
Sign up to save your podcasts
Or
ในปี 2022 การผลิตจักรยานและชิ้นส่วนของไต้หวันมีมูลค่ากว่า 200,000 ล้านเหรียญไต้หวัน โดยเฉพาะชิ้นส่วนจักรยานที่มีมูลค่า 120,000 ล้านเหรียญไต้หวัน คิดเป็น 60% ของทั้งหมด ไต้หวันเป็นแหล่งนำเข้าชิ้นส่วนจักรยานอันดับ 1 ของสหรัฐฯ และจีน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยโรงงานชิ้นส่วนส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่ไทจงและจางฮั่ว ซึ่งมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและครบวงจร ซึ่งโรงงานชิ้นส่วนในไต้หวันเป็นผู้นำในตลาดโลก เช่น การผลิตโซ่ ดุม ล้อ และส่วนประกอบอื่นๆ โจวสูฟาง อดีตเลขาธิการสมาคมส่งออกจักรยานแห่งไต้หวัน ยกตัวอย่าง Chia Cherne Industry Co., Ltd. ว่าสามารถปรับปรุงเทคโนโลยีและการออกแบบอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมนี้
ความสำเร็จของไต้หวันในอุตสาหกรรมการผลิตจักรยานเป็นผลมาจากการจัดตั้ง "A-Team" ในปี 2003 ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมเมื่อสหภาพยุโรปยกเลิกการเก็บภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด ทำให้ไต้หวันมีตลาดส่งออกที่กว้างขึ้น A-Team ประกอบด้วยผู้ผลิตชั้นนำอย่าง Giant และ Merida ที่ร่วมมือกันสร้างห่วงโซ่การผลิตที่สมบูรณ์ในไทจงและจางฮั่ว รวมถึงการนำ Know-how จากระบบการจัดการการผลิตของโตโยต้า ปัจจุบัน สมาชิก A-Team กลายเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนจักรยานชั้นนำของโลก ด้วยคุณภาพที่โดดเด่น ทำให้ไต้หวันเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมจักรยานระดับไฮเอนด์อย่างไร้คู่แข่ง
ปัจจุบันยุโรปเป็นฐานการผลิต e-bikes ที่สำคัญ แต่ขาดแคลนโรงงานผลิตชิ้นส่วน จึงต้องพึ่งพาไต้หวันและโรงงานอื่นๆ ในเอเชียที่มีห่วงโซ่การผลิตที่ครบวงจร ส่งผลให้การส่งออกชิ้นส่วนจักรยานของไต้หวันเติบโตขึ้นทุกปี แต่ก็นำมาซึ่งความท้าทายใหม่ เช่น การปรับปรุงชิ้นส่วนให้สอดคล้องกับการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า รวมถึงการออกแบบเฟรมและโซ่ใหม่ สมาคมฯ และกระทรวงเศรษฐการได้ใช้รูปแบบ PPP (Public-Private Partnership) เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนจักรยานแก้ปัญหา โดยอาศัยความได้เปรียบจากอุตสาหกรรมสารสนเทศ (IT) ของไต้หวันประยุกต์ใช้กับจักรยานไฟฟ้า ซึ่งเหมือนกับการต่อสู้ในสมรภูมิที่ดุเดือด
ในปี 2022 การผลิตจักรยานและชิ้นส่วนของไต้หวันมีมูลค่ากว่า 200,000 ล้านเหรียญไต้หวัน โดยเฉพาะชิ้นส่วนจักรยานที่มีมูลค่า 120,000 ล้านเหรียญไต้หวัน คิดเป็น 60% ของทั้งหมด ไต้หวันเป็นแหล่งนำเข้าชิ้นส่วนจักรยานอันดับ 1 ของสหรัฐฯ และจีน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยโรงงานชิ้นส่วนส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่ไทจงและจางฮั่ว ซึ่งมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและครบวงจร ซึ่งโรงงานชิ้นส่วนในไต้หวันเป็นผู้นำในตลาดโลก เช่น การผลิตโซ่ ดุม ล้อ และส่วนประกอบอื่นๆ โจวสูฟาง อดีตเลขาธิการสมาคมส่งออกจักรยานแห่งไต้หวัน ยกตัวอย่าง Chia Cherne Industry Co., Ltd. ว่าสามารถปรับปรุงเทคโนโลยีและการออกแบบอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมนี้
ความสำเร็จของไต้หวันในอุตสาหกรรมการผลิตจักรยานเป็นผลมาจากการจัดตั้ง "A-Team" ในปี 2003 ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมเมื่อสหภาพยุโรปยกเลิกการเก็บภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด ทำให้ไต้หวันมีตลาดส่งออกที่กว้างขึ้น A-Team ประกอบด้วยผู้ผลิตชั้นนำอย่าง Giant และ Merida ที่ร่วมมือกันสร้างห่วงโซ่การผลิตที่สมบูรณ์ในไทจงและจางฮั่ว รวมถึงการนำ Know-how จากระบบการจัดการการผลิตของโตโยต้า ปัจจุบัน สมาชิก A-Team กลายเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนจักรยานชั้นนำของโลก ด้วยคุณภาพที่โดดเด่น ทำให้ไต้หวันเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมจักรยานระดับไฮเอนด์อย่างไร้คู่แข่ง
ปัจจุบันยุโรปเป็นฐานการผลิต e-bikes ที่สำคัญ แต่ขาดแคลนโรงงานผลิตชิ้นส่วน จึงต้องพึ่งพาไต้หวันและโรงงานอื่นๆ ในเอเชียที่มีห่วงโซ่การผลิตที่ครบวงจร ส่งผลให้การส่งออกชิ้นส่วนจักรยานของไต้หวันเติบโตขึ้นทุกปี แต่ก็นำมาซึ่งความท้าทายใหม่ เช่น การปรับปรุงชิ้นส่วนให้สอดคล้องกับการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า รวมถึงการออกแบบเฟรมและโซ่ใหม่ สมาคมฯ และกระทรวงเศรษฐการได้ใช้รูปแบบ PPP (Public-Private Partnership) เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนจักรยานแก้ปัญหา โดยอาศัยความได้เปรียบจากอุตสาหกรรมสารสนเทศ (IT) ของไต้หวันประยุกต์ใช้กับจักรยานไฟฟ้า ซึ่งเหมือนกับการต่อสู้ในสมรภูมิที่ดุเดือด