
Sign up to save your podcasts
Or
แม้การเพาะถั่วงอกขายไม่สร้างรายได้มากมาย แต่ยังคงยืนหยัดเพาะถั่วเหลืองงอกที่ใช้ถั่วเหลืองที่ปลูกในประเทศ ซึ่งนี่คือความคิดเห็นของคุณหงเจิ้งซิน(洪正欣) ทายาทเพาะถั่วงอกในครอบครัวรุ่นที่ 3 โดยเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อสานต่อธุรกิจครอบครัวที่ดำเนินมากว่า 70 ปี ไม่ลังเลที่จะขายบ้านเพื่อกู้เงินมาสร้างโรงงาน และสร้างมาตรฐาน กระบวนการผลิตอัตโนมัติ เพื่อผลิตถั่วงอกที่สะอาด ถูกสุขอนามัย มีความโปร่งใส ขณะเดียวกัน หันมาใช้การกะเทาะเปลือกถั่วงอกแบบแห้ง และใช้ถั่วออร์แกนิกในการเพาะ ซึ่งขณะนี้ซูเปอร์มาร์เก็ตฉวนเหลียน(PX Mart) เหม่ยเหลียนเซ่อ(Simple Mart) หวังผิ่นกรุ๊ป(Wowprime Corp.) และผู้ประกอบการอาหารที่ผลิตอาหารให้กับโรงเรียนล้วนเป็นลูกค้าของเขา นอกจากนี้ เขาคาดหวังที่จะช่วยเหลือบ้านเกิดด้วยการจัดตั้งสหกรณ์เพื่อช่วยระบายข้าวโพดอ่อน ถั่วลิสง หรืออื่นๆ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรดีเด่นของตำบลเป๋ยกั่ง เมืองหยุนหลินด้วย
คุณหงเจิ้งซิน สร้างโรงงานเพาะถั่วงอกที่ใช้ระบบอัตโนม้ติ
ทั้งนี้ ในอดีตหมู่บ้านโข่วจวง ตำบลเป๋ยกั่งมีผู้เพาะถั่วงอกกว่า 100 ครัวเรือน และเกือบทั้งหมู่บ้านล้วนเพาะและขายถั่วงอกเลี้ยงชีพ ครอบครัวของคุณหงเจิ้งซินก็เช่นกัน ปลูกถั่วเขียวและพาะถั่วงอกขายตั้งแต่รุ่นคุณปู่ จากนั้นบรรทุกถั่วงอกด้วยจักรยาน ปั่นไปขายที่หมู่บ้านข้างเคียง แต่หลังจากคุณพ่อรับกิจการต่อ ได้เปลี่ยนวิธีการขายด้วยการเช่าแผงในตลาดค้าส่งเป๋ยกั่ง อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ ที่เป็นลูกหลานเพาะถั่วงอกรุ่นที่ 3 ล้วนไม่อยากรับช่วงกิจการที่บ้าน เพราะว่าถั่วงอกต้องใช้แรงงานเยอะ ผลิตเอง ขายเอง ตลอดทั้งปีได้หยุดพักเฉพาะวันแรกของวันตรุษจีนเท่านั้น นอกจากนี้ การเพาะถั่วงอกไม่ต้องการแสงสว่าง ส่วนใหญ่ต้องทำงานตอนกลางคืน และไซเคิลการเจริญเติบโตของถั่วงอกสั้น ทำให้เกิดแรงกดดัน
ถั่วงอกบรรจุถุงส่งขายซูเปอร์มาร์เก็ต
คนไต้หวันชอบบริโภคถั่วงอก ประมาณ 90% เพาะจากถั่วเขียว 5% เพาะจากถั่วเหลือง ที่เหลือเพาะจากถั่วดำ ข้าวบาร์เลย์ บัควีท ถั่วลิสง เป็นต้น และส่วนใหญ่ชอบบริโภคถั่วงอกขาวและอวบ แต่หารู้ไม่ว่าถั่วงอกแบบนี้อาจมีปัญหาด้านความปลอดภัย เพราะที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการร่วมกับรัฐบาลเมืองหยุนหลินเคยตรวจพบถั่วงอกแช่สารฟอกขาว และยังเคยตรวจพบเชื้ออีโคไล ด้วย ดังนั้น คุณหงเจิ้งซิน จึงต้องการยกระดับคุณภาพการเพาะถั่วงอก เช่น หันมาใช้ถั่วออร์แกนิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน สร้างแบรนด์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค สร้างโรงงานเพาะถั่วงอกที่ได้รับการรับรอง HACCP, ISO22000 กะเทาะเปลือกถั่วแบบแห้งด้วยแรงสั่นสะเทือนเพื่อแยกถั่วงอกและเปลือกถั่วออกจากกัน ติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รดน้ำอัตโนมัติ ตรวจสอบอุณหภูมิและความชื้น ระบบจะแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีความผิดปกติ และคนเพาะถั่วงอกก็ไม่ต้องอดหลับอดนอนทั้งคืน
เพาะถั่วงอกหัวโตที่ใช้ถั่วที่ปลูกในประเทศ
ตั้งแต่ปี 2021 คุณหงเจิ้งซินเริ่มเพาะถั่วงอกหัวโตจากถั่วเหลืองที่ปลูกในประเทศ และยังมีถั่วงอกถั่วดำด้วย มีการทำพันธสัญญากับเกษตรกรเพื่อซื้อถั่วเหลืองในราคาสูงกว่าถั่วเหลืองนำเข้า นอกจากเป็นการช่วยเหลือเกษตรในประเทศ กระตุ้นให้คนรุ่นใหม่กลับบ้านเกิดทำการเกษตรแล้ว ข้อดีของถั่วเหลืองที่ปลูกในประเทศยังมีความสดใหม่กว่า อัตราการงอกดีกว่าถั่วเหลืองนำเข้าด้วย
ถั่วงอกดำเพาะ
แม้การเพาะถั่วงอกขายไม่สร้างรายได้มากมาย แต่ยังคงยืนหยัดเพาะถั่วเหลืองงอกที่ใช้ถั่วเหลืองที่ปลูกในประเทศ ซึ่งนี่คือความคิดเห็นของคุณหงเจิ้งซิน(洪正欣) ทายาทเพาะถั่วงอกในครอบครัวรุ่นที่ 3 โดยเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อสานต่อธุรกิจครอบครัวที่ดำเนินมากว่า 70 ปี ไม่ลังเลที่จะขายบ้านเพื่อกู้เงินมาสร้างโรงงาน และสร้างมาตรฐาน กระบวนการผลิตอัตโนมัติ เพื่อผลิตถั่วงอกที่สะอาด ถูกสุขอนามัย มีความโปร่งใส ขณะเดียวกัน หันมาใช้การกะเทาะเปลือกถั่วงอกแบบแห้ง และใช้ถั่วออร์แกนิกในการเพาะ ซึ่งขณะนี้ซูเปอร์มาร์เก็ตฉวนเหลียน(PX Mart) เหม่ยเหลียนเซ่อ(Simple Mart) หวังผิ่นกรุ๊ป(Wowprime Corp.) และผู้ประกอบการอาหารที่ผลิตอาหารให้กับโรงเรียนล้วนเป็นลูกค้าของเขา นอกจากนี้ เขาคาดหวังที่จะช่วยเหลือบ้านเกิดด้วยการจัดตั้งสหกรณ์เพื่อช่วยระบายข้าวโพดอ่อน ถั่วลิสง หรืออื่นๆ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรดีเด่นของตำบลเป๋ยกั่ง เมืองหยุนหลินด้วย
คุณหงเจิ้งซิน สร้างโรงงานเพาะถั่วงอกที่ใช้ระบบอัตโนม้ติ
ทั้งนี้ ในอดีตหมู่บ้านโข่วจวง ตำบลเป๋ยกั่งมีผู้เพาะถั่วงอกกว่า 100 ครัวเรือน และเกือบทั้งหมู่บ้านล้วนเพาะและขายถั่วงอกเลี้ยงชีพ ครอบครัวของคุณหงเจิ้งซินก็เช่นกัน ปลูกถั่วเขียวและพาะถั่วงอกขายตั้งแต่รุ่นคุณปู่ จากนั้นบรรทุกถั่วงอกด้วยจักรยาน ปั่นไปขายที่หมู่บ้านข้างเคียง แต่หลังจากคุณพ่อรับกิจการต่อ ได้เปลี่ยนวิธีการขายด้วยการเช่าแผงในตลาดค้าส่งเป๋ยกั่ง อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ ที่เป็นลูกหลานเพาะถั่วงอกรุ่นที่ 3 ล้วนไม่อยากรับช่วงกิจการที่บ้าน เพราะว่าถั่วงอกต้องใช้แรงงานเยอะ ผลิตเอง ขายเอง ตลอดทั้งปีได้หยุดพักเฉพาะวันแรกของวันตรุษจีนเท่านั้น นอกจากนี้ การเพาะถั่วงอกไม่ต้องการแสงสว่าง ส่วนใหญ่ต้องทำงานตอนกลางคืน และไซเคิลการเจริญเติบโตของถั่วงอกสั้น ทำให้เกิดแรงกดดัน
ถั่วงอกบรรจุถุงส่งขายซูเปอร์มาร์เก็ต
คนไต้หวันชอบบริโภคถั่วงอก ประมาณ 90% เพาะจากถั่วเขียว 5% เพาะจากถั่วเหลือง ที่เหลือเพาะจากถั่วดำ ข้าวบาร์เลย์ บัควีท ถั่วลิสง เป็นต้น และส่วนใหญ่ชอบบริโภคถั่วงอกขาวและอวบ แต่หารู้ไม่ว่าถั่วงอกแบบนี้อาจมีปัญหาด้านความปลอดภัย เพราะที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการร่วมกับรัฐบาลเมืองหยุนหลินเคยตรวจพบถั่วงอกแช่สารฟอกขาว และยังเคยตรวจพบเชื้ออีโคไล ด้วย ดังนั้น คุณหงเจิ้งซิน จึงต้องการยกระดับคุณภาพการเพาะถั่วงอก เช่น หันมาใช้ถั่วออร์แกนิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน สร้างแบรนด์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค สร้างโรงงานเพาะถั่วงอกที่ได้รับการรับรอง HACCP, ISO22000 กะเทาะเปลือกถั่วแบบแห้งด้วยแรงสั่นสะเทือนเพื่อแยกถั่วงอกและเปลือกถั่วออกจากกัน ติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รดน้ำอัตโนมัติ ตรวจสอบอุณหภูมิและความชื้น ระบบจะแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีความผิดปกติ และคนเพาะถั่วงอกก็ไม่ต้องอดหลับอดนอนทั้งคืน
เพาะถั่วงอกหัวโตที่ใช้ถั่วที่ปลูกในประเทศ
ตั้งแต่ปี 2021 คุณหงเจิ้งซินเริ่มเพาะถั่วงอกหัวโตจากถั่วเหลืองที่ปลูกในประเทศ และยังมีถั่วงอกถั่วดำด้วย มีการทำพันธสัญญากับเกษตรกรเพื่อซื้อถั่วเหลืองในราคาสูงกว่าถั่วเหลืองนำเข้า นอกจากเป็นการช่วยเหลือเกษตรในประเทศ กระตุ้นให้คนรุ่นใหม่กลับบ้านเกิดทำการเกษตรแล้ว ข้อดีของถั่วเหลืองที่ปลูกในประเทศยังมีความสดใหม่กว่า อัตราการงอกดีกว่าถั่วเหลืองนำเข้าด้วย
ถั่วงอกดำเพาะ