
Sign up to save your podcasts
Or
พริกหวานมีสีสดใสใช้ทำผักสลัดหรือนำมาผัดก็อร่อย เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค พริกหวานมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง ความต้องการพริกหวานในไต้หวันเพิ่มขึ้นทุกปี พื้นที่เพาะปลูกก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยในปี 2022 มีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 1,242 เฮกตาร์ ส่วนใหญ่ปลูกที่ตำบลซิ่นอี้ ตำบลเหรินอ้าย เมืองหนานโถว, ตำบลซินกั่ง เมืองเจียอี้ และตำบลชื่อโถง เมืองหยุนหลิน แม้ว่าความต้องการบริโภคพริกหวานในไต้หวันมีมาก แต่ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่นำเข้าจากประเทศในยุโรปและอเมริกา จึงปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศของไต้หวันได้ยาก มีศักยภาพในการเติบโตต่ำ และเสี่ยงต่อโรคและแมลงศัตรูพืชหลายชนิด เกษตรกรต้องใช้ยาฆ่าแมลงจำนวนมาก
สถานีวิจัยและส่งเสริมการเกษตรเขตไทจงเปิดตัวพริกหวาน 2 สายพันธุ์
ดังนั้น สถานีวิจัยและส่งเสริมการเกษตรเขตไทจง(Taichung District Agricultural Research and Extension Station) ได้ร่วมกับศูนย์พืชผักโลก(The World Vegetable Center) ใช้เวลา 6 ปีในการวิจัยพัฒนาพริกหวาน ได้พันธุ์สีแดง “ไทจงหย่าซู เบอร์ 1" และพันธุ์สีเหลือง ไทจงหย่าซู เบอร์ 2 โดยพริกหวานทั้งสองชนิดล้วนมีรูปลักษณ์สวย มีน้ำหนักและขนาดปานกลาง สีสันสดใส เนื้อหนา หวานและกรอบ ความหวาน 6-7 บริกซ์ ผลเรียบและเป็นมันเงา ให้ผลผลิตสูง และทนทานต่อโรคต่างๆ เช่น ไวรัสมันฝรั่ง Y และไวรัสรอยดำของพริกไทย ทำให้เกษตรกรเพาะปลูกได้ง่ายขึ้น
พริกหวาน ไทจงหย่าซู เบอร์ 1 เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดง
ทั้งนี้ คนไต้หวันส่วนใหญ่ชอบพริกหวานสีแดงและสีเหลืองที่มีผิวมันวาว น้ำหนักต่อผล 150 - 250 กรัม รูปทรงระฆัง อ้วนกลม ไม่ชอบรูปทรงหัวโตท้ายลีบเรียวหรือบิดเบี้ยว ซึ่งการปลูกพริกหวานในไต้หวันเริ่มจากฤดูร้อนจนถึงก่อนเดือนธันวาคมส่วนใหญ่ปลูกในเขตภูเขาทางภาคกลาง และหลังจากฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวแล้วส่วนใหญ่ปลูกในพื้นที่ราบภาคกลางของเมืองเจียอี้ และเมืองหยุนหลิน ดังนั้นสถานีวิจัยและส่งเสริมการเกษตรไทจงจึงร่วมมือกับเกษตรกรในเขตภูเขาของตำบลซิ่นอี้ เมืองหนานโถวปลูกในช่วงฤดูร้อน ส่วนในช่วงฤดูหนาวก็นำไปปลูกที่ตำบลชื่อโถง เมืองหยุนหลิน ตำบลซินกั่ง เมืองเจียอี้ เพื่อยืนยันว่าพริกหวานทั้ง 2 พันธุ์ที่พัฒนาได้เติบโตได้ดีในพื้นที่ต่างกัน
พริกหวาน ไทจงหย่าซู เบอร์ 2 เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
สำหรับพริกหวานทั้ง 2 พันธุ์ขณะนี้ได้จดสิทธิ์ของสายพันธุ์แล้ว และจะถ่ายโอนสิทธิ์ให้กับผู้ประกอบการต้นกล้า และคาดว่าจะนำไปให้เกษตรกรปลูกภายในปีนี้ หยางหงอิง(楊宏瑛 ) ผู้อำนวยการสถานีวิจัยและส่งเสริมการเกษตรเขตไทจง กล่าวว่าทางสถานีวิจัยฯได้จัดตั้งเทคโนโลยี IPM สำหรับการปลูกพริกหวานด้วย ซึ่ง IPM คือ การใช้วิธีการป้องกันกำจัดศัตรูพืชแบบผสมผสาน ให้เกษตรกรใช้เครื่องมือวัดอุณหภูมิ ความชื้น ปริมาณน้ำฝน ฯลฯ เพื่อพยากรณ์การระบาดของศัตรูพืช รวมถึงจัดทำแปลงสำรวจเตือนภัยการระบาดของศัตรูพืชก่อนดำเนินการป้องกันกำจัด และแนะนำเกษตรกรใช้มะนาวกำมะถัน กรดฟอสฟอรัส และวัสดุอื่นๆ เพื่อควบคุมโรคพริกหวานและแมลงศัตรูพืช วัตถุประสงค์เพื่อผลิตพริกหวานที่มีคุณภาพดีขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ผลิตและผู้ขาย
พริกหวานทำได้หลายเมนู ในภาพเป็นพริกหวานกราแต็ง
ในอนาคตทางสถานีวิจัยและส่งเสริมการเกษตรยังคงศึกษาการเพาะพันธุ์พริกหวานต่อไป ยกตัวอย่าง พริกหวานสีเขียว สีม่วง และสีอื่นๆ หรือพริกหวานที่มีรูปร่างแคบและยาว เพื่อมีตัวเลือกพันธุ์พริกหวานของไต้หวันมากขึ้น นอกจากนี้ ในอนาคตยังคงร่วมมือกับศูนย์พืชผักโลก(The World Vegetable Center)คัดพันธุ์มะเขือเทศหรือผักชนิดอื่นๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรชาวไต้หวัน จะได้มีผักและผลไม้คุณภาพสูงมากขึ้น
พริกหวานมีสีสดใสใช้ทำผักสลัดหรือนำมาผัดก็อร่อย เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค พริกหวานมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง ความต้องการพริกหวานในไต้หวันเพิ่มขึ้นทุกปี พื้นที่เพาะปลูกก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยในปี 2022 มีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 1,242 เฮกตาร์ ส่วนใหญ่ปลูกที่ตำบลซิ่นอี้ ตำบลเหรินอ้าย เมืองหนานโถว, ตำบลซินกั่ง เมืองเจียอี้ และตำบลชื่อโถง เมืองหยุนหลิน แม้ว่าความต้องการบริโภคพริกหวานในไต้หวันมีมาก แต่ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่นำเข้าจากประเทศในยุโรปและอเมริกา จึงปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศของไต้หวันได้ยาก มีศักยภาพในการเติบโตต่ำ และเสี่ยงต่อโรคและแมลงศัตรูพืชหลายชนิด เกษตรกรต้องใช้ยาฆ่าแมลงจำนวนมาก
สถานีวิจัยและส่งเสริมการเกษตรเขตไทจงเปิดตัวพริกหวาน 2 สายพันธุ์
ดังนั้น สถานีวิจัยและส่งเสริมการเกษตรเขตไทจง(Taichung District Agricultural Research and Extension Station) ได้ร่วมกับศูนย์พืชผักโลก(The World Vegetable Center) ใช้เวลา 6 ปีในการวิจัยพัฒนาพริกหวาน ได้พันธุ์สีแดง “ไทจงหย่าซู เบอร์ 1" และพันธุ์สีเหลือง ไทจงหย่าซู เบอร์ 2 โดยพริกหวานทั้งสองชนิดล้วนมีรูปลักษณ์สวย มีน้ำหนักและขนาดปานกลาง สีสันสดใส เนื้อหนา หวานและกรอบ ความหวาน 6-7 บริกซ์ ผลเรียบและเป็นมันเงา ให้ผลผลิตสูง และทนทานต่อโรคต่างๆ เช่น ไวรัสมันฝรั่ง Y และไวรัสรอยดำของพริกไทย ทำให้เกษตรกรเพาะปลูกได้ง่ายขึ้น
พริกหวาน ไทจงหย่าซู เบอร์ 1 เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดง
ทั้งนี้ คนไต้หวันส่วนใหญ่ชอบพริกหวานสีแดงและสีเหลืองที่มีผิวมันวาว น้ำหนักต่อผล 150 - 250 กรัม รูปทรงระฆัง อ้วนกลม ไม่ชอบรูปทรงหัวโตท้ายลีบเรียวหรือบิดเบี้ยว ซึ่งการปลูกพริกหวานในไต้หวันเริ่มจากฤดูร้อนจนถึงก่อนเดือนธันวาคมส่วนใหญ่ปลูกในเขตภูเขาทางภาคกลาง และหลังจากฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวแล้วส่วนใหญ่ปลูกในพื้นที่ราบภาคกลางของเมืองเจียอี้ และเมืองหยุนหลิน ดังนั้นสถานีวิจัยและส่งเสริมการเกษตรไทจงจึงร่วมมือกับเกษตรกรในเขตภูเขาของตำบลซิ่นอี้ เมืองหนานโถวปลูกในช่วงฤดูร้อน ส่วนในช่วงฤดูหนาวก็นำไปปลูกที่ตำบลชื่อโถง เมืองหยุนหลิน ตำบลซินกั่ง เมืองเจียอี้ เพื่อยืนยันว่าพริกหวานทั้ง 2 พันธุ์ที่พัฒนาได้เติบโตได้ดีในพื้นที่ต่างกัน
พริกหวาน ไทจงหย่าซู เบอร์ 2 เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
สำหรับพริกหวานทั้ง 2 พันธุ์ขณะนี้ได้จดสิทธิ์ของสายพันธุ์แล้ว และจะถ่ายโอนสิทธิ์ให้กับผู้ประกอบการต้นกล้า และคาดว่าจะนำไปให้เกษตรกรปลูกภายในปีนี้ หยางหงอิง(楊宏瑛 ) ผู้อำนวยการสถานีวิจัยและส่งเสริมการเกษตรเขตไทจง กล่าวว่าทางสถานีวิจัยฯได้จัดตั้งเทคโนโลยี IPM สำหรับการปลูกพริกหวานด้วย ซึ่ง IPM คือ การใช้วิธีการป้องกันกำจัดศัตรูพืชแบบผสมผสาน ให้เกษตรกรใช้เครื่องมือวัดอุณหภูมิ ความชื้น ปริมาณน้ำฝน ฯลฯ เพื่อพยากรณ์การระบาดของศัตรูพืช รวมถึงจัดทำแปลงสำรวจเตือนภัยการระบาดของศัตรูพืชก่อนดำเนินการป้องกันกำจัด และแนะนำเกษตรกรใช้มะนาวกำมะถัน กรดฟอสฟอรัส และวัสดุอื่นๆ เพื่อควบคุมโรคพริกหวานและแมลงศัตรูพืช วัตถุประสงค์เพื่อผลิตพริกหวานที่มีคุณภาพดีขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ผลิตและผู้ขาย
พริกหวานทำได้หลายเมนู ในภาพเป็นพริกหวานกราแต็ง
ในอนาคตทางสถานีวิจัยและส่งเสริมการเกษตรยังคงศึกษาการเพาะพันธุ์พริกหวานต่อไป ยกตัวอย่าง พริกหวานสีเขียว สีม่วง และสีอื่นๆ หรือพริกหวานที่มีรูปร่างแคบและยาว เพื่อมีตัวเลือกพันธุ์พริกหวานของไต้หวันมากขึ้น นอกจากนี้ ในอนาคตยังคงร่วมมือกับศูนย์พืชผักโลก(The World Vegetable Center)คัดพันธุ์มะเขือเทศหรือผักชนิดอื่นๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรชาวไต้หวัน จะได้มีผักและผลไม้คุณภาพสูงมากขึ้น