ที่นี่ไต้หวัน

ที่นี่ไต้หวัน วันอังคารที่ 11 มี.ค.2568


Listen Later

   ปลาบู่ทรายลายขาว (Amblygobius phalaena) หรือที่รู้จักในชื่อ "ปลาบู่ทรายวงแหวน" เป็นปลาที่ช่วยทำความสะอาดตู้เลี้ยงสัตว์ทะเลเพื่อรักษาสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะการกรองทรายพื้นตู้ให้สะอาด ซึ่งในตลาดยุโรปและอเมริกามีราคาสูงถึง 35 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัว อย่างไรก็ตาม ปลาชนิดนี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศแนวปะการัง การจับจากธรรมชาติทำให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ ดังนั้น สถาบันวิจัยการประมง ภายใต้กระทรวงเกษตรไต้หวัน (Fisheries Research Institute) จึงได้พัฒนาวิธีเพาะเลี้ยงปลาบู่ทรายลายขาวในระบบปิดสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก คาดว่าจะช่วยลดการจับจากธรรมชาติ และผลงานวิจัยนี้ยังได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Fishes และ North American Journal of Aquaculture ในปี 2023 ด้วย

   ปลาบู่ทรายลายขาวมีลวดลายและสีสันหลากหลาย มีพฤติกรรมกรองทรายเพื่อหาอาหาร ทำให้พื้นทรายในตู้ปลาสะอาด ในไต้หวัน มักเรียกกันว่า “ปลาบู่กรองทรายวงแหวน” หรือ “ปลาบู่วงแหวน” ปัจจุบัน ตลาดปลาสวยงามทั่วโลกต้องพึ่งพาการจับจากธรรมชาติ โดยแหล่งสำคัญ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเขตน้ำตื้นรอบไต้หวัน เช่น หมู่เกาะเผิงหู เสี่ยวหลิวฉิว ตงซา และหนานซา

   ชิวเพ่ยเซิ่ง(邱沛盛) ผู้ช่วยวิจัยของสถาบันฯ ระบุว่า การพัฒนาเทคนิคเพาะพันธุ์ปลาทะเลมักเริ่มต้นจากปลาการ์ตูน อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยพบว่าลูกปลาบู่ทรายลายขาวไม่กินโรติเฟอร์ ซึ่งเป็นอาหารหลักของลูกปลาการ์ตูน แต่สามารถเลี้ยงรอดด้วยเซลล์ขนพริ้วขนาดเล็ก 40-60 ไมโครเมตร และตัวอ่อนหอยนางรมในระยะ trochophore นอกจากนี้ ยังได้ปรับสภาพน้ำให้ใกล้เคียงกับถิ่นที่อยู่อาศัย ส่งผลให้การเพาะพันธุ์ประสบความสำเร็จ
   อย่างไรก็ตาม บริษัท Biota ซึ่งเป็นผู้เพาะพันธุ์ปลาสวยงามระดับโลก ได้พัฒนาเทคนิคเพาะพันธุ์ปลาบู่ 3 ชนิด รวมถึงปลาบู่ทรายลายขาว ตั้งแต่ปี 2023 แต่เทคนิคของบริษัทนี้เป็นความลับทางการค้า ในขณะที่สถาบันวิจัยฯ ของไต้หวันได้เผยแพร่ข้อมูลการเพาะพันธุ์อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกของโลก
   ปัจจุบัน ตลาดปลาบู่ทรายลายขาวยังคงพึ่งพาการจับจากธรรมชาติ ซึ่งมักส่งผลให้ปลาตายระหว่างขนส่งเป็นจำนวนมาก และไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในตู้ปลาได้ดี ผู้เลี้ยงต้องพึ่งพาการให้อาหารตามธรรมชาติ เช่น สาหร่ายก้นตู้ เมื่อน้ำหมดสารอาหาร ปลาจะค่อยๆ อ่อนแอและตายลง นอกจากนี้ มีเพียงส่วนน้อยที่สามารถฝึกให้กินอาหารเม็ดได้ และมักมีราคาสูงกว่า

   ส่วนลูกปลาบู่ที่เพาะเลี้ยงโดยสถาบันฯ สามารถกินอาหารเม็ดได้ภายใน 35-40 วันหลังฟัก ซึ่งทำให้สามารถเลี้ยงในตู้ปลาที่บ้านได้ง่ายขึ้น ในอนาคต สถาบันฯ มีแผนถ่ายทอดเทคโนโลยีนี้ให้แก่ผู้ประกอบการในประเทศ ซึ่งราคาปลาบู่ทรายลายขาวในตลาดยุโรปและอเมริกาอยู่ที่ตัวละ 30-38 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 980-1,245 เหรียญไต้หวัน) ส่วนในไต้หวันมีราคาประมาณ 150-200 เหรียญไต้หวัน/ตัว คุณชิวเพ่ยเซิ่ง บอกว่า ความแตกต่างของราคาเกิดจากต้นทุนการขนส่งและการค้าหลายชั้น อย่างไรก็ตาม หากพัฒนาอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสำเร็จ ราคาปลาที่ได้จากการเพาะพันธุ์จะมีเสถียรภาพและสามารถแข่งขันได้มากขึ้น

 

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ที่นี่ไต้หวันBy รจรัตน์ ยนต์สุวรรณ, Rti