
Sign up to save your podcasts
Or
วันนี้มีเรื่องของผลไม้แปลกๆ ที่หลายคนอาจไม่คุ้นเคยหรือไม่เคยรับประทาน แต่ก็เชื่อว่ามีบางคนเคยรับประทานหรือเคยเห็น เป็นผลไม้พื้นบ้านหายากของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม กัมพูชา ลาว ซึ่งผลไม้แปลกนี้ก็คือ สตาร์แอปเปิล (Star apple) ภาษาจีนก็เรียกว่า “ซิงผิงกั่ว-星蘋果” หรือว่า “หนิวไหน่กั่ว-牛奶果 หรือลูกน้ำนม” แต่ก็ยังมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น อย่างเช่น หมากน้ำนม หรือหมากยาง ส่วนที่เมืองไทยบางคนเรียกว่า “แอปเปิลละมุด” มีลักษณะของผลทรงกลม เปลือกม่วง เนื้อสีขาวอมม่วง มัน นุ่ม หวานฉ่ำอร่อยชื่นใจ มีกลิ่นหอม นิยมรับประทานเป็นผลไม้สด หรือปั่นกับน้ำแข็งก็ได้ เวลาผ่าตามขวางจะเห็นเนื้อสวยเป็นรูปดาว ขนาดราวๆ ผลแอปเปิล อันเป็นที่มาของการเรียกชื่อ “สตาร์แอปเปิล” แต่ว่ารูปร่างภายนอก สีสัน รสชาติจะต่างกับแอปเปิล มีทั้งพันธุ์สีเขียว พันธุ์สีเหลืองและพันธุ์สีม่วงแดง มีคุณประโยชน์ด้านสุขภาพ มีสารต้านอนุมูลอิสระ เปลือกต้นเป็นยาบำรุงและยาชูกำลัง ส่วนยาต้มจากเปลือกใช้เป็นยาแก้ไอได้ และเป็นเรื่องที่น่ายินดีว่าขณะนี้ในไต้หวันมีการปลูกสตาร์แอปเปิลได้และเริ่มมีขายแล้ว อีกทั้งส่งขายต่างประเทศ อย่างฮ่องกง มาเก๊า ซึ่งแหล่งปลูกที่สำคัญอยู่ที่ตำบลกู่เคิง เมืองหยุนหลิน สำหรับประวัติความเป็นมาของสตาร์แอปเปิลซึ่งเป็นผลไม้น้องใหม่ที่มีรสชาติอร่อยต้องย้อนไปที่ปี 1931 ที่มีการนำเข้ามาปลูกในไต้หวันแล้ว แต่เนื่องจากปลูกในปริมาณที่น้อยมาก ไม่มีการปลูกในเชิงพาณิชย์ มีการนำเข้ามาปลูกโดยผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวเวียดนาม นำเมล็ดเข้ามาปลูก เมื่อปลูกแล้วขายไม่ดี เพราะผลเล็ก ขายไม่ได้ราคา
ไต้เหวินจื้อ เจ้าของสวน มีความสุขกับการปลูกสตาร์แอปเปิล
ไต้เหวินจื้อ(戴文智) ผู้เป็นเจ้าของสวนสตาร์แอปเปิลในปัจจุบันเล่าให้ฟังว่า เดิมตนเองเป็นเถ้าแก่เปิดร้านอุปกรณ์ไฟฟ้า รับซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า อย่างเช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า แต่ว่าต่อมาภรรยาป่วย เสียชีวิต ไม่มีใครช่วยดูแลกิจการ ลูกทั้ง 2 ก็ยังเล็กเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 2 และ 3 เพื่อการยังชีพ จึงตัดสินใจหันมาทำการเกษตรในช่วงอายุ 38 ปี แต่เนื่องจากเป็นงานที่ไม่คุ้นเคยและไม่มีประสบการณ์ เมื่อนึกถึงตอนนั้น แม้แต่จับจอบขุดดินยังไม่ค่อยจะเป็น มีความลำบากมาก นิ้วมือแห้งแตกหยาบกร้าน รองเท้าบูทขาดไปหลายคู่ ซึ่งงานเกษตรที่จับชิ้นแรกคือการเพาะต้นกล้ากาแฟขาย เพราะว่าในขณะนั้น รัฐบาลท้องถิ่นส่งเสริมการปลูกกาแฟกู่เคิงและมีการจัดงานเทศกาลกาแฟกู่เคิง เขาเริ่มลงทุนเปิดร้านกาแฟในสวนด้วย แต่เนื่องจากคนที่ไปร้านกาแฟส่วนใหญ่ไม่ดื่มกาแฟ แต่เข้าไปเพื่อหาซื้อสิ่งของ หลังเปิดร้านกาแฟได้ครึ่งปี จึงต้องเลิกกิจการไป และในช่วงที่เปิดร้านกาแฟ ประจวบเหมาะได้รู้จักกับชาวสวนที่ต้องการเลิกปลูกสตาร์แอปเปิล เพราะฉะนั้น เขาจึงซื้อต้นสตาร์แอปเปิลมาปลูกเพื่อใช้เป็นทิวทัศน์ของร้านกาแฟ ในเวลาต่อมาที่ต้นสตาร์แอปเปิลออกผล รู้สึกว่าเนื้อของผลมีความแปลก มีกลิ่นหอมของน้ำนม รูปร่างภายนอกของผลก็สวย จึงคิดว่าน่าจะพัฒนาให้เป็นผลไม้ทั่วไปได้ เมื่อค้นหาข้อมูลพบว่า เป็นผลไม้ที่สร้างโอกาสธุรกิจได้ ดังนั้นจึงตัดสินใจหันมาศึกษา พัฒนา ปรับปรุงพันธุ์ ขยายการปลูก
ตัดแต่งกิ่งก้านสตาร์แอปเปิลหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต
อย่างไรก็ตาม การปลูกสตาร์แอปเปิลของนายไต้เหวินจื้อไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด ช่วงแรกของการปลูกเนื่องจากตัวเองไม่ใช่เกษตรกรมืออาชีพ เจออุปสรรคไม่น้อย อย่างเช่น ต้นแอปเปิลไม่ค่อยออกดอก ผลติดน้อย เมื่อฝนตกชุก ผลจะแตกปริ และยังมีปัญหาโรคพืช เขายอมรับว่า ในช่วงแรกไม่มีความรู้จริงๆ ลงทุนไปเยอะ แต่ผลตอบแทนน้อย อีกประการหนึ่ง ต้นสตาร์แอปเปิลเป็นพืชที่ขึ้นง่าย สภาพภูมิอากาศของไต้หวันที่บางช่วงฝนตกชุก ทำให้ต้นสตาร์แอปเปิลขึ้นสูง แตกกิ่งก้านเป็นรูปทรงร่ม ใบดก เมื่อถึงช่วงที่ออกผล เก็บผลยาก ดูแลยาก เพราะต้นสูง ห่อผลก็อันตราย เกษตรกรคนก่อนที่ขายต้นสตาร์แอปเปิลต้องเลิกปลูกเพราะว่าตอนที่ขึ้นไปบนต้นห่อผล ร่วงหล่นลงมาขาหัก เพราะฉะนั้นในเวลาต่อมา เขาตัดสินใจปรับปรุงพันธุ์ ศึกษาหาวิธีการให้ต้นสตาร์แอปเปิลเตี้ยลงด้วยการทาบกิ่ง และได้ผลดีด้วย หลังปรับปรุงพันธุ์ ทำให้ต้นสตาร์แอปเปิลมีความสูงแค่ 2-3 เมตรที่จากเดิมสูงกว่า 10 เมตร เมื่อเก็บผลแล้วจะทำการตัดแต่งกิ่งก้านทุกปี เพื่อไม่ให้ต้นสูงชะลูดอย่างเดียว นอกจากนี้ ไต้หวันเป็นเขตระบาดของแมลงวันผลไม้ เพราะฉะนั้นเพื่อให้การปลูกสตาร์แอปเปิลมีคุณภาพดี ในช่วงที่ผลใกล้จะสุก จะต้องห่อด้วยตาข่ายเพื่อป้องกันแมลงวันผลไม้ โดยส่วนใหญ่เมื่อผลโตขนาดเหรียญ 50 เอ็นที ก็จะต้องห่อผลไว้แล้ว นอกจากแมลงวันผลไม้ที่เป็นศัตรูพืชแล้ว สตาร์แอปเปิลพันธุ์สีม่วงแดง เมื่อเจอช่วงที่ฝนตกเยอะ ผลจะปริแตกง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฤดูฝนตกพรำๆ จะรุนแรงมาก ต้องหาวิธีการป้องกันด้วย หลังศึกษาค้นคว้าหาความรู้และพัฒนาหลายปี ประมาณ 9 ปีก่อน เขาเริ่มเพาะต้นกล้าขาย ปี 2014 เริ่มขายผลผลิต ในปีแรกที่ได้ผลผลิตก็ยังเกิดปัญหาเช่นกัน เนื่องจากลูกค้าในขณะนั้นส่วนใหญ่เป็นคนเวียดนามที่ตั้งถิ่นฐานในไต้หวัน และคนเวียดนามเองก็ชอบรับประทานสตาร์แอปเปิลเพราะว่าเป็นผลไม้พื้นบ้านของพวกเขา เมื่อพวกเขาเห็นว่าในไต้หวันมีขายผลสตาร์แอปเปิลก็ดีใจมาก แต่เมื่อซื้อกลับไปทานแล้วรู้สึกว่ามันไม่อร่อยอย่างที่คิด ไต้เหวินจื้อบอกว่า ตัวเองก็ไม่เคยไปเวียดนาม ก็ไม่รู้ว่าสตาร์แอปเปิลที่เวียดนามมีรสชาติแบบไหน เขาก็เลยสอบถามจากคนเวียดนาม ให้พวกเขาบอกเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับรสชาติทั้งหมด หลังผ่านพ้นไป 1-2 ปี ไต้เหวินจื้อก็เริ่มพัฒนาสตาร์แอปเปิลที่มีรสชาติใหม่ และตอนนี้สาวเวียดนามที่ซื้อกินก็บอกว่ารสชาติอร่อยมาก
หลังปรับปรุงพันธุ์ ได้ต้นสตาร์แอปเปิลที่มีความสูง 2-3 เมตรเท่านั้น
และเพื่อให้การปลูกสตาร์แอปเปิลเป็นไปอย่างราบรื่น เขาดูแลจัดการทุกขั้นตอนอย่างละเอียด ตั้งแต่การปลูก การปรับปรุงพันธุ์ การเก็บเกี่ยว และการขายผลผลิต เขาไม่ใช้วิธีการขายผ่านตลาดค้าส่ง แต่ใช้วิธีขายให้กับร้านขายผลไม้โดยตรง เมื่อพ่อค้าไม่รู้จักผลไม้น้องใหม่นี้ เขาก็จะสอนวิธีการขาย วิธีการเก็บรักษา เพื่อให้ขายสินค้าที่ดีนี้ให้กับผู้บริโภค เพราะว่าประชาชนผู้บริโภคที่เห็นผลสตาร์แอปเปิลครั้งแรก จากรูปลักษณ์ภายนอกที่มีความสวยงาม รู้ว่าเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ มีประโยชน์กับร่างกาย ก็จะดึงดูดผู้บริโภคให้ซื้อได้ เขาใช้วิธีขายผ่านทางเฟซบุ๊ก ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ทำให้สามารถขายสตาร์แอปเปิลถึงฮ่องกง มาเก๊า ไต้เหวินจื้อได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ปัจจุบันผู้คนให้ความสำคัญกับผลกำไรมาก หากเพียงเพื่อเงินอย่างเดียว จะทำงานเหนื่อยมาก แต่ถ้าทำเพราะด้วยใจรัก ก็จะมีความสุข เขาพูดปนเล่นว่า เขาใช้ชีวิตปลูกสตาร์แอปเปิลมาหลายสิบปี มีความผูกพันเหมือนเป็นภรรยาหลวง เมื่อผู้บริโภครับประทานผลไม้ของเขาแล้วรู้สึกว่าอร่อย แม้จะเหนื่อยแค่ไหนก็มีความสุขแล้ว
เยลลีทำจากสตาร์แอปเปิล ราดด้วยนมข้น
วันนี้มีเรื่องของผลไม้แปลกๆ ที่หลายคนอาจไม่คุ้นเคยหรือไม่เคยรับประทาน แต่ก็เชื่อว่ามีบางคนเคยรับประทานหรือเคยเห็น เป็นผลไม้พื้นบ้านหายากของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม กัมพูชา ลาว ซึ่งผลไม้แปลกนี้ก็คือ สตาร์แอปเปิล (Star apple) ภาษาจีนก็เรียกว่า “ซิงผิงกั่ว-星蘋果” หรือว่า “หนิวไหน่กั่ว-牛奶果 หรือลูกน้ำนม” แต่ก็ยังมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น อย่างเช่น หมากน้ำนม หรือหมากยาง ส่วนที่เมืองไทยบางคนเรียกว่า “แอปเปิลละมุด” มีลักษณะของผลทรงกลม เปลือกม่วง เนื้อสีขาวอมม่วง มัน นุ่ม หวานฉ่ำอร่อยชื่นใจ มีกลิ่นหอม นิยมรับประทานเป็นผลไม้สด หรือปั่นกับน้ำแข็งก็ได้ เวลาผ่าตามขวางจะเห็นเนื้อสวยเป็นรูปดาว ขนาดราวๆ ผลแอปเปิล อันเป็นที่มาของการเรียกชื่อ “สตาร์แอปเปิล” แต่ว่ารูปร่างภายนอก สีสัน รสชาติจะต่างกับแอปเปิล มีทั้งพันธุ์สีเขียว พันธุ์สีเหลืองและพันธุ์สีม่วงแดง มีคุณประโยชน์ด้านสุขภาพ มีสารต้านอนุมูลอิสระ เปลือกต้นเป็นยาบำรุงและยาชูกำลัง ส่วนยาต้มจากเปลือกใช้เป็นยาแก้ไอได้ และเป็นเรื่องที่น่ายินดีว่าขณะนี้ในไต้หวันมีการปลูกสตาร์แอปเปิลได้และเริ่มมีขายแล้ว อีกทั้งส่งขายต่างประเทศ อย่างฮ่องกง มาเก๊า ซึ่งแหล่งปลูกที่สำคัญอยู่ที่ตำบลกู่เคิง เมืองหยุนหลิน สำหรับประวัติความเป็นมาของสตาร์แอปเปิลซึ่งเป็นผลไม้น้องใหม่ที่มีรสชาติอร่อยต้องย้อนไปที่ปี 1931 ที่มีการนำเข้ามาปลูกในไต้หวันแล้ว แต่เนื่องจากปลูกในปริมาณที่น้อยมาก ไม่มีการปลูกในเชิงพาณิชย์ มีการนำเข้ามาปลูกโดยผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวเวียดนาม นำเมล็ดเข้ามาปลูก เมื่อปลูกแล้วขายไม่ดี เพราะผลเล็ก ขายไม่ได้ราคา
ไต้เหวินจื้อ เจ้าของสวน มีความสุขกับการปลูกสตาร์แอปเปิล
ไต้เหวินจื้อ(戴文智) ผู้เป็นเจ้าของสวนสตาร์แอปเปิลในปัจจุบันเล่าให้ฟังว่า เดิมตนเองเป็นเถ้าแก่เปิดร้านอุปกรณ์ไฟฟ้า รับซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า อย่างเช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า แต่ว่าต่อมาภรรยาป่วย เสียชีวิต ไม่มีใครช่วยดูแลกิจการ ลูกทั้ง 2 ก็ยังเล็กเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 2 และ 3 เพื่อการยังชีพ จึงตัดสินใจหันมาทำการเกษตรในช่วงอายุ 38 ปี แต่เนื่องจากเป็นงานที่ไม่คุ้นเคยและไม่มีประสบการณ์ เมื่อนึกถึงตอนนั้น แม้แต่จับจอบขุดดินยังไม่ค่อยจะเป็น มีความลำบากมาก นิ้วมือแห้งแตกหยาบกร้าน รองเท้าบูทขาดไปหลายคู่ ซึ่งงานเกษตรที่จับชิ้นแรกคือการเพาะต้นกล้ากาแฟขาย เพราะว่าในขณะนั้น รัฐบาลท้องถิ่นส่งเสริมการปลูกกาแฟกู่เคิงและมีการจัดงานเทศกาลกาแฟกู่เคิง เขาเริ่มลงทุนเปิดร้านกาแฟในสวนด้วย แต่เนื่องจากคนที่ไปร้านกาแฟส่วนใหญ่ไม่ดื่มกาแฟ แต่เข้าไปเพื่อหาซื้อสิ่งของ หลังเปิดร้านกาแฟได้ครึ่งปี จึงต้องเลิกกิจการไป และในช่วงที่เปิดร้านกาแฟ ประจวบเหมาะได้รู้จักกับชาวสวนที่ต้องการเลิกปลูกสตาร์แอปเปิล เพราะฉะนั้น เขาจึงซื้อต้นสตาร์แอปเปิลมาปลูกเพื่อใช้เป็นทิวทัศน์ของร้านกาแฟ ในเวลาต่อมาที่ต้นสตาร์แอปเปิลออกผล รู้สึกว่าเนื้อของผลมีความแปลก มีกลิ่นหอมของน้ำนม รูปร่างภายนอกของผลก็สวย จึงคิดว่าน่าจะพัฒนาให้เป็นผลไม้ทั่วไปได้ เมื่อค้นหาข้อมูลพบว่า เป็นผลไม้ที่สร้างโอกาสธุรกิจได้ ดังนั้นจึงตัดสินใจหันมาศึกษา พัฒนา ปรับปรุงพันธุ์ ขยายการปลูก
ตัดแต่งกิ่งก้านสตาร์แอปเปิลหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต
อย่างไรก็ตาม การปลูกสตาร์แอปเปิลของนายไต้เหวินจื้อไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด ช่วงแรกของการปลูกเนื่องจากตัวเองไม่ใช่เกษตรกรมืออาชีพ เจออุปสรรคไม่น้อย อย่างเช่น ต้นแอปเปิลไม่ค่อยออกดอก ผลติดน้อย เมื่อฝนตกชุก ผลจะแตกปริ และยังมีปัญหาโรคพืช เขายอมรับว่า ในช่วงแรกไม่มีความรู้จริงๆ ลงทุนไปเยอะ แต่ผลตอบแทนน้อย อีกประการหนึ่ง ต้นสตาร์แอปเปิลเป็นพืชที่ขึ้นง่าย สภาพภูมิอากาศของไต้หวันที่บางช่วงฝนตกชุก ทำให้ต้นสตาร์แอปเปิลขึ้นสูง แตกกิ่งก้านเป็นรูปทรงร่ม ใบดก เมื่อถึงช่วงที่ออกผล เก็บผลยาก ดูแลยาก เพราะต้นสูง ห่อผลก็อันตราย เกษตรกรคนก่อนที่ขายต้นสตาร์แอปเปิลต้องเลิกปลูกเพราะว่าตอนที่ขึ้นไปบนต้นห่อผล ร่วงหล่นลงมาขาหัก เพราะฉะนั้นในเวลาต่อมา เขาตัดสินใจปรับปรุงพันธุ์ ศึกษาหาวิธีการให้ต้นสตาร์แอปเปิลเตี้ยลงด้วยการทาบกิ่ง และได้ผลดีด้วย หลังปรับปรุงพันธุ์ ทำให้ต้นสตาร์แอปเปิลมีความสูงแค่ 2-3 เมตรที่จากเดิมสูงกว่า 10 เมตร เมื่อเก็บผลแล้วจะทำการตัดแต่งกิ่งก้านทุกปี เพื่อไม่ให้ต้นสูงชะลูดอย่างเดียว นอกจากนี้ ไต้หวันเป็นเขตระบาดของแมลงวันผลไม้ เพราะฉะนั้นเพื่อให้การปลูกสตาร์แอปเปิลมีคุณภาพดี ในช่วงที่ผลใกล้จะสุก จะต้องห่อด้วยตาข่ายเพื่อป้องกันแมลงวันผลไม้ โดยส่วนใหญ่เมื่อผลโตขนาดเหรียญ 50 เอ็นที ก็จะต้องห่อผลไว้แล้ว นอกจากแมลงวันผลไม้ที่เป็นศัตรูพืชแล้ว สตาร์แอปเปิลพันธุ์สีม่วงแดง เมื่อเจอช่วงที่ฝนตกเยอะ ผลจะปริแตกง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฤดูฝนตกพรำๆ จะรุนแรงมาก ต้องหาวิธีการป้องกันด้วย หลังศึกษาค้นคว้าหาความรู้และพัฒนาหลายปี ประมาณ 9 ปีก่อน เขาเริ่มเพาะต้นกล้าขาย ปี 2014 เริ่มขายผลผลิต ในปีแรกที่ได้ผลผลิตก็ยังเกิดปัญหาเช่นกัน เนื่องจากลูกค้าในขณะนั้นส่วนใหญ่เป็นคนเวียดนามที่ตั้งถิ่นฐานในไต้หวัน และคนเวียดนามเองก็ชอบรับประทานสตาร์แอปเปิลเพราะว่าเป็นผลไม้พื้นบ้านของพวกเขา เมื่อพวกเขาเห็นว่าในไต้หวันมีขายผลสตาร์แอปเปิลก็ดีใจมาก แต่เมื่อซื้อกลับไปทานแล้วรู้สึกว่ามันไม่อร่อยอย่างที่คิด ไต้เหวินจื้อบอกว่า ตัวเองก็ไม่เคยไปเวียดนาม ก็ไม่รู้ว่าสตาร์แอปเปิลที่เวียดนามมีรสชาติแบบไหน เขาก็เลยสอบถามจากคนเวียดนาม ให้พวกเขาบอกเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับรสชาติทั้งหมด หลังผ่านพ้นไป 1-2 ปี ไต้เหวินจื้อก็เริ่มพัฒนาสตาร์แอปเปิลที่มีรสชาติใหม่ และตอนนี้สาวเวียดนามที่ซื้อกินก็บอกว่ารสชาติอร่อยมาก
หลังปรับปรุงพันธุ์ ได้ต้นสตาร์แอปเปิลที่มีความสูง 2-3 เมตรเท่านั้น
และเพื่อให้การปลูกสตาร์แอปเปิลเป็นไปอย่างราบรื่น เขาดูแลจัดการทุกขั้นตอนอย่างละเอียด ตั้งแต่การปลูก การปรับปรุงพันธุ์ การเก็บเกี่ยว และการขายผลผลิต เขาไม่ใช้วิธีการขายผ่านตลาดค้าส่ง แต่ใช้วิธีขายให้กับร้านขายผลไม้โดยตรง เมื่อพ่อค้าไม่รู้จักผลไม้น้องใหม่นี้ เขาก็จะสอนวิธีการขาย วิธีการเก็บรักษา เพื่อให้ขายสินค้าที่ดีนี้ให้กับผู้บริโภค เพราะว่าประชาชนผู้บริโภคที่เห็นผลสตาร์แอปเปิลครั้งแรก จากรูปลักษณ์ภายนอกที่มีความสวยงาม รู้ว่าเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ มีประโยชน์กับร่างกาย ก็จะดึงดูดผู้บริโภคให้ซื้อได้ เขาใช้วิธีขายผ่านทางเฟซบุ๊ก ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ทำให้สามารถขายสตาร์แอปเปิลถึงฮ่องกง มาเก๊า ไต้เหวินจื้อได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ปัจจุบันผู้คนให้ความสำคัญกับผลกำไรมาก หากเพียงเพื่อเงินอย่างเดียว จะทำงานเหนื่อยมาก แต่ถ้าทำเพราะด้วยใจรัก ก็จะมีความสุข เขาพูดปนเล่นว่า เขาใช้ชีวิตปลูกสตาร์แอปเปิลมาหลายสิบปี มีความผูกพันเหมือนเป็นภรรยาหลวง เมื่อผู้บริโภครับประทานผลไม้ของเขาแล้วรู้สึกว่าอร่อย แม้จะเหนื่อยแค่ไหนก็มีความสุขแล้ว
เยลลีทำจากสตาร์แอปเปิล ราดด้วยนมข้น