ที่นี่ไต้หวัน

ที่นี่ไต้หวัน วันอังคารที่ 10 ก.ย.2567


Listen Later

   ในไต้หวัน กะหล่ำปลีเป็นผักที่หาบริโภคได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิสูง การปลูกกะหล่ำปลีในพื้นที่ราบมักไม่เจริญเติบโตดี เนื่องจากความร้อนทำให้พืชอ่อนแอ พื้นที่เพาะปลูกหลักในช่วงนี้จึงเป็นภูเขาสูงที่อากาศเย็นกว่า เช่น เมืองหนานโถวและอี๋หลาน อย่างไรก็ตาม ฤดูร้อนมักเกิดฝนตกชุกและพายุไต้ฝุ่น ทำให้ผลผลิตลดลงและราคาผักผันผวนได้ง่าย

กะหล่ำปลีพันธุ์ ไทจง เบอร์ 3 หวานกรอบอร่อย

   เพื่อแก้ปัญหานี้ สถานีวิจัยและส่งเสริมการเกษตรเขตไทจงได้ใช้เวลา 10 ปีในการพัฒนากะหล่ำปลีพันธุ์ใหม่ "ไทจง เบอร์ 3" ซึ่งมีความต้านทานต่อความร้อนและโรคใบเหลืองสูง เหมาะสำหรับการปลูกในพื้นที่ราบช่วงฤดูร้อน ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงในการผลิตและลดความผันผวนของราคา

   พื้นที่ปลูกกะหล่ำปลีในไต้หวันมีมากถึง 8,300 เฮกตาร์ ซึ่งนับเป็นผักใบที่มีพื้นที่ปลูกมากที่สุด อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของกะหล่ำปลีอยู่ที่ 15-25°C พันธุ์หลักที่นิยมปลูกในช่วงฤดูร้อนในพื้นที่ที่อากาศเย็น เช่น บนภูเขา คือ พันธุ์ "ชูชิว" (初秋), "เสวี่ยชุ่ย" (雪翠), และพันธุ์ 228 ซึ่งในเขตพื้นที่ราบที่อุณหภูมิสูงกว่าช่วงหน้าร้อน หัวกะหล่ำปลีจะมีขนาดเล็กลง และหากอุณหภูมิสูงมาก กะหล่ำปลีจะเจริญเติบโตได้ไม่ดี ส่งผลให้ผลผลิตลดลง นอกจากนี้ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดโรคใบเหลืองในกะหล่ำปลีที่ปลูกในพื้นที่ภูเขาสูงมากขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตลดลงอย่างมากในช่วงหน้าร้อน

กะหล่ำปลีพันธุ์ ไทจง เบอร์ 3 ผ่าครึ่ง

   เฉียนชางเซิ่ง (錢昌聖) ผู้ร่วมวิจัยสถานีวิจัยและส่งเสริมการเกษตรเขตไทจงกล่าวว่า กะหล่ำปลีพันธุ์ชูชิว (初秋) ไม่ใช่พันธุ์ที่พัฒนาโดยไต้หวันเอง สิทธิ์การใช้สายพันธุ์นี้อาจหมดอายุในอนาคต ทำให้ไต้หวันจำเป็นต้องพัฒนาพันธุ์กะหล่ำปลีของตนเอง โดยเน้นการต้านทานสภาพอากาศร้อนในช่วงหน้าร้อน เพื่อให้แน่ใจว่าประเทศจะมีกะหล่ำปลีบริโภคตลอดทั้งปี ซึ่งก่อนหน้านี้ สถานีวิจัยฯ ได้พัฒนาพันธุ์ "ไทจง เบอร์ 1" และ "ไทจง เบอร์ 2" ซึ่งเป็นกะหล่ำปลีพันธุ์ที่มีกาบใบนุ่มและทนต่อความร้อนได้ดีกว่าพันธุ์ชูชิวและเสวี่ยชุ่ย โดยพันธุ์เหล่านี้มีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย แม้จะมีการปลูกในช่วงหน้าร้อนแล้ว แต่ยังไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ยังคงปลูกพันธุ์ 228 ที่มีกาบใบแข็งเป็นหลัก

สวนกะหล่ำปลีที่ปลูกบนภูเขาสูง

   เพื่อยืนยันความทนทานต่อความร้อนของกะหล่ำปลีพันธุ์ใหม่ "ไทจง เบอร์ 3" เมื่อเทียบกับพันธุ์ 228 สถานีวิจัยและส่งเสริมการเกษตรเขตไทจงได้ทำการทดลองพิเศษในช่วงหน้าร้อน โดยเปรียบเทียบการปลูกทั้งสองสายพันธุ์ในโรงเรือน ผลการทดลองพบว่า "ไทจง เบอร์ 3" ให้ผลผลิตมากกว่าพันธุ์ 228 แม้ในสภาพโรงเรือนที่มีอุณหภูมิสูงกว่ากลางแจ้ง เนื่องจากการระบายอากาศน้อยกว่า การทนความร้อนของ "ไทจง เบอร์ 3" ยังคงดีเมื่อปลูกกลางแจ้ง

   กะหล่ำปลี "ไทจง เบอร์ 3" ได้รับการจดสิทธิ์สายพันธุ์ในเดือนเมษายน 2024 และคาดว่าการปลูกเชิงพาณิชย์จะเริ่มได้ในอีกประมาณ 2 ปี

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ที่นี่ไต้หวันBy รจรัตน์ ยนต์สุวรรณ, Rti