ที่นี่ไต้หวัน

ที่นี่ไต้หวัน - 2020-11-03


Listen Later

ที่นี่ไต้หวัน –03 พ.ย. 63- เพิ่มมูลค่าสินค้า!! สกัดหน่อไม้ฝรั่งแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวด้วยแนวคิดอุตสาหกรรมขั้นที่ 6

        ไต้หวันถือเป็นประเทศผลิตเครื่องสำอาง สกินแคร์ที่ไม่แพ้เกาหลี ญี่ปุ่น หรือแม้แต่ไทย แต่ละปีสร้างรายได้จากการขายสินค้าทั้งในและต่างประเทศนับหมื่นล้านเหรียญไต้หวัน และยังมีการดึงดูดผู้ประกอบการมาลงทุนในธุรกิจนี้จำนวนไม่น้อย ทั้งนี้ เครื่องสำอางเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่รัฐบาลไต้หวันให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก จากสถิติของกระทรวงเศรษฐการไต้หวันชี้ว่า สินค้าเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเป็นสินค้าที่ครองสัดส่วนมากที่สุดคือประมาณ 50-60% ของบรรดาสินค้าในหมวดยา เวชภัณฑ์และเครื่องสำอางของไต้หวัน แม้แต่สินค้าเกษตรก็ยังนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณ ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร  ยกตัวอย่าง หน่อไม้ฝรั่งซึ่งเป็นสินค้าเกษตรที่ทางสมาคมพัฒนาธุรกิจหน่อไม้ฝรั่งของเขตเจียงจวิน นครไถหนาน ร่วมมือกับคณะวิจัยของมหาวิทยาลัยเฉิงกง สกัดเอาสารพอลิแซ็กคาไรด์จากหน่อไม้ฝรั่งนำมาผลิตเป็นเอสเซนส์บำรุงผิว   เจลอาบน้ำ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ผ่านการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์มานาน 2 ปีแล้ว ขณะนี้ผลิตเป็นสินค้าและมีการวางจำหน่ายที่สมาคมเกษตรเขตเจียงจวินของนครไถหนานแล้วด้วย

หน่อไม้ฝรั่งสดประกอบอาหารหลากหลาย

       สมาคมเกษตรเขตเจียงจวินชี้ว่า ที่ผ่านมา มักจะขายหน่อไม้ฝรั่งสดเพื่อใช้ประกอบอาหารเป็นหลักด้วยการลวก ต้ม ผัด ทำสลัด เป็นต้น และปัจจุบันยังมีการแปรรูปหน่อไม้ฝรั่งเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น หน่อไม้ฝรั่งหยองสำหรับคนกินเจ(หมูหยองเจที่ทำมาจากหน่อไม้ฝรั่ง) และยังมีชาซองชงที่ทำจากหน่อไม้ฝรั่ง ทั้งนี้ หน่อไม้ฝรั่งนั้นมีเส้นใยค่อนข้างหยาบ หากมีการนำเอาส่วนที่ค่อนข้างหยาบหรือส่วนที่จะทิ้งไปมาใช้ประโยชน์ ก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้ ดังนั้น ทางสมาคมได้ร่วมมือกับคณะวิจัยของมหาวิทยาลัยเฉิงกง นำหน่อไม้ฝรั่งที่มีตำหนิหรือที่ต้องการทิ้ง สกัดเอาสารพอลิแซ็กคาไรด์ที่มีคุณสมบัติแอนตี้ออกซิแดนท์ หรือที่บางคนรู้จักในชื่อของสารต้านอนุมูลอิสระ  ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่เกิดขึ้น นำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวพรรณ สำหรับการสกัดหน่อไม้ฝรั่งแล้วแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวนั้น มีการใช้แนวคิดการรวมกลุ่มอุตสาหกรรมขั้นที่ 6 (Sixth-Order Industry) ซึ่งหมายความว่ามีการผนึกกำลังสร้างเครือข่ายระหว่างขั้นที่ 1 ซึ่งก็คือภาคการเกษตร ขั้นที่ 2 คือภาคอุตสาหกรรมแปรรูป และขั้นที่ 3 คือการกระจายสินค้า (1 x 2 x 3 = 6)  การทำเช่นนี้ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนชนบท โดยวงจรทั้งหมดจะเริ่มจากภาคเกษตรเป็นหลัก และมีการเชื่อมโยงตลอดห่วงโซ่ จะขาดขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งไปไม่ได้ การรวมกลุ่มอุตสาหกรรมขั้นที่ 6 ของสมาคมเกษตรเขตเจียงจวินในครั้งนี้ ก็ถือเป็นการเน้นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นที่ชนบท สร้างความร่วมมือระหว่างภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจการค้า เพื่อความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกว่าการซื้อขายแบบปกติทั่วไป มีการร่วมมือกับบริษัทไบโอเทคโนโลยี เปิดคอร์สฝึกอบรมการดูแลผิวพรรณให้กับแม่บ้านในชุมชนเพื่อนำไปประกอบเป็นอาชีพประเภทเสริมความงาม นวดหน้า หรือสปาร์

สกัดหน่อไม้ฝรั่งแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

       อู๋หมิงเฉิง(吳明成) ประธานสมาคมเขตเจียงจวินบอกว่า ที่เขตเจียงจวินมีพื้นที่เพาะปลูกหน่อไม้ฝรั่งประมาณ 45 เฮกตาร์ ปริมาณการเพาะปลูก 1,200 ตัน/ปี มูลค่าการผลิตประมาณ 140 ล้านเหรียญไต้หวัน ในจำนวนนี้เป็นการปลูกหน่อไม้ฝรั่งในโรงเรือนครองสัดส่วนมากที่สุดมากในไต้หวันประมาณ 18 เฮกตาร์ ปริมาณการผลิต 550 ตัน และสามารถเก็บเกี่ยวส่งหน่อไม้ฝรั่งขายสู่ตลาดได้ตลอดทั้งปี ส่วนการเพาะปลูกหน่อไม้ฝรั่งในที่โล่งแจ้งนั้น แบ่งเป็นช่วงดูแลการเพาะปลูกตั้งแต่เดือน ส.ค.จนถึงเดือน ก.พ.ของปีถัดไป ส่วนช่วงที่มีผลผลิตมากคือตั้งแต่เดือน มี.ค.จนถึงเดือน มิ.ย. ซึ่งการปลูกหน่อไม้ฝรั่งจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในรูปแบบของเกษตรพันธสัญญาหรือคอนแทรคฟาร์มมิ่ง พื้นที่ 0.2 เฮกตาร์/ครัวเรือน(หรือประมาณ 1.25ไร่) ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรพันธสัญญาอยู่ประมาณ 30 ครัวเรือนในเนื้อที่ 6.5 เฮกตาร์

หน่อไม้ฝรั่งสดที่ขายตามท้องตลาด

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ที่นี่ไต้หวันBy รจรัตน์ ยนต์สุวรรณ, Rti