ที่นี่ไต้หวัน

ที่นี่ไต้หวัน วันอังคารที่ 10 ต.ค.2566


Listen Later

   เงาะและมังคุดที่ปลูกในไต้หวันมีปริมาณน้อย ไม่เพียงพอต่อการบริโภค แม้จัดเป็น "ผลไม้น้องใหม่" แต่ในความเป็นจริงไต้หวันได้นำเข้ามาปลูกตั้งแต่ปี  1930 จนกระทั่งปัจจุบันยังได้พัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย หลิว ปี้จวน(劉碧鵑) ผู้ช่วยวิจัยจากสถาบันวิจัยการเกษตรสาขาโฟ่งซาน กล่าวว่า ปัจจุบันไต้หวันมีพันธุ์เงาะอย่างน้อย 10 กว่าสายพันธุ์ มีทั้งสีเปลือกสีแดง เขียว เหลือง และสีอื่นๆ ส่วนมังคุดก็มีถึง 3 สายพันธุ์ เป็นมังคุดจากไทยที่เปลือกสีม่วงดำ มังคุดพันธุ์มาสเตอร์ และมังคุดเปลือกสีเหลืองหรือที่เรียกว่า อาชาชา

พันธุ์มังคุดที่ปลูกในไต้หวัน

  ไช่เหมินซิง(蔡門興) เจ้าของสวนต้าจิน ตำบลเกาซู่ เมืองผิงตง ที่ปลูกลิ้นจี่เป็นหลัก บังเอิญได้กินเงาะแล้วรู้สึกประทับใจในรสชาติ จึงได้ปลูกเงาะมานานเกือบ 50 ปี ปัจจุบันมีพื้นที่เพาะปลูกกว่า 12 เฮกตาร์( 70 กว่าไร่) เก็บขายส่งถึงบ้านในราคาอย่างน้อย 250 เหรียญไต้หวันต่อน้ำหนัก 600 กรัม(1ชั่ง) และยังส่งขายในไฮเปอร์มาร์เก็ต เช่น Costco ด้วย ส่วนเกษตรกรผลไม้ สวี่ซิ่วฉิง(許琇晴) ที่ปลูกมังคุดในสวนฟางเหลียว เมืองผิงตง ได้ปลูกมังคุดนานกว่า 8 ปี ส่งขายในราคา 750 เหรียญไต้หวันต่อน้ำหนัก 600 กรัม และที่ฟาร์มนิเวศไฉ่หงอวี้ ในตำบลเฉาโจวของคุณเฉินคุนซิ่นก็ปลูกมังคุดสีทองหรืออาชาชาเช่นกัน ปัจจุบันมีผลผลิตคงที่ ขายในราคา 350 เหรียญไต้หวันต่อน้ำหนัก 600 กรัม

เงาะที่ปลูกในไต้หวัน

   คุณไช่เหมินซิง บอกว่า แม้จะปลูกเงาะมาเกือบครึ่งศตวรรษแล้ว แต่เงาะก็ไม่เคยกลายเป็นผลไม้กระแสหลักในไต้หวัน เขาคิดว่าสาเหตุเป็นเพราะไม่มีเงาะสายพันธุ์หลักที่ได้รับการส่งเสริมโดยเฉพาะ จึงทำให้คุณภาพของเงาะไม่สม่ำเสมอ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเงาะจึงไม่เป็นที่ยอมรับของตลาด ซึ่งในช่วงแรกๆ ที่เขาปลูกเงาะและได้ผลผลิตแล้ว เขาจะนำไปแจกให้กับพ่อค้าลิ้นจี่ชิม จนต่อมาจึงได้ขายสู่ตลาดผ่านคนขายลิ้นจี่ และค่อยๆ มีคนยอมรับเงาะมากขึ้นเรื่อยๆ และขณะนี้ก็ยังไม่อนุญาตนำเข้าเงาะมาขายในไต้หวัน นอกจากนี้ เงาะที่ปลูกในไต้หวันจะมีความสดกว่า คนที่กินแล้วบอกว่าอร่อย จึงคาดว่าในอนาคตความต้องการเพิ่มขึ้นแน่นอน

เงาะที่ปลูกในไต้หวัน

   หลิว ปี้จวน ผู้ช่วยวิจัยจากสถาบันวิจัยการเกษตรสาขาโฟ่งซาน วิเคราะห์ว่า ชาวสวนเงาะคุ้นเคยกับการขยายพันธุ์ต้นกล้าจากเมล็ด จะทำให้กลายพันธุ์ได้ง่าย นอกจากนี้ ไต้หวันมีเงาะหลายพันธุ์มากเกินไป จะส่งผลต่อการขาย เงาะบางพันธุ์เนื้อไม่ล่อนจากเมล็ด ผู้บริโภคกินไม่สะดวก จึงไม่อยากซื้อ และลิ้นจี่ยังได้จำกัดส่วนแบ่งการตลาดของเงาะด้วย เพราะทั้งเงาะและลิ้นจี่เป็นไม้ผลที่อยู่ในสกุลเดียวกัน การเจริญเติบโตคล้ายกัน เป็นผลไม้ฤดูร้อนทั้งคู่ แต่คนไต้หวันชอบลิ้นจี่ที่มีรสชาติเข้มข้น หวาน เนื้อล่อนจากเมล็ด ส่วนเงาะมีรสชาติที่เข้มข้นน้อยกว่าด้วย ดังนั้นเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้จึงให้ความสำคัญกับการปลูกลิ้นจี่โดยปริยาย

เงาะที่ขายในตลาดสด 

   อย่างไรก็ตาม เงาะก็มีข้อได้เปรียบบางอย่างที่เหนือลิ้นจี่ เนื่องจากช่วงเก็บเกี่ยวผลิตลิ้นจี่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน เกษตรกรมักประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน แต่เงาะเก็บเกี่ยวได้ปีละสองครั้ง ผลผลิตในช่วงฤดูร้อนจะออกผลช้ากว่าลิ้นจี่ ผลผลิตยังน้อย  จะมีแรงกดดันจากปัญหาขาดแคลนแรงงานน้อยกว่า นอกจากนี้ เงาะในไต้หวันมีโอกาสน้อยที่จะได้รับผลกระทบจากศัตรูพืชและโรคที่พบบ่อยเหมือนประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นความต้องการยาฆ่าแมลงจึงลดลง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของอาหาร

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ที่นี่ไต้หวันBy รจรัตน์ ยนต์สุวรรณ, Rti