
Sign up to save your podcasts
Or
เมลอนออโรรา หรือภาษาจีนเรียกว่า ข่ามี่ลา卡蜜拉(Aurora) เป็นเมลอนมีชื่อของเมืองเจียอี้ จึงตั้งชื่อเมลอนพันธุ์นี้ว่า “แสงออโรราแห่งเจียอี้” มีรสชาติ หวาน กรอบ อร่อย และยังเป็นเมลอนสายพันธุ์ใหม่ที่พัฒนาและเปิดตัวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นสายพันธุ์ที่มีการวางแผนและร่วมมือกันระหว่างเทศบาลเมืองเจียอี้ เกษตรกร สมาคมเกษตรกร และบริษัทเพาะต้นกล้าโหนงหยิ่ว โดยใช้เวลาทดลองและพัฒนาพันธุ์นานถึง 10 ปีจึงประสบความสำเร็จ และเริ่มทดลองปลูกโดยเกษตรกรเมืองเจียอี้ในปี 2019
เมลอนของฟาร์ม Plant Seasons
ปัจจุบัน มีฟาร์มปลูกเมลอนชื่อโรงเรือน Plant Seasons นำเทคนิคการเพาะปลูกแบบอัจฉริยะมาใช้บริหารจัดการ เมลอนที่ปลูกได้มีคุณภาพดี จนได้รับเลือกให้เป็นผลไม้รับแขกในงานเลี้ยงรับรองประธานาธิบดีสมัยที่ 16 (วันที่ 20 พฤษภาคม) เลี่ยวซั่งหลี่ (廖尚禮) เจ้าของฟาร์มบอกด้วยความเขินอายว่า ตั้งแต่ปี 2019 ตนได้เดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อทำการเกษตรเนื่องจากมีเป้าหมายคือต้องการดูแลคุณพ่อคุณแม่ที่แก่ชรา จึงได้ใช้ความเชี่ยวชาญด้านการทำงานอัตโนมัติในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาผนวกเข้ากับงานเกษตร เพื่อบรรลุความฝันในการเป็นเกษตรกรด้วยการปลูกผลไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง ซึ่งก็คือการปลูกเมลอนออโรรา นั่นเอง การที่เมลอนของเขาได้รับเลือกใช้เป็นผลไม้ต้อนรับในงานเลี้ยงรับรองประธานาธิบดี ที่ 4 ปีมีแค่ครั้งเดียว ถือเป็นการได้รับการยอมรับและเป็นขวัญกำลังใจสำหรับเกษตรกร
เมลอนของฟาร์ม Plant Seasons
เลี่ยวซั่งหลี่ บอกว่า เมลอนออโรรามีเอกลักษณ์คือเมื่อสุกแล้วไม่ปริแตกง่าย ขอเพียงระบบรากมีความชื้นเพียงพอ ความหวานก็จะเพิ่มขึ้น เขายังได้เปรียบเมลอนที่เขาปลูกว่าคล้ายลูกสาลีที่มีความหวานกรอบฉ่ำ โดยมีความหวานสูงสุดอยู่ที่ 18 หรือ 19 บริกซ์ อย่างไรก็ตาม แม้รูปลักษณ์ภายนอกของเมลอนเป็นรูปทรงรีไม่เหมือนเมลอนสายพันธุ์อื่นที่เป็นทรงกลมก็ตาม แต่ก็มีความน่ารักอีกแบบ หากได้ลิ้มลอง เพียงแค่กัดกินสักคำก็จะรู้สึกว่ามีความชุ่มฉ่ำชื่นใจ เขายังพูดด้วยว่า การปลูกเมลอนออโรราจำเป็นต้องปลูกในเรือน เพื่อให้ต้นเมลอนได้รับสารอาหารเพียงพอ จะเหลือผลละต้นเท่านั้น นอกจากนี้ การปลูกในโรงเรือนจะช่วยป้องกันศัตรูพืชและสภาพอากาศที่แปรปรวนรุนแรง อีกทั้งยังเอื้อต่อการผสมเกสรของผึ้งอีกด้วย
เมลอนออโรราปลูกในโรงเรือน
ฟาร์มโรงเรือน Four Seasons ที่ปลูกเมลอนมีพื้นที่รวม 823 ผิง(2715.9 ตร.ม.) มีการใช้ระบบอัจฉริยะในการดูแล คุณเลี่ยวซั่งหลี่เป็นผู้ออกแบบเอง ไม่ว่าจะเป็นระบบชลประทานแบบหยดน้ำ การกำบังแดด การใช้พัดลมแรงดันลบที่มีระบบหมุนเวียน มีการใช้เครื่องแปลงความถี่ไฟฟ้าเพื่อดูดน้ำใต้ดินตามความต้องการใช้น้ำ โดยเขาอยู่ที่เมืองไถหนาน ฟาร์มอยู่ที่เมืองเจียอี้ ก็ยังสามารถสั่งงานด้วยโทรศัพท์มือถือของเขาได้ตลอดเวลา เขายังบอกด้วยว่า ไต้หวันตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้นมีสภาพภูมิศาสตร์และภูมิอากาศที่เป็นเอกลักษณ์ เขายกตัวอย่างประสบการณ์การทำงานในจีนแผ่นดินใหญ่มาหลายปีว่า พืชพันธุ์ชนิดเดียวกันหากปลูกในไต้หวันใน 1 ปีสามารถปลูกได้ 3 ฤดู แต่ถ้าปลูกที่จีนแผ่นดินใหญ่ อาจปลูกได้แค่ฤดูเดียวต่อปี เนื่องจากอากาศต่างกัน เพราะที่จีนแผ่นดินใหญ่ในช่วงหน้าร้อนอาจมีอุณหภูมิอาจสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส พอถึงหน้าหนาวอาจมีหิมะตก เป็นต้น
เมลอนออโรราปลูกในโรงเรือน
เมลอนออโรรา หรือภาษาจีนเรียกว่า ข่ามี่ลา卡蜜拉(Aurora) เป็นเมลอนมีชื่อของเมืองเจียอี้ จึงตั้งชื่อเมลอนพันธุ์นี้ว่า “แสงออโรราแห่งเจียอี้” มีรสชาติ หวาน กรอบ อร่อย และยังเป็นเมลอนสายพันธุ์ใหม่ที่พัฒนาและเปิดตัวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นสายพันธุ์ที่มีการวางแผนและร่วมมือกันระหว่างเทศบาลเมืองเจียอี้ เกษตรกร สมาคมเกษตรกร และบริษัทเพาะต้นกล้าโหนงหยิ่ว โดยใช้เวลาทดลองและพัฒนาพันธุ์นานถึง 10 ปีจึงประสบความสำเร็จ และเริ่มทดลองปลูกโดยเกษตรกรเมืองเจียอี้ในปี 2019
เมลอนของฟาร์ม Plant Seasons
ปัจจุบัน มีฟาร์มปลูกเมลอนชื่อโรงเรือน Plant Seasons นำเทคนิคการเพาะปลูกแบบอัจฉริยะมาใช้บริหารจัดการ เมลอนที่ปลูกได้มีคุณภาพดี จนได้รับเลือกให้เป็นผลไม้รับแขกในงานเลี้ยงรับรองประธานาธิบดีสมัยที่ 16 (วันที่ 20 พฤษภาคม) เลี่ยวซั่งหลี่ (廖尚禮) เจ้าของฟาร์มบอกด้วยความเขินอายว่า ตั้งแต่ปี 2019 ตนได้เดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อทำการเกษตรเนื่องจากมีเป้าหมายคือต้องการดูแลคุณพ่อคุณแม่ที่แก่ชรา จึงได้ใช้ความเชี่ยวชาญด้านการทำงานอัตโนมัติในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาผนวกเข้ากับงานเกษตร เพื่อบรรลุความฝันในการเป็นเกษตรกรด้วยการปลูกผลไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง ซึ่งก็คือการปลูกเมลอนออโรรา นั่นเอง การที่เมลอนของเขาได้รับเลือกใช้เป็นผลไม้ต้อนรับในงานเลี้ยงรับรองประธานาธิบดี ที่ 4 ปีมีแค่ครั้งเดียว ถือเป็นการได้รับการยอมรับและเป็นขวัญกำลังใจสำหรับเกษตรกร
เมลอนของฟาร์ม Plant Seasons
เลี่ยวซั่งหลี่ บอกว่า เมลอนออโรรามีเอกลักษณ์คือเมื่อสุกแล้วไม่ปริแตกง่าย ขอเพียงระบบรากมีความชื้นเพียงพอ ความหวานก็จะเพิ่มขึ้น เขายังได้เปรียบเมลอนที่เขาปลูกว่าคล้ายลูกสาลีที่มีความหวานกรอบฉ่ำ โดยมีความหวานสูงสุดอยู่ที่ 18 หรือ 19 บริกซ์ อย่างไรก็ตาม แม้รูปลักษณ์ภายนอกของเมลอนเป็นรูปทรงรีไม่เหมือนเมลอนสายพันธุ์อื่นที่เป็นทรงกลมก็ตาม แต่ก็มีความน่ารักอีกแบบ หากได้ลิ้มลอง เพียงแค่กัดกินสักคำก็จะรู้สึกว่ามีความชุ่มฉ่ำชื่นใจ เขายังพูดด้วยว่า การปลูกเมลอนออโรราจำเป็นต้องปลูกในเรือน เพื่อให้ต้นเมลอนได้รับสารอาหารเพียงพอ จะเหลือผลละต้นเท่านั้น นอกจากนี้ การปลูกในโรงเรือนจะช่วยป้องกันศัตรูพืชและสภาพอากาศที่แปรปรวนรุนแรง อีกทั้งยังเอื้อต่อการผสมเกสรของผึ้งอีกด้วย
เมลอนออโรราปลูกในโรงเรือน
ฟาร์มโรงเรือน Four Seasons ที่ปลูกเมลอนมีพื้นที่รวม 823 ผิง(2715.9 ตร.ม.) มีการใช้ระบบอัจฉริยะในการดูแล คุณเลี่ยวซั่งหลี่เป็นผู้ออกแบบเอง ไม่ว่าจะเป็นระบบชลประทานแบบหยดน้ำ การกำบังแดด การใช้พัดลมแรงดันลบที่มีระบบหมุนเวียน มีการใช้เครื่องแปลงความถี่ไฟฟ้าเพื่อดูดน้ำใต้ดินตามความต้องการใช้น้ำ โดยเขาอยู่ที่เมืองไถหนาน ฟาร์มอยู่ที่เมืองเจียอี้ ก็ยังสามารถสั่งงานด้วยโทรศัพท์มือถือของเขาได้ตลอดเวลา เขายังบอกด้วยว่า ไต้หวันตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้นมีสภาพภูมิศาสตร์และภูมิอากาศที่เป็นเอกลักษณ์ เขายกตัวอย่างประสบการณ์การทำงานในจีนแผ่นดินใหญ่มาหลายปีว่า พืชพันธุ์ชนิดเดียวกันหากปลูกในไต้หวันใน 1 ปีสามารถปลูกได้ 3 ฤดู แต่ถ้าปลูกที่จีนแผ่นดินใหญ่ อาจปลูกได้แค่ฤดูเดียวต่อปี เนื่องจากอากาศต่างกัน เพราะที่จีนแผ่นดินใหญ่ในช่วงหน้าร้อนอาจมีอุณหภูมิอาจสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส พอถึงหน้าหนาวอาจมีหิมะตก เป็นต้น
เมลอนออโรราปลูกในโรงเรือน