
Sign up to save your podcasts
Or
พนักงานขับรถบรรทุกขนส่งผักจากเมืองหยุนหลินแหล่งเพาะปลูกผักใหญ่ที่สุดสู่ตลาดบริโภคใหญ่ที่สุดทางภาคเหนือ
วันนี้มีบทความที่น่าสนใจอีกอาชีพหนึ่งคือการขับรถบรรทุกขนส่งผักจากแหล่งปลูกไปยังตลาดค้าส่งมาเล่าสู่กันฟัง หลังจากที่ได้นำบทความประทับใจเกี่ยวกับกลุ่มแม่บ้านที่รับจ้างตัดผักขายของเมืองหยุนหลินเพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงครอบครัวกันแล้ว ในครั้งนี้ก็ขอนำเรื่องประทับใจของผู้คนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องขับรถบรรทุกหามรุ่งหามค่ำ ต้องยกลังผักที่หนักกว่า 10 กก.ขึ้นไป ถือเป็นงานที่ลำบากไม่น้อยเช่นกัน นั่นก็คือพนักงานขับรถขนส่งผัก ทั้งนี้ แหล่งปลูกผักใหญ่ที่สุดในไต้หวันอยู่ที่เมืองหยุนหลินทางภาคกลางของไต้หวัน แต่ว่าตลาดบริโภคผักที่ใหญ่ที่สุดอยู่ทางภาคเหนือ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องอาศัยรถบรรทุกในการขนส่งจึงจะครบวงจรธุรกิจการผลิตผักจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ การได้รับประทานผักสักคำ ผักสักจาน ก็จะต้องผ่านมือผู้คนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พนักงานรับจ้างขนส่งผักที่ต้องมีความอดทน ทนสู้ หากมีโอกาสได้พบเห็นผู้คนเหล่านี้ก็อย่าลืมทักทาย กล่าวคำว่า หนีฮ่าว-สวัสดี ด้วยนะคะ
การยกลังผักขึ้นไปวางซ้อนบนรถบรรทุกต้องมีประสบการณ์และเทคนิค
ยกตัวอย่าง นายหลินจวิ้นอวี๋(林俊宇) เป็นพนักงานขับรถส่งผักของบริษัทขนส่งหวงต๋ามานาน 10 ปี(皇達貨運) ในทุกวันที่ทำงานจะต้องรับผิดชอบขนส่งผักจากสมาคมเอ้อหลุนของเมืองหยุนหลิน ไปยังตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ทางภาคเหนือ หลักๆ แล้วเขาจะรับผิดชอบขนส่งไปยังตลาดค้าส่งผักผลไม้ในกรุงไทเปทั้งตลาดว่านหัวและว่านต้า รวมทั้งตลาดค้าส่งผักผลไม้ป่านเฉียวและซานโฉงของนครนิวไทเป หรืออาจต้องช่วยขนส่งไปยังเถาหยวนและจงลี่ในยามที่จำเป็น โดยที่ผักต่างๆ จากแหล่งปลูกจะถูกรวบรวมที่ศูนย์รวมสินค้าของสมาคมเอ้อหลุนเมืองหยุนหลิน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการแบ่งสันปันส่วนว่าจะส่งไปยังตลาดค้าส่งที่ไหนบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นตลาดค้าส่งไทเปว่านต้าจำนวนมากที่สุด สำหรับการทำงานของเขาในแต่ละวันนั้น จะเริ่มงานตั้งแต่เที่ยงวันโดยขับรถบรรทุกที่รับน้ำหนัก 26 ตันจากบริษัทไปที่ตลาดรวมสินค้า การขนลังผักขึ้นรถบรรทุก จะต้องมีผู้ช่วยที่เป็นหนุ่มๆอีก 2 คน โดยทั้ง 3 คนจะต้องทำงานร่วมกัน คนหนึ่งขน คนหนึ่งส่ง คนหนึ่งซ้อนวางขึ้นบนรถบรรทุก ใช้วเลาชั่วโมงกว่าๆ ทำงานที่ซ้ำๆ กัน จึงจะเอาลังผักทั้งหมดซ้อนไว้บนรถบรรทุกขนาด 26 ตันจนเต็ม ยิ่งถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนที่อากาศร้อนอบอ้าว และยังต้องยกลังผักที่มีน้ำหนักมากกว่า 10 กก.ขึ้นไป เหงื่อไหลซิกๆ ราวอาบเหงื่อต่างน้ำ เสื้อผ้าที่สวมใส่เปียกชุ่มไปหมด แต่หนุ่มๆ ทั้ง 3 ยังคงคล่องแคล่ว ว่องไว โชร์กล้ามให้ดูได้อย่างสบายๆ นายหลินบอกว่า เป็นพนักงานคนขับรถก็ต้องช่วยยกลังผักด้วย แต่ว่าการยกลังผักขึ้นไปวางซ้อนบนรถบรรทุกก็ต้องอาศัยประสบการณ์และเทคนิคจึงจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช่ว่าออกแรงเยอะอย่างเดียวก็พอ เพราะว่าการซ้อนลังผักก็คล้ายกับการเล่นเกมบล็อคไม้ที่ต้องซ้อนให้แน่นและแข็งแรง
คนที่ช่วยยกลังขึ้นรถต้องไม่กลัวความสูง
ปัจจุบัน หลินจวี้อวี๋อายุ 30 แต่มีลูก 4 คนแล้ว ลูกคนเล็กสุดยังเรียนอนุบาล 1 เริ่มเป็นพนักงานขับรถตั้งแต่หลังเกณฑ์ทหาร ทำงานเป็นพนักงานขับรถมานานกว่า 10 ปี เขาบอกว่า งานทุกอย่างล้วนลำบาก เลือกงานที่ตนเองพอจะทำได้ก็ตั้งใจทำต่อไป ช่วงเวลา 10 ปีที่เขาขับรถส่งผักรวมๆ กันแล้ว น่าจะเท่ากับการเดินทางรอบโลก 35 รอบ เพราะว่าใน 1 ปีต้องขับรถในระยะทางประมาณ 140,000 กิโลเมตร ส่วนค่าตอบแทนหรือค่าแรงของพนักงานขับรถคิดเป็นรอบ ยิ่งขยันวิ่งรถเท่าไร ก็ยิ่งได้เงินเยอะ โดยปกติได้รอบละ 2,500 เหรียญไต้หวัน แต่ถ้ามีรถพ่วงด้วยได้รอบละ 3,500 เหรียญไต้หวัน ปกติจะวิ่งรถวันละรอบ แต่ถ้าตรงกับช่วงเทศกาล อาจต้องขับรถส่งผักถึง 2 รอบ ต้องรีบส่งให้ถึงตลาดค้าส่งก่อนตี 3 ถือเป็นงานที่ลำบากมาก แต่ก็ได้ค่าตอบแทนเกือบ 80,000 เหรียญไต้หวัน/เดือน ชินกับงานแล้ว ตอนนี้มีบ้าน มีรถ เป็นของตัวเอง บ้านอยู่ตำบลซีหลัวเมืองหยุนหลิน มีลูก 4 คน สามารถเลี้ยงครอบครัวได้สบายๆ
ตลาดค้าส่งภาคเหนือจะมีพนักงานรับจ้างยกลังผัก
รถบรรทุกผักจากเมืองหยุนหลินถึงตลาดค้าส่งผักไทเปประมาณบ่าย 4 โมงเย็น นายหลินจวิ้นอวี๋จึงใช้เวลาที่เหลือรับประทานอาหารกล่องมื้อเที่ยง เขาบอกว่าช่วงการระบาดของโควิดมีข้อดีคือ เส้นทางด่วนรถไม่ติด หลังจากที่รถจอดแล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่ 6 คนช่วยกันขนลังลงจากรถ และจะต้องตรวจสอบหมายเลขของลังผัก จำนวนชิ้น เพื่อสะดวกในการประมูลสินค้า เจ้าหน้าที่ขนถ่ายสินค้าในไทเปมีค่าแรงตั้งแต่ 1,200-1,800 เหรียญไต้หวัน/วัน ขึ้นอยู่กับความสามารถ และส่วนหนึ่งเป็นนักเรียนรับจ้างหารายได้พิเศษที่มีอายุแค่ 16 ปีก็ยังมี สำหรับการรับประทานอาหารกล่องหรือเบนโตะนั้น จะมีพ่อค้าขาประจำขี่มอร์เตอร์ไซด์นำอาหารกล่องและเครื่องดื่มแช่เย็นมาส่งถึงสถานที่ลงสินค้าซึ่งคล้ายๆกับร้านค้าเคลื่อนที่ ส่วนค่าอาหารหรือเครื่องดื่ม เถ้าแก่จะจดบัญชีและไปคิดเงินกับบริษัทขนส่ง ถือว่าสะดวกมาก ประมาณ 5 โมงเย็น เริ่มถ่ายสินค้าลงจากรถบรรทุก ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. แต่นายหลินจวิ้นอวี๋ก็ยังไม่เสร็จธุระ เพราะยังมีผักส่วนหนึ่งที่ต้องส่งไปยังตลาดค้าส่งผักแห่งอื่นตามที่บริษัทขนส่งมอบหมายหน้าที่ อย่างเช่น ส่งไปตลาดค้าป่านเฉียว ซานฉงของนครนิวไทเป โดยให้พนักงานขนถ่ายสินค้าติดรถไปช่วยลงสินค้าด้วย ขณะที่รถบรรทุกของหลินจวิ้นอวี๋มาถึงไทเป รถบรรทุกคันที่ 2 คันที่ 3 ก็ทยอยขนส่งผักจากเมืองหยุนหลินมายังภาคเหนือด้วย หลังจากที่ลงสินค้าเสร็จสิ้นทุกที่แล้ว เขาจะขับรถบรรทุกนำลังเปล่ากลับเมืองหยุนหลินจอดที่บริษัท เวลานั้นก็ปาเข้าไปประมาณตี 1 กว่าๆ แล้ว แต่เขาบอกว่า เวลาแบบนี้ถือว่าเร็วกว่าปกติ เพราะเวลาปกติจะเสร็จงานตี 3 และกลับถึงบ้านตี 4 ตี 5 รวมเวลาทำงานประมาณ 13 ชม./วัน กลับถึงบ้านพักผ่อนไม่กี่ชั่วโมง ก็ต้องเริ่มงานวันใหม่อีก ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแต่ว่าจะหาเงินเลี้ยงครอบครัว ตั้งใจทำงานเพื่อลูก และให้เด็กๆ ในเมืองได้บริโภคผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการด้วย
คนขับรถขนส่งไปยังห้างไฮเปอร์มาร์เก็ตไม่ต้องช่วยยกลังผัก
อาฟู่ พนักงานรับจ้างขับรถขนส่งผักของอีกหนึ่งบริษัทที่ทำงานเช่นเดียวกับหลินจวิ้นอวี๋ งานของอาฟู่สบายกว่า แต่ต้องใช้แรงกายมากกว่า จะต้องขนส่งผักจากเมืองหยุนหลินไปยังห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต Costco คาร์ฟูร์ และผู้ประกอบการรับเหมาทำอาหาร งานของพวกเขาจะต้องขับรถบรรทุกเล็กขนส่งผักแช่เย็นที่ผ่านการแพคห่อไปรวมกันที่ตลาดรวมสินค้า จากนั้นมีพนักงานขึ้นของบันทึกรายการ ซ้อนผักที่ต้องการขนส่ง ผักเหล่านี้จะต้องแช่เย็น พนักงานขับรถไม่ต้องช่วยยกลังขึ้นรถ รับผิดชอบขนส่งสินค้าอย่างเดียว เงินเดือนที่ได้รับจะน้อยกว่า ได้รับประมาณ 50,000-60,000 เหรียญไต้หวัน/เดือน แต่จะต้องทำงานให้สอดคล้องกับความต้องการของไฮเปอร์มาร์เก็ต คือจะต้องส่งผักให้ถึงจุดหมายปลายทางก่อนฟ้าสาง ดังนั้น อาฟู่จึงต้องเริ่มไปรับงานที่บริษัทตั้งแต่ 5 ทุ่ม ออกรถประมาณเที่ยงคืน ใน 1 คืน จะต้องส่งผักไปที่คาร์ฟูร์ 3-4 แห่ง เมื่อส่งผักเสร็จฟ้าก็สางแล้ว กลับเข้าไปที่บริษัทก็ประมาณ 8 โมงเช้า หลังทานอาหารเช้าจึงจะได้เข้านอน ปีนี้อาฟู่อายุ 39 ปี มีลูกชาย 2 คน กำลังเรียนชั้นประถมปีที่ 4 และ5 หลังเกณฑ์ทหารแล้วก็ไปรับจ้างขับรถส่งผัก ตอนนี้ได้เลื่อนเป็นหัวหน้างาน แม้อาฟู่จะคุ้นเคยกับการขับรถส่งผักในช่วงเวลากลางคืน แต่เขาก็ต้องอาศัยกาแฟ เคี้ยวหมากเพื่อช่วยให้ประสาทตื่นตัว มีคนถามเขาว่า ทำงานแบบนี้จะไม่มีเวลาให้กับครอบครัว อาฟู่บอกว่า ก่อนแต่งงานก็ทำอาชีพนี้ ภรรยาก็รับรู้ว่าเขามีอาชีพแบบนี้ คนในบ้านต่างคุ้นเคยกับเวลาการทำงานของเขาแล้ว
พนักงานขับรถบรรทุกขนส่งผักจากเมืองหยุนหลินแหล่งเพาะปลูกผักใหญ่ที่สุดสู่ตลาดบริโภคใหญ่ที่สุดทางภาคเหนือ
วันนี้มีบทความที่น่าสนใจอีกอาชีพหนึ่งคือการขับรถบรรทุกขนส่งผักจากแหล่งปลูกไปยังตลาดค้าส่งมาเล่าสู่กันฟัง หลังจากที่ได้นำบทความประทับใจเกี่ยวกับกลุ่มแม่บ้านที่รับจ้างตัดผักขายของเมืองหยุนหลินเพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงครอบครัวกันแล้ว ในครั้งนี้ก็ขอนำเรื่องประทับใจของผู้คนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องขับรถบรรทุกหามรุ่งหามค่ำ ต้องยกลังผักที่หนักกว่า 10 กก.ขึ้นไป ถือเป็นงานที่ลำบากไม่น้อยเช่นกัน นั่นก็คือพนักงานขับรถขนส่งผัก ทั้งนี้ แหล่งปลูกผักใหญ่ที่สุดในไต้หวันอยู่ที่เมืองหยุนหลินทางภาคกลางของไต้หวัน แต่ว่าตลาดบริโภคผักที่ใหญ่ที่สุดอยู่ทางภาคเหนือ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องอาศัยรถบรรทุกในการขนส่งจึงจะครบวงจรธุรกิจการผลิตผักจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ การได้รับประทานผักสักคำ ผักสักจาน ก็จะต้องผ่านมือผู้คนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พนักงานรับจ้างขนส่งผักที่ต้องมีความอดทน ทนสู้ หากมีโอกาสได้พบเห็นผู้คนเหล่านี้ก็อย่าลืมทักทาย กล่าวคำว่า หนีฮ่าว-สวัสดี ด้วยนะคะ
การยกลังผักขึ้นไปวางซ้อนบนรถบรรทุกต้องมีประสบการณ์และเทคนิค
ยกตัวอย่าง นายหลินจวิ้นอวี๋(林俊宇) เป็นพนักงานขับรถส่งผักของบริษัทขนส่งหวงต๋ามานาน 10 ปี(皇達貨運) ในทุกวันที่ทำงานจะต้องรับผิดชอบขนส่งผักจากสมาคมเอ้อหลุนของเมืองหยุนหลิน ไปยังตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ทางภาคเหนือ หลักๆ แล้วเขาจะรับผิดชอบขนส่งไปยังตลาดค้าส่งผักผลไม้ในกรุงไทเปทั้งตลาดว่านหัวและว่านต้า รวมทั้งตลาดค้าส่งผักผลไม้ป่านเฉียวและซานโฉงของนครนิวไทเป หรืออาจต้องช่วยขนส่งไปยังเถาหยวนและจงลี่ในยามที่จำเป็น โดยที่ผักต่างๆ จากแหล่งปลูกจะถูกรวบรวมที่ศูนย์รวมสินค้าของสมาคมเอ้อหลุนเมืองหยุนหลิน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการแบ่งสันปันส่วนว่าจะส่งไปยังตลาดค้าส่งที่ไหนบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นตลาดค้าส่งไทเปว่านต้าจำนวนมากที่สุด สำหรับการทำงานของเขาในแต่ละวันนั้น จะเริ่มงานตั้งแต่เที่ยงวันโดยขับรถบรรทุกที่รับน้ำหนัก 26 ตันจากบริษัทไปที่ตลาดรวมสินค้า การขนลังผักขึ้นรถบรรทุก จะต้องมีผู้ช่วยที่เป็นหนุ่มๆอีก 2 คน โดยทั้ง 3 คนจะต้องทำงานร่วมกัน คนหนึ่งขน คนหนึ่งส่ง คนหนึ่งซ้อนวางขึ้นบนรถบรรทุก ใช้วเลาชั่วโมงกว่าๆ ทำงานที่ซ้ำๆ กัน จึงจะเอาลังผักทั้งหมดซ้อนไว้บนรถบรรทุกขนาด 26 ตันจนเต็ม ยิ่งถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนที่อากาศร้อนอบอ้าว และยังต้องยกลังผักที่มีน้ำหนักมากกว่า 10 กก.ขึ้นไป เหงื่อไหลซิกๆ ราวอาบเหงื่อต่างน้ำ เสื้อผ้าที่สวมใส่เปียกชุ่มไปหมด แต่หนุ่มๆ ทั้ง 3 ยังคงคล่องแคล่ว ว่องไว โชร์กล้ามให้ดูได้อย่างสบายๆ นายหลินบอกว่า เป็นพนักงานคนขับรถก็ต้องช่วยยกลังผักด้วย แต่ว่าการยกลังผักขึ้นไปวางซ้อนบนรถบรรทุกก็ต้องอาศัยประสบการณ์และเทคนิคจึงจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช่ว่าออกแรงเยอะอย่างเดียวก็พอ เพราะว่าการซ้อนลังผักก็คล้ายกับการเล่นเกมบล็อคไม้ที่ต้องซ้อนให้แน่นและแข็งแรง
คนที่ช่วยยกลังขึ้นรถต้องไม่กลัวความสูง
ปัจจุบัน หลินจวี้อวี๋อายุ 30 แต่มีลูก 4 คนแล้ว ลูกคนเล็กสุดยังเรียนอนุบาล 1 เริ่มเป็นพนักงานขับรถตั้งแต่หลังเกณฑ์ทหาร ทำงานเป็นพนักงานขับรถมานานกว่า 10 ปี เขาบอกว่า งานทุกอย่างล้วนลำบาก เลือกงานที่ตนเองพอจะทำได้ก็ตั้งใจทำต่อไป ช่วงเวลา 10 ปีที่เขาขับรถส่งผักรวมๆ กันแล้ว น่าจะเท่ากับการเดินทางรอบโลก 35 รอบ เพราะว่าใน 1 ปีต้องขับรถในระยะทางประมาณ 140,000 กิโลเมตร ส่วนค่าตอบแทนหรือค่าแรงของพนักงานขับรถคิดเป็นรอบ ยิ่งขยันวิ่งรถเท่าไร ก็ยิ่งได้เงินเยอะ โดยปกติได้รอบละ 2,500 เหรียญไต้หวัน แต่ถ้ามีรถพ่วงด้วยได้รอบละ 3,500 เหรียญไต้หวัน ปกติจะวิ่งรถวันละรอบ แต่ถ้าตรงกับช่วงเทศกาล อาจต้องขับรถส่งผักถึง 2 รอบ ต้องรีบส่งให้ถึงตลาดค้าส่งก่อนตี 3 ถือเป็นงานที่ลำบากมาก แต่ก็ได้ค่าตอบแทนเกือบ 80,000 เหรียญไต้หวัน/เดือน ชินกับงานแล้ว ตอนนี้มีบ้าน มีรถ เป็นของตัวเอง บ้านอยู่ตำบลซีหลัวเมืองหยุนหลิน มีลูก 4 คน สามารถเลี้ยงครอบครัวได้สบายๆ
ตลาดค้าส่งภาคเหนือจะมีพนักงานรับจ้างยกลังผัก
รถบรรทุกผักจากเมืองหยุนหลินถึงตลาดค้าส่งผักไทเปประมาณบ่าย 4 โมงเย็น นายหลินจวิ้นอวี๋จึงใช้เวลาที่เหลือรับประทานอาหารกล่องมื้อเที่ยง เขาบอกว่าช่วงการระบาดของโควิดมีข้อดีคือ เส้นทางด่วนรถไม่ติด หลังจากที่รถจอดแล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่ 6 คนช่วยกันขนลังลงจากรถ และจะต้องตรวจสอบหมายเลขของลังผัก จำนวนชิ้น เพื่อสะดวกในการประมูลสินค้า เจ้าหน้าที่ขนถ่ายสินค้าในไทเปมีค่าแรงตั้งแต่ 1,200-1,800 เหรียญไต้หวัน/วัน ขึ้นอยู่กับความสามารถ และส่วนหนึ่งเป็นนักเรียนรับจ้างหารายได้พิเศษที่มีอายุแค่ 16 ปีก็ยังมี สำหรับการรับประทานอาหารกล่องหรือเบนโตะนั้น จะมีพ่อค้าขาประจำขี่มอร์เตอร์ไซด์นำอาหารกล่องและเครื่องดื่มแช่เย็นมาส่งถึงสถานที่ลงสินค้าซึ่งคล้ายๆกับร้านค้าเคลื่อนที่ ส่วนค่าอาหารหรือเครื่องดื่ม เถ้าแก่จะจดบัญชีและไปคิดเงินกับบริษัทขนส่ง ถือว่าสะดวกมาก ประมาณ 5 โมงเย็น เริ่มถ่ายสินค้าลงจากรถบรรทุก ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. แต่นายหลินจวิ้นอวี๋ก็ยังไม่เสร็จธุระ เพราะยังมีผักส่วนหนึ่งที่ต้องส่งไปยังตลาดค้าส่งผักแห่งอื่นตามที่บริษัทขนส่งมอบหมายหน้าที่ อย่างเช่น ส่งไปตลาดค้าป่านเฉียว ซานฉงของนครนิวไทเป โดยให้พนักงานขนถ่ายสินค้าติดรถไปช่วยลงสินค้าด้วย ขณะที่รถบรรทุกของหลินจวิ้นอวี๋มาถึงไทเป รถบรรทุกคันที่ 2 คันที่ 3 ก็ทยอยขนส่งผักจากเมืองหยุนหลินมายังภาคเหนือด้วย หลังจากที่ลงสินค้าเสร็จสิ้นทุกที่แล้ว เขาจะขับรถบรรทุกนำลังเปล่ากลับเมืองหยุนหลินจอดที่บริษัท เวลานั้นก็ปาเข้าไปประมาณตี 1 กว่าๆ แล้ว แต่เขาบอกว่า เวลาแบบนี้ถือว่าเร็วกว่าปกติ เพราะเวลาปกติจะเสร็จงานตี 3 และกลับถึงบ้านตี 4 ตี 5 รวมเวลาทำงานประมาณ 13 ชม./วัน กลับถึงบ้านพักผ่อนไม่กี่ชั่วโมง ก็ต้องเริ่มงานวันใหม่อีก ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแต่ว่าจะหาเงินเลี้ยงครอบครัว ตั้งใจทำงานเพื่อลูก และให้เด็กๆ ในเมืองได้บริโภคผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการด้วย
คนขับรถขนส่งไปยังห้างไฮเปอร์มาร์เก็ตไม่ต้องช่วยยกลังผัก
อาฟู่ พนักงานรับจ้างขับรถขนส่งผักของอีกหนึ่งบริษัทที่ทำงานเช่นเดียวกับหลินจวิ้นอวี๋ งานของอาฟู่สบายกว่า แต่ต้องใช้แรงกายมากกว่า จะต้องขนส่งผักจากเมืองหยุนหลินไปยังห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต Costco คาร์ฟูร์ และผู้ประกอบการรับเหมาทำอาหาร งานของพวกเขาจะต้องขับรถบรรทุกเล็กขนส่งผักแช่เย็นที่ผ่านการแพคห่อไปรวมกันที่ตลาดรวมสินค้า จากนั้นมีพนักงานขึ้นของบันทึกรายการ ซ้อนผักที่ต้องการขนส่ง ผักเหล่านี้จะต้องแช่เย็น พนักงานขับรถไม่ต้องช่วยยกลังขึ้นรถ รับผิดชอบขนส่งสินค้าอย่างเดียว เงินเดือนที่ได้รับจะน้อยกว่า ได้รับประมาณ 50,000-60,000 เหรียญไต้หวัน/เดือน แต่จะต้องทำงานให้สอดคล้องกับความต้องการของไฮเปอร์มาร์เก็ต คือจะต้องส่งผักให้ถึงจุดหมายปลายทางก่อนฟ้าสาง ดังนั้น อาฟู่จึงต้องเริ่มไปรับงานที่บริษัทตั้งแต่ 5 ทุ่ม ออกรถประมาณเที่ยงคืน ใน 1 คืน จะต้องส่งผักไปที่คาร์ฟูร์ 3-4 แห่ง เมื่อส่งผักเสร็จฟ้าก็สางแล้ว กลับเข้าไปที่บริษัทก็ประมาณ 8 โมงเช้า หลังทานอาหารเช้าจึงจะได้เข้านอน ปีนี้อาฟู่อายุ 39 ปี มีลูกชาย 2 คน กำลังเรียนชั้นประถมปีที่ 4 และ5 หลังเกณฑ์ทหารแล้วก็ไปรับจ้างขับรถส่งผัก ตอนนี้ได้เลื่อนเป็นหัวหน้างาน แม้อาฟู่จะคุ้นเคยกับการขับรถส่งผักในช่วงเวลากลางคืน แต่เขาก็ต้องอาศัยกาแฟ เคี้ยวหมากเพื่อช่วยให้ประสาทตื่นตัว มีคนถามเขาว่า ทำงานแบบนี้จะไม่มีเวลาให้กับครอบครัว อาฟู่บอกว่า ก่อนแต่งงานก็ทำอาชีพนี้ ภรรยาก็รับรู้ว่าเขามีอาชีพแบบนี้ คนในบ้านต่างคุ้นเคยกับเวลาการทำงานของเขาแล้ว