนามัย N95 ที่คุณภาพดี จะพิถีพิถันทุกขั้นตอน ยกตัวอย่างเช่น ความดันของอากาศภายนอกที่เล็ดลอดผ่านเข้าไปในหน้ากากอนามัยเพื่อเข้าไปทางเดินหายใจ จำเป็นต้องต่ำกว่า 150 ปาสกาล (Pa) การออกแบบเครื่องจักรต้องรอบครอบ อย่างเช่น ช่องสำหรับการปรับเครื่องจักรมีพื้นที่เพียงช่องเล็กๆที่ใช้มือยื่นเข้าไปเท่านั้น เพื่อป้องกันการบาดเจ็บของคนงาน หรือแม้กระทั่งคำเตือนการใช้งานของขนาดตัวหนังสือเล็กใหญ่หรือการใช้คำก็ต้องคำนึงถึงด้วย กล่าวได้ว่า จะต้องทำตามออร์เดอร์ของ 3 เอ็มทั้งหมด หากเทียบกับใบสั่งซื้อจากที่อื่นแค่มาก 2 เดือนก็สามารถส่งมอบสินค้าได้ แต่ของบริษัท 3 เอ็ม ผ่านไปแล้ว 4 เดือนยังส่งมอบสินค้าไม่ได้เลยก็มี
ด้วยมาตรฐานที่สูงของบริษัท 3 เอ็ม มีข้อเรียกร้องมากมายเปรียบประดุจขนที่อยู่บนโค(如牛毛的要求) จึงกีดกันจีนแผ่นดินใหญ่ได้ และกลายเป็นความอยู่รอดของทั้ง 2 บริษัท และไม่เพียงเท่านั้น ยังได้รับใบสั่งซื้อจากบริษัทคิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค(kimberly clark)ของอเมริกาที่เป็นบริษัทใหญ่ระดับโลกด้วย รวมทั้งเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ผลิตหน้ากากอนามัยที่ จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีของประเทศนิวซีแลนด์ถ่ายทอดทางเฟสบุค ล้วนแต่มาจากบริษัทเฉวียนเหอทั้งนั้น
เดิมโรงงานทั้ง 2 แห่งมีศักยภาพในการผลิตเครื่องจักรเพียงแค่ 6 เครื่อง/เดือน แต่หลังจากที่เกิดการระบาดของโควิด 19 กระทรวงเศรษฐการไต้หวันมีออร์เดอร์ให้โรงงานทั้ง 2 ผลิตเครื่องจักรปริมาณมาก โดยมีการส่งกำลังคนและผู้เชี่ยวชาญเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้จากเดิมผลิตเครื่องจักร 6 เครื่อง/เดือน เพิ่มขึ้นเป็น 92 เครื่องภายใน 40 วัน กล่าวได้ว่าปริมาณเครื่องจักรเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าเลยทีเดียว จนทำให้ไต้หวันเองสามารถผลิตหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นมีปริมาณ 16 ล้านชิ้น/วัน กลายเป็นผู้ผลิตหน้ากากอนามัยรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากจีนแผ่นดินใหญ่ และขณะนี้ กว่า 20 ประเทศทั่วโลกกำลังสั่งซื้อเครื่องจักรหน้ากากอนามัย ไม่ว่า อเมริกา แคนาดา เม็กซิโก บราซิล อิตาลี เยอมรมันนี และมาเลเซีย เป็นต้นโดยผู้ซื้อเหล่านี้มีทั้งบริษัทเอกชนและรัฐบาล จำนวนเกินกว่า 100 เครื่อง จนถึงเดือนตุลาคมจึงจะส่งมอบได้หมดก็ยังรอได้
สิ่งที่น่าสังเกตคือ โรงงานผลิตเครื่องจักรเพื่อผลิตหน้ากากอนามัย 2 แห่งของไต้หวันที่มีผลประกอบการเพียงประมาณ 100 ล้านเหรียญไต้หวันและยังเป็นโรงงานที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก เมื่อเทียบกับจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีการเพิ่มสายการผลิตหน้ากากอนามัยใหม่เกือบ 2,000 สาย แต่กลับได้รับความสนใจจากทั่วโลก
จากการวิเคราะห์ของสมาชิกที่เข้าร่วมการผลิตหน้ากากอนามัยให้กับรัฐบอกว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาเร่งด่วนที่ต้องการช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ การเร่งการผลิตอุปกรณ์การแพทย์โดยพื้นฐานแล้วขอให้ใช้งานได้ก่อน แต่ไม่นานมานี้พบว่า หน้ากากอนามัยที่ผลิตจากจีนแผ่นดินใหญ่ให้กับประเทศต่างๆทั่วโลก คุณภาพค่อนข้างไม่ได้มาตรฐาน หน้ากากบางชิ้นยังมีซากของแมลวันหลงเหลืออยู่ รวมทั้งวัตถุดิบของการผลิตหน้ากากอนามัยอย่างผ้าเมลต์โบลนที่ใช้ร่วมกับผ้าไม่ถักทอราคาสูงขึ้นมาก มีการปรับขึ้นราคากว่า 13 เท่า และนอกจากนี้ เครื่องจักรผลิตหน้ากากขึ้นราคามากกว่า 3 เท่า/เครื่อง จนทำให้รัฐบาลประเทศต่างๆทั่วโลกที่ต้องการซื้อต้องหยุดชะงัก นี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเครื่องจักรผลิตหน้ากากของไต้หวันจึงได้รับความนิยมสูง
By รจรัตน์ ยนต์สุวรรณ, Rtiที่นี่ไต้หวัน –28 เม.ย. 63-อยากรู้ไหม?? กว่า 20 ประเทศเจาะจงสั่งซื้อเครื่องจักรหน้ากากอนามัยจากไต้หวันทั้งๆ ที่ต้องรอคิวยาว
ในไต้หวันมีโรงงานผลิตเครื่องจักรที่ผลิตหน้ากากอนามัยขนาดใหญ่อยู่ 2 โรงงาน โรงงานหนึ่งชื่อว่า “ฉางหง長宏” ส่วนอีกโรงงานหนึ่งชื่อ “เฉวียนเหอ權和” ซึ่งทางโรงงานฉางหงจะผลิตเครื่องจักรคุณภาพดีที่ใช้ผลิตหน้ากากอนามัยที่ขายในตลาดไต้หวัน ครองสัดส่วนการผลิต 70% ส่วนโรงงานเฉวียนเหอนั้นจะผลิตเครื่องจักรหน้ากากอนามัยคุณภาพพรีเมียมให้กับบริษัท 3M โดยทั้งบริษัทฉางหงและบริษัทเฉวียนเหอที่เปรียบเสมือนพี่น้อง เป็นศิษย์ที่แยกมาจากอาจารย์สำนักเดียวกันก็คือโรงงานผลิตเครื่องจักรผลิตหน้ากากอนามัยในเมืองถู่เฉิงของนครนิวไทเป และทั้ง 2 ต่างแยกออกมาเปิดกิจการของตัวเองในช่วงปี 1999 อย่างไรก็ตาม ภายใน 1 ปีที่เกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A/H1N1 2009 ได้มีโรงงานผลิตเครื่องจักรสำหรับการผลิตหน้ากากอนามัยเกิดขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่มากกว่า 50 เจ้า และโรงงานเหล่านี้ต่างขายเครื่องจักรราคาถูกประมาณครึ่งหนึ่งของไต้หวันเพื่อแย่งลูกค้า จนทำให้แต่เดิมในไต้หวันเองมีโรงงานที่ผลิตเครื่องจักรเพื่อผลิตหน้ากากอนามัยที่มีจำนวนเลข 2 หลัก ซบเซาลงจนเหลือแค่ 2โรงงาน
บริษัทฉางหงหรือเฉวียนเหอคงอยู่ได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ผลกำไรก็ไม่ได้สูงมาก
คำตอบคือ ในปีแรกที่เริ่มประกอบกิจการ ประธานบริษัททั้ง 2 ก็เริ่มท้าทายกับเป้าหมายสูง คือใช้วิธีรับจ้างผลิตเครื่องจักรให้กับบริษัท 3 เอ็มซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการการผลิตหน้ากากอนามัยคุณภาพสูงป้อนให้กับทั่วโลก นายลวี่ชิงหลิน(呂清林) ปธ.บริษัทฉางหง และนายเซียวหงปิน(蕭鴻彬) ปธ.บริษัทเฉวียนเหอ บอกว่า ตอนที่เริ่มประกอบกิจการ ก็เริ่มรับจ้างผลิตเครื่องจักรให้กับบริษัท 3 เอ็ม แต่ว่าการทำการค้ากับบริษัท 3 เอ็มไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทั้ง 2 หวลคิดถึงอดีต พร้อมเล่าให้ฟังว่า หลายคนคิดว่าการผลิตหน้ากากก็เพียงเอาผ้า 3 แผ่นเชื่อมด้วยเครื่องอุลตราซาวด์ก็พอแล้ว แต่ความจริงไม่ใช่ง่ายอย่างที่เล่าให้ฟังเลย เพราะว่า การรับจ้างผลิตให้กับบริษัท 3 เอ็ม ยิ่งถ้าเป็นหน้ากากอนามัย N95 ที่คุณภาพดี จะพิถีพิถันทุกขั้นตอน ยกตัวอย่างเช่น ความดันของอากาศภายนอกที่เล็ดลอดผ่านเข้าไปในหน้ากากอนามัยเพื่อเข้าไปทางเดินหายใจ จำเป็นต้องต่ำกว่า 150 ปาสกาล (Pa) การออกแบบเครื่องจักรต้องรอบครอบ อย่างเช่น ช่องสำหรับการปรับเครื่องจักรมีพื้นที่เพียงช่องเล็กๆที่ใช้มือยื่นเข้าไปเท่านั้น เพื่อป้องกันการบาดเจ็บของคนงาน หรือแม้กระทั่งคำเตือนการใช้งานของขนาดตัวหนังสือเล็กใหญ่หรือการใช้คำก็ต้องคำนึงถึงด้วย กล่าวได้ว่า จะต้องทำตามออร์เดอร์ของ 3 เอ็มทั้งหมด หากเทียบกับใบสั่งซื้อจากที่อื่นแค่มาก 2 เดือนก็สามารถส่งมอบสินค้าได้ แต่ของบริษัท 3 เอ็ม ผ่านไปแล้ว 4 เดือนยังส่งมอบสินค้าไม่ได้เลยก็มี
ด้วยมาตรฐานที่สูงของบริษัท 3 เอ็ม มีข้อเรียกร้องมากมายเปรียบประดุจขนที่อยู่บนโค(如牛毛的要求) จึงกีดกันจีนแผ่นดินใหญ่ได้ และกลายเป็นความอยู่รอดของทั้ง 2 บริษัท และไม่เพียงเท่านั้น ยังได้รับใบสั่งซื้อจากบริษัทคิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค(kimberly clark)ของอเมริกาที่เป็นบริษัทใหญ่ระดับโลกด้วย รวมทั้งเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ผลิตหน้ากากอนามัยที่ จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีของประเทศนิวซีแลนด์ถ่ายทอดทางเฟสบุค ล้วนแต่มาจากบริษัทเฉวียนเหอทั้งนั้น
เดิมโรงงานทั้ง 2 แห่งมีศักยภาพในการผลิตเครื่องจักรเพียงแค่ 6 เครื่อง/เดือน แต่หลังจากที่เกิดการระบาดของโควิด 19 กระทรวงเศรษฐการไต้หวันมีออร์เดอร์ให้โรงงานทั้ง 2 ผลิตเครื่องจักรปริมาณมาก โดยมีการส่งกำลังคนและผู้เชี่ยวชาญเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้จากเดิมผลิตเครื่องจักร 6 เครื่อง/เดือน เพิ่มขึ้นเป็น 92 เครื่องภายใน 40 วัน กล่าวได้ว่าปริมาณเครื่องจักรเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าเลยทีเดียว จนทำให้ไต้หวันเองสามารถผลิตหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นมีปริมาณ 16 ล้านชิ้น/วัน กลายเป็นผู้ผลิตหน้ากากอนามัยรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากจีนแผ่นดินใหญ่ และขณะนี้ กว่า 20 ประเทศทั่วโลกกำลังสั่งซื้อเครื่องจักรหน้ากากอนามัย ไม่ว่า อเมริกา แคนาดา เม็กซิโก บราซิล อิตาลี เยอมรมันนี และมาเลเซีย เป็นต้นโดยผู้ซื้อเหล่านี้มีทั้งบริษัทเอกชนและรัฐบาล จำนวนเกินกว่า 100 เครื่อง จนถึงเดือนตุลาคมจึงจะส่งมอบได้หมดก็ยังรอได้
สิ่งที่น่าสังเกตคือ โรงงานผลิตเครื่องจักรเพื่อผลิตหน้ากากอนามัย 2 แห่งของไต้หวันที่มีผลประกอบการเพียงประมาณ 100 ล้านเหรียญไต้หวันและยังเป็นโรงงานที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก เมื่อเทียบกับจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีการเพิ่มสายการผลิตหน้ากากอนามัยใหม่เกือบ 2,000 สาย แต่กลับได้รับความสนใจจากทั่วโลก
จากการวิเคราะห์ของสมาชิกที่เข้าร่วมการผลิตหน้ากากอนามัยให้กับรัฐบอกว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาเร่งด่วนที่ต้องการช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ การเร่งการผลิตอุปกรณ์การแพทย์โดยพื้นฐานแล้วขอให้ใช้งานได้ก่อน แต่ไม่นานมานี้พบว่า หน้ากากอนามัยที่ผลิตจากจีนแผ่นดินใหญ่ให้กับประเทศต่างๆทั่วโลก คุณภาพค่อนข้างไม่ได้มาตรฐาน หน้ากากบางชิ้นยังมีซากของแมลวันหลงเหลืออยู่ รวมทั้งวัตถุดิบของการผลิตหน้ากากอนามัยอย่างผ้าเมลต์โบลนที่ใช้ร่วมกับผ้าไม่ถักทอราคาสูงขึ้นมาก มีการปรับขึ้นราคากว่า 13 เท่า และนอกจากนี้ เครื่องจักรผลิตหน้ากากขึ้นราคามากกว่า 3 เท่า/เครื่อง จนทำให้รัฐบาลประเทศต่างๆทั่วโลกที่ต้องการซื้อต้องหยุดชะงัก นี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเครื่องจักรผลิตหน้ากากของไต้หวันจึงได้รับความนิยมสูง