ที่นี่ไต้หวัน

ที่นี่ไต้หวัน วันอังคารที่ 30 พ.ค.2566


Listen Later

     อู๋เจาฮุ่ย(吳昭慧) ผู้ช่วยวิจัยพืชไร่ สถานีปรับปรุงพันธุ์พืชเขตไถหนานบอกว่า มันสำปะหลังเป็นพืชหัวที่เติบโตเหมือนต้นไม้ จัดเป็นพืชหัวที่มีความสำคัญ 3 อันดับแรกของโลก ประเภทเดียวกับมันฝรั่งและมันเทศ มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อน ส่วนที่ผู้คนกินคือหัวที่ขึ้นใต้ดิน มันสำปะหลังเองก็มีพลังงานชีวมวลมาก และผลผลิตต่อต้นก็น่าทึ่ง นอกจากนี้ มันสำปะหลังสามารถเติบโตได้ในดินที่แห้งแล้งและธุรกันดาร และยังเป็นพืชผลทุพภิกขภัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่ในไต้หวันมีความคุ้นเคยกับมันสำปะหลังมาก ปี 1902 ซึ่งเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นปกครองไต้หวัน มีการนำเข้ามันสำปะหลังพันธุ์ใหม่ปลูกในไต้หวัน ต่อมาความต้องการมันสำปะหลังมีมากขึ้น ใช้แปรรูปอาหาร ใช้ทำไวน์ ใช้แปรรูปอาหารสัตว์ ใช้เป็นอาหารเลี้ยงปลาไหล และอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอื่น ๆ ส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อ จนกระทั่งในปี 1974 พื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังถึงขีดสูงสุด มีมากถึง 26,782 เฮกตาร์

มันสำปะหลังให้ผลผลิตต่อต้นสูง

     การปลูกมันสำปะหลังเคยรุ่งเรืองในอดีต พื้นที่ลาดตามเชิงเขา ตามภูเขา ล้วนปลูกมันสำปะหลัง เพราะทนความแห้งแล้ง ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวจะเห็นรถบรรทุกขนมันสำปะหลังไปยังโรงงานแปรรูป หรืออาจเห็นเกษตรกรมขูดมันสำปะหลังที่บ้าน ตากแดดให้แห้ง บรรจุถุงแล้วนำไปแปรรูปเป็นอาหารไก่และเป็ด หรือปอกเปลือก บดแล้วเติมน้ำทำเป็นแป้งมันสำปะหลังก็ได้ อย่างไรก็ตาม รูปแบบการจัดหาอาหารสัตว์ที่เปลี่ยนไป แป้งมันสำปะหลังราคาถูกจากต่างประเทศทุ่มตลาดในประเทศ อีกทั้งปัญหาการปลูกมันสำปะหลังบนเนินเขาไม่รักษาหน้าดิน และผลกำไรของชาวไร่มันสำปะหลังที่ลดลง จึงทำให้พื้นที่เพาะปลูกลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเหลือเพียงประมาณ 30 เฮกตาร์

มันสำปะหลังใช้ทำไข่มุกที่ใส่ในชานม(photo:Flickr) 

      แม้พื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังลดลง แต่ความต้องการมันสำปะหลังในไต้หวันไม่ได้ลดลงด้วย สถิติกองการเกษตรระบุ ไต้หวันนำเข้าแป้งมันสำปะหลังปีละ 330,000 เมตริกตัน โดย 80% มาจากไทย อู๋เจาฮุ่ย(吳昭慧) ผู้ช่วยวิจัยพืชไร่ สถานีปรับปรุงพันธุ์พืชเขตไถหนานบอกว่า ประเทศในแอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไนจีเรีย คองโก แองโกลา ไทย และอินโดนีเซีย มันสำปะหลังสามารถใช้เป็นอาหารหลักได้ และไทยเป็นผู้ส่งออกมันสำปะหลังรายใหญ่ การนำเข้ามันสำปะหลังของไต้หวันจากไทยส่วนใหญ่ใช้สำหรับการแปรรูปอาหาร ซึ่งอาหารทั่วไปที่ใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบ เช่น ไข่มุกในชานม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ช็อกโกแลต บิสกิต ซอส ฯลฯ เนื่องจากมันสำปะหลังมีแป้งมากจึงสามารถแปรรูปเป็นอาหารได้หลากหลาย อีกทั้งราคาถูก จึงเป็นแหล่งแป้งที่นิยมในหมู่ผู้แปรรูป เนื่องจากมันสำปะหลังมีกรดไซยานิกที่เป็นพิษ แต่ส่วนใหญ่จะมีมากที่เปลือกชั้นนอก แต่กรดไซยานิกในเนื้อมันสำปะหลังมีน้อยมาก และปลอดภัยที่จะกินเมื่อผ่านความร้อนด้วยการนึ่งหรือต้ม

มันสำปะหลังสีเหลืองทองได้รับความนิยมปลูกในปัจจุบัน

     เพื่อตอบสนองความต้องการมันสำปะหลังในประเทศ นักวิจัยได้นำเข้ามันสำปะหลังจากปานามา มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบราซิลในปี 1970 เพื่อคัดเลือกพันธุ์ แม้ตอนนี้งานปรับปรุงพันธุ์มันสำปะหลังหยุดชะงัก แต่ที่สถานีปรับปรุงพันธุ์พืชเขตไถหนานยังคงเก็บรักษาพันธุ์ดั้งเดิมจากต่างประเทศ รวมทั้งพันธุ์ไถหนาน เบอร์ 1 ถึง เบอร์ 7 ซึ่งล้วนแต่เป็นสายพันธุ์ดั้งเดิม เป็นพันธุ์ที่มีรสขมเหมาะสำหรับการแปรรูปทั้งหมด ซึ่งพันธุ์ของมันสำปะหลังมีทั้งรสขมและรสหวาน แต่รสขมให้ผลผลิตสูง เปลือกหนา มีเส้นใยมาก และมีกรดไซยานิกมากกว่า เหมาะสำหรับการแปรรูปเป็นอาหารสัตว์ โม่แป้ง และทำไวน์ ส่วนมันสำปะหลังหวานให้ผลผลิตน้อยกว่า เปลือกบาง เส้นใยน้อย มีรสหวาน และมีปริมาณกรดไซยานิกต่ำ ใช้ได้ทั้งอาหารสดและการแปรรูป และได้รับความนิยมมากขึ้น มีปรากฏให้เห็นในตลาด เป็นมันสำปะหลังสีทอง นอกจากนี้ ในปัจจุบันมีผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น ความต้องการมันสำปะหลังจึงเพิ่มขึ้น บางคนยังซื้อใบมันสำปะหลังประกอบอาหารด้วย

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ที่นี่ไต้หวันBy รจรัตน์ ยนต์สุวรรณ, Rti