ที่นี่ไต้หวัน

ที่นี่ไต้หวัน - 2020-12-22


Listen Later

ธุรกิจปศุสัตว์เจาะตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงสุนัขและแมว เล็งเห็นคนเลี้ยงฟูมฟักเหมือนลูก ทุ่มเงินจ่ายไม่อั้น

           สถิติคณะกรรมการการเกษตรไต้หวันระบุ ปี 2018 ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงสุนัขและแมวในประเทศมีจำนวน 140,000 ตัน (รวมทั้งอาหารแห้ง อาหารกระป๋อง อาหารสด อาหารแช่แข็ง และประเภทอาหารขบเคี้ยว) ประมาณ 70%นำเข้าจากต่างประเทศ และส่วนใหญ่นำเข้ามาจากสหรัฐ ไทย ที่เหลืออีก 30% ผลิตในประเทศ ซึ่งในส่วนที่นำเข้านั้นเป็นอาหารเสริมมีมากถึง 80% สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า อาหารสัตว์เลี้ยงรวมทั้งอาหารเสริมสุขภาพล้วนแต่นำเข้าจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับในอดีต อัตราส่วนการนำเข้าจาก 90% มีแนวโน้มลดลง และมีการผลิตในประเทศครองสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น สาเหตุสำคัญมาจากเหตุการณ์ที่สุนัขกินอาหารสัตว์ที่นำเข้าและเกิดปัญหาไตวายเกิดการล้มตายเป็นจำนวนมากในปี 2014 หลังจากเหตุการณ์นี้แล้ว ทำให้ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงสุนัขและแมวเริ่มมีการล้างไพ่ใหม่ หน่วยงานเกษตรมีการจัดระเบียบความปลอดภัยของอาหารสุนัขและแมว หลายคนพบว่ายี่ห้อของอาหารสุนัขและแมวมีความหลากหลายขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นในไต้หวันจากผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อมเริ่มมีมากขึ้นด้วย และเริ่มมีการกำกับที่ฉลากว่าใช้วัตถุดิบในประเทศ ไม่ว่าอาหารกระป๋องหรือขนมขบเคี้ยว มีการใช้วัตถุดิบที่ทำมาจากเนื้อหลากหลายเหนือคาดคิด เพราะว่าในอดีตส่วนใหญ่ใช้วัตถุดิบที่เป็นเนื้อไก่ เนื้อวัวเป็นหลัก แต่ตอนนี้มีเนื้อจรเข้ เนื้อห่าน เนื้อกวาง เนื้อแกะ เนื้อไก่งวง หรือแม้แต่เนื้อของสัตว์ป่าทั้งหลาย อย่างเช่น เนื้อกระต่าย เนื้อกบ หนอนแมลง เป็นต้น ที่ยิ่งไปกว่านี้ หลายๆ ยี่ห้อที่ติดฉลากว่าผลิตในประเทศจะมีเลขทะเบียน CAS พร้อมระบุด้วยว่าเป็นอาหารในเกรดที่คนบริโภคได้ มีไขมันต่ำ เป็นต้น สือซื่อจง(石世琮) ประธานสมาคมการค้าผลิตภัณฑ์เครื่องใช้และอาหารสัตว์เลี้ยงไต้หวันกล่าวว่า ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงสุนัขและแมวในไต้หวันยังสามารถขยายตัวได้อีก เหตุผลคือ ถ้าเปรียบเทียบการเลี้ยงสุนัขและแมวกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย หรือประเทศในยุโรป อเมริกา อย่างประเทศญี่ปุ่น เฉลี่ยทุก 6 คนจะมี 1 คนที่เลี้ยงสุนัขหรือแมว แต่ในไต้หวันนั้นเฉลี่ยทุก 9 คนจะมี 1 คนที่เลี้ยงสุนัขหรือแมว (อัตราส่วนการเลี้ยงในปี 2017 ประมาณ 16%) ส่วนในออสเตรเลียเฉลี่ยทุก 2 คนจะมี 1 คนที่เลี้ยงสุนัข กล่าวได้ว่า สุนัขหรือแมวเป็นมิตรที่ดีที่สุดของมนุษย์ ไต้หวันได้ก้าวสู่สังคมผู้สูงวัย หนุ่มสาวจำนวนมากไม่แต่งงาน ไม่อยากมีลูก หรือถ้ามีลูกก็มีน้อย ก็เลยชอบที่จะเลี้ยงสุนัขหรือแมวไว้เป็นเพื่อน ทำให้สัตว์เลี้ยงเป็นมากกว่าแค่สัตว์เลี้ยง แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของคำว่าครอบครัว คาดว่าจำนวนของผู้ที่เลี้ยงสุนัขหรือแมวไว้เป็นเพื่อนจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น ในจำนวนนี้พบว่า การเลี้ยงสุนัขจะเพิ่มขึ้นน้อยกว่า แต่การเลี้ยงแมวมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่า  สือซื่อจงคาดว่า ภายใน 5 ปี คนไต้หวันจะเลี้ยงแมวเพิ่มขึ้นจนมีจำนวนใกล้เคียงกับสุนัข ที่ผ่านมา คณะกรรมการการเกษตรจะสำรวจจำนวนประชากรของสุนัขและแมว 2 ปี/ครั้ง และผลการสำรวจล่าสุดพบว่า จำนวนของสุนัขและแมวรวมกันแล้วมีมากกว่า 2,510,000 ตัว อัตราการเลี้ยงดู 10.64% เกือบ 90% ของประชากรยังไม่มีการเลี้ยงสุนัขหรือแมว แม้ในเกือบ 90% นี้คิดว่าในอนาคตอาจจะไม่เลี้ยงสุนัขหรือแมวตลอดชั่วชีวิตเลยก็ได้ แต่ว่าองค์กรทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งสมาคมผู้ค้าอาหารสุนัขและแมว ต่างก็เชียร์ว่าการเลี้ยงสุนัขหรือแมวมีประโยชน์ ไม่เพียงแต่ช่วยบำบัดจิตใจมนุษย์เท่านั้น ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาล ทำให้สุขภาพดีขึ้น และยังมีผลพลอยได้ในการช่วยสร้างสัมพันธภาพภายในครอบครัวและเป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีขึ้นด้วย ช่วยให้สุนัขและแมวมีบ้าน มีคนรัก มีชีวิตที่มีความสุข ลดความทุกข์จากการถูกทอดทิ้ง

ผู้ประกอบการขายอาหารสุนัขและแมวที่เจ้าของเลี้ยงร่วมกินได้ด้วย

           ปัจจุบัน แนวโน้มการเติบโตของอาหารสัตว์เลี้ยงสุนัขและแมวเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและคุณภาพ ยกตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์อาหารยี่ห้อ MEIMEI小食堂  ที่ผลิตอาหารขบเคี้ยวเป็นหลัก ติดฉลากว่าใช้เนื้อวัวในประเทศที่ไม่ผ่านการแช่แข็ง เน้นการคงไว้ซึ่งคุณค่าทางโภชนาการ ผลิตในห้องไร้ฝุ่น เซี่ยเจียซิน(謝嘉心) ผู้จัดการบริษัทบอกว่า แม้ว่าต้นทุนของเนื้อที่ผลิตในประเทศจะสูงกว่า แต่มีความสดใหม่ รสชาติดีกว่าเนื้อที่นำเข้า ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ทั้งนี้ ทางบริษัทมีการร่วมมือกับฟาร์มเลี้ยงวัวในไต้หวัน โดยทางบริษัทจะเป็นผู้ผลิตอาหารขบเคี้ยวจากเนื้อวัวเป็นหลัก แม้เนื้อจรเข้ เนื้อเป็ด เนื้อหมูที่ใช้ก็ยังผลิตในประเทศ แต่ว่าเนื้อกวางนำเข้าจากต่างประเทศ อนาคตจะหันมาใช้เนื้อกวางในประเทศซึ่งขณะนี้กำลังเล็งหาแหล่งที่มา หากจะถามว่าแหล่งของวัตถุดิบจากในประเทศหรือนำเข้าคุณภาพมีความต่างกันหรือไม่ ผจก.เซี่ยบอกว่า อยู่ที่การตัดสินใจของเจ้าของสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตาม คุณภาพของอาหารสัตว์เลี้ยงในไต้หวันมีการยกระดับสูงขึ้น เจ้าของสัตว์เลี้ยงจำนวนมากนิยมใช้ของสดใหม่ คุณภาพดี

อาหารแห้งที่หลากหลาย

           ในช่วง 10 ปีนี้ เริ่มมีอาหารสัตว์เลี้ยงที่เป็นของดิบ แต่เจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคนไม่คุ้นเคย ผู้ประกอบการอาหารสัตว์เลี้ยงบอกว่า สาเหตุหลักคือต้องการให้สุนัขและแมวได้รับน้ำที่มาจากอาหารธรรมชาติ อาหารดิบจะสอดคล้องกับความต้องการทางสรีระ อาหารดิบย่อยง่ายและดูดซึมได้ง่ายกว่า คล้ายๆ กับซาซิมิที่คนกิน ยกตัวอย่าง DogCatStar  เป็นผู้ประกอบการที่เลือกใช้อาหารดิบเป็นหลัก มีการระบุฉลากใช้วัตถุดิบในประเทศ ใช้ไก่ของบริษัทต้าเฉิงที่ได้มาตรฐาน ใช้เป็ดซากุระจากหุบเขาฮัวตง ไข่ไก่คุณภาพดีจากฟาร์ม ซึ่งผ่านการรับรองCAS เป็นต้น หากมีการใช้เนื้อวัวหรือเนื้อแกะที่นำเข้า ก็จะระบุแหล่งที่มา เลี้ยงเป็นมิตรกับสัตว์และสิ่งแวดล้อม ปลอดสาร เป็นต้น ซึ่งอาหารดิบไม่เพียงแต่ต้องแช่แข็ง ยังต้องถูกสุขอนามัย เนื้อดิบต้องผ่านการฆ่าเชื้อด้วยเทคนิก HPP:High Pressure Processing ซึ่งก็คือเทคโนโลยียืดอายุการเก็บรักษาโดยไม่ใช้ความร้อน ปราศจากสารกันบูด ช่วยรักษารส กลิ่น สีและคุณค่าทางอาหาร เมื่อซื้อกลับบ้านแล้วให้แบ่งเป็นห่อเล็กเพื่อใช้แต่ละครั้ง แช่แข็งไว้ เมื่อต้องการก็คลายฟรีซ และหลังคลายฟรีซแนะนำกินให้หมดภายใน 1-2 ชม. อาหารดิบแช่แข็งเก็บได้นาน 10 เดือน หลังเปิดใช้หากเก็บไว้ในอุณหภูมิตู้เย็นปกติมีอายุแค่ 3 วัน ส่วนอาหาร  ฟรีซดรายเก็บได้ในอุณหภูมิห้องได้

สายการผลิตอาหารสุนัข

           นอกจากอาหารดิบแล้ว อาหารสัตว์เลี้ยงในไต้หวันยังมีอาหารสดที่หลากหลายด้วย มีทั้งแบบบรรจุกระป๋อง อาหารสุกที่เป็นเนื้อบดสำหรับทำเบอร์เกอร์ เป็นต้น อย่าง บริษัทเหมาต้าซู่(毛大廚) จะขายเบอร์เกอร์เป็นหลัก มีทั้งเนื้อไก่ เนื้อวัว หรือเนื้อปลา และเน้นว่าใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อเกรดเดียวกับคนกิน มีผักสดผสมสมุนไพรอยู่ในเบอร์เกอร์ด้วย เป็นเบอร์เกอร์เนื้อสุก นำไปอุ่นไมโครเวฟ หรือนึ่งในหม้อหุงข้าวหรือคลายฟรีซก็กินได้เลย และถ้าต้องการใส่อาหารเสริมหรือยาเม็ด ก็ใส่เข้าไปในเบอร์เกอร์ได้เลย กลบกลิ่นยาได้ เบอร์เกอร์ลูกหนึ่งหนัก 95 กรัม ราคาเท่ากับข้าวกล่องไก่ทอดของคนกิน อย่างไรก็ตาม อาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศของไต้หวันที่ครองสัดส่วนสูงสุดเป็นของบริษัทฝูโซ่ว(福壽) มีประมาณ 35% มียี่ห้อ 9-10 อย่างขายปลีกในประเทศ หงเหยาคุน(洪堯昆) ประธานบริษัทบอกว่า ความสดของอาหารสัตว์ที่ผลิตในไต้หวันดีกว่าของนำเข้า เพราะว่าไม่ต้องขนส่งนาน การควบคุมอุณหภูมิขณะขนส่งยาก หากผลิตในประเทศ วันนี้ผลิต พรุ่งนี้ก็ขายได้เลย ได้รับความนิยมจากลูกค้า คาดว่าในอนาคตจะแทนที่การนำเข้ามากขึ้น แต่ว่าเนื่องจากการแข่งขันในประเทศสูง ทางบริษัทจึงใช้หลายยี่ห้อเพื่อสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ตลาดอาหารสดของสัตว์เลี้ยงในประเทศครองสัดส่วนแค่ 1-2% มีไม่มาก ราคายังแพงอยู่ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นอาหารแห้งมากกว่า ประธานหงยังบอกด้วยว่า ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกปี 2018 มีมูลค่าสูงถึง 91,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ของใช้สัตว์เลี้ยงสูงถึง 33,900 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้เศรษฐกิจไต้หวันปี 2019 อัตราการเจริญเติบโตลดลง 2% แต่ธุรกิจสัตว์เลี้ยงยังคงเติบโต คาดว่าในอนาคต ภาพรวมตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงในไต้หวันไม่ว่าจะเป็นของใช้หรืออาหารของสุนัขและแมวจะเพิ่มสูงถึง 50,000 ล้านเหรียญไต้หวัน ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว

วัตถุดิบใช้เนื้ออกไก่(ภาพซ้าย) เนื้อบดสำหรับทำเบอร์เกอร์ มีทั้งเนื้อไก่ ปลา วัว เกรดเดียวกับคนกิน(ภาพขวา)

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ที่นี่ไต้หวันBy รจรัตน์ ยนต์สุวรรณ, Rti