
Sign up to save your podcasts
Or
ไต้หวันใช้เวลา 11 ปี ปรับปรุงพันธุ์ถั่วลิสงสายพันธุ์ใหม่ “ไถหนานเบอร์ 20” กลั่นเป็นน้ำมันถั่วลิสงมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวกรดโอเลอิกะกรดไลโนเลอิกใกล้เคียงกับน้ำมันมะกอก
ถั่วลิสงจัดเป็นพืชตระกูลถั่วที่ให้น้ำมันสูง มีส่วนประกอบของกรดไขมันไม่อิ่มตัว อย่างไรก็ตาม ไขมันที่อยู่ในถั่วลิสงจะทำปฏิกิริยากับความร้อนและออกซิเจนได้ง่าย เมื่อเก็บไว้นานจะมีกลิ่นเหม็นหืน โดยส่วนใหญ่ถ้านำถั่วลิสงกลั่นเป็นน้ำมันแล้วจะเก็บได้นาน 2- 4 เดือนเท่านั้น สาเหตุเนื่องจาก กลิ่นเหม็นหืนของน้ำมันถั่วลิสง ซึ่งหลักๆ แล้วขึ้นอยู่กับปริมาณของกรดโอเลอิก(Oleic) และกรดลิโนเลอิก(Linoleic) ที่อยู่ในไขมัน ถ้ากรดไขมันทั้ง 2 ที่อยู่ในน้ำมันถั่วลิสงยิ่งสูง การเก็บรักษาก็ยิ่งนานขึ้น ล่าสุด สถานีปรับปรุงพันธุ์พืชเขตไถหนานใช้เวลา 11 ปี ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงถั่วลิสงสายพันธุ์ใหม่ที่ปริมาณของกรดโอเลอิกและกรดลิโนเลอิกสูง โดยตั้งชื่อสายพันธุ์ของถั่วลิสงนี้ว่า “ไถหนานเบอร์ 20-臺南20號 ” แม้ผลผลิตและรสชาติมีความใกล้เคียงกับถั่วลิสงสายพันธุ์ “ไถหนานเบอร์ 14” ที่เป็นสายพันธุ์หลักที่ปลูกมากในปัจจุบัน แต่ว่าการเกิดปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นหืนจะลดลงถึง 10 เท่าตัวเลยทีเดียว และยังสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานถึง 10 เดือน ซึ่งหลังจากที่ไต้หวันพัฒนาถั่วลิสงสายพันธุ์ใหม่ไถหนานเบอร์ 20 แล้ว ก็สามารถแก้ปัญหาธุรกิจการผลิตที่มีปัญหามายาวนานได้ และหลังจากจดสิทธิ์ของสายพันธุ์แล้ว คาดว่าภายใน 1-2 ปี จะวางแผนทำพันธสัญญากับผู้ประกอบการเพื่อผลิตสินค้าสู่ท้องตลาด แต่ว่าในช่วงเริ่มต้นจะผลักดันให้มีการเพาะปลูกในพื้นที่ 50 เฮกตาร์ก่อน
ถั่วลิสงสายพันธุ์ใหม่ “ไถหนานเบอร์ 20” กลั่นเป็นน้ำมันถั่วลิสงคุณภาพดีใกล้เคียงน้ำมันมะกอก
ถั่วลิสงสายพันธุ์ไถหนานเบอร์ 20 ประกอบด้วยกรดโอเลอิกที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวประมาณ 79% เป็นกรดไลโนเลอิกที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนประมาณ 3.8% หากเปรียบเทียบกับน้ำมันมะกอกที่มีกรดโอเลอิก 77% และกรดไลโนเลอิก 8.2% ถือว่ามีความใกล้เคียงกันมาก เพราะฉะนั้น ทางสถานีปรับปรุงพันธุ์พืชไถหนานจึงตั้งชื่อถั่วลิสงสายพันธุ์ไถหนานเบอร์ 20 ว่า “ถั่วลิสงมะกอก” เฉินกั๋วเสี้ยน(陳國憲) ผู้ช่วยวิจัยสถานีปรับปรุงพันธุ์พืชไถหนานบอกว่า อัตราการกลั่นน้ำมันถั่วลิสงสายพันธุ์เบอร์ 20 กับสายพันธุ์เบอร์ 14 ใกล้เคียงกัน แต่ว่าถั่วลิสงสายพันธุ์เบอร์ 20 มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวโอเลอิกสูงกว่า มีจุดเกิดควัน (Smoke Point) ในอุณหภูมิที่สูงกว่า คุณภาพของน้ำมันดีกว่า หรือจะบอกได้ว่ามีคุณภาพเดียวกับน้ำมันมะกอกก็ว่าได้
เปรียบเทียบรูปร่างภายนอกของถั่วลิสงพันธุ์ไถหนานเบอร์ 14 กับเบอร์ 20
สถานีปรับปรุงพันธุ์พืชไถหนานชี้ว่า ไต้หวันปลูกถั่วลิสงได้ปีละ 58,000 ตัน ผลประกอบการประมาณ 2,000 ล้านเหรียญไต้หวัน/ปี สามารถป้อนให้กับตลาดภายในประเทศได้มากถึง 90% มีแค่ 10% เท่านั้นที่นำเข้าจากต่างประเทศ ผลผลิตถั่วลิสงในประเทศส่วนใหญ่ส่งให้กับผู้ประกอบการอาหารสดและผู้ประกอบการแปรรูปอาหาร ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการด้านอาหารมีความต้องการถั่วลิสงมากที่สุด ครองสัดส่วนตลาด 60-70% และขณะนี้สายพันธุ์ที่ปลูกมากที่สุดเป็นสายพันธุ์ไถหนานเบอร์ 14 ครองสัดส่วน 74% รองลงมาเป็นสายพันธุ์ไถหนานเบอร์ 9 ไถหนานเบอร์ 16 (ถั่วลิสงสายพันธุ์คิงคองดำ) และสายพันธุ์ไถหนานเบอร์ 17 โดยที่แต่ละสายพันธุ์ครองสัดส่วนประมาณ 6%
เปรียบเทียบอัตราความเหม็นหืนของถั่วลิสงสายพันธู์ไถหนานเบอร์ 14 กับเบอร์ 20
น้ำมันถั่วลิสงเป็นน้ำมันพืชชนิดหนึ่งที่ผลิตมาจากเมล็ดถั่วลิสงที่เรานิยมนำมาต้มทานกัน โดยมีกลิ่นหอมและมีกรดไขมันเฉพาะตัว เหมาะในการนำมาประกอบอาหารเป็นอย่างมาก ช่วยทำให้รสชาติของอาหารอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งมีประโยชน์กับร่างกายมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของระบบไหลเวียนของโลหิต แต่หลายปีที่ผ่านมา น้ำมันถั่วลิสงมักจะถูกมองว่าเป็นน้ำมันที่มีคอเลสเตอรอลสูง นำมาประกอบอาหาร ทานแล้วทำให้เป็นโรคอ้วนได้ หรือแม้แต่คิดว่าทำให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ แต่ในความจริงแล้ว น้ำมันถั่วลิสงกลับมีสรรพคุณด้านสุขภาพหลายประการ
เปรียบเทียบ นน.ของถั่วลิสงต่อ 1000 เมล็ด สายพันธุ์ไถหนานเบอร์ 20 มีขนาดและน้ำหนักมากกว่าเบอร์ 14
ไต้หวันใช้เวลา 11 ปี ปรับปรุงพันธุ์ถั่วลิสงสายพันธุ์ใหม่ “ไถหนานเบอร์ 20” กลั่นเป็นน้ำมันถั่วลิสงมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวกรดโอเลอิกะกรดไลโนเลอิกใกล้เคียงกับน้ำมันมะกอก
ถั่วลิสงจัดเป็นพืชตระกูลถั่วที่ให้น้ำมันสูง มีส่วนประกอบของกรดไขมันไม่อิ่มตัว อย่างไรก็ตาม ไขมันที่อยู่ในถั่วลิสงจะทำปฏิกิริยากับความร้อนและออกซิเจนได้ง่าย เมื่อเก็บไว้นานจะมีกลิ่นเหม็นหืน โดยส่วนใหญ่ถ้านำถั่วลิสงกลั่นเป็นน้ำมันแล้วจะเก็บได้นาน 2- 4 เดือนเท่านั้น สาเหตุเนื่องจาก กลิ่นเหม็นหืนของน้ำมันถั่วลิสง ซึ่งหลักๆ แล้วขึ้นอยู่กับปริมาณของกรดโอเลอิก(Oleic) และกรดลิโนเลอิก(Linoleic) ที่อยู่ในไขมัน ถ้ากรดไขมันทั้ง 2 ที่อยู่ในน้ำมันถั่วลิสงยิ่งสูง การเก็บรักษาก็ยิ่งนานขึ้น ล่าสุด สถานีปรับปรุงพันธุ์พืชเขตไถหนานใช้เวลา 11 ปี ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงถั่วลิสงสายพันธุ์ใหม่ที่ปริมาณของกรดโอเลอิกและกรดลิโนเลอิกสูง โดยตั้งชื่อสายพันธุ์ของถั่วลิสงนี้ว่า “ไถหนานเบอร์ 20-臺南20號 ” แม้ผลผลิตและรสชาติมีความใกล้เคียงกับถั่วลิสงสายพันธุ์ “ไถหนานเบอร์ 14” ที่เป็นสายพันธุ์หลักที่ปลูกมากในปัจจุบัน แต่ว่าการเกิดปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นหืนจะลดลงถึง 10 เท่าตัวเลยทีเดียว และยังสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานถึง 10 เดือน ซึ่งหลังจากที่ไต้หวันพัฒนาถั่วลิสงสายพันธุ์ใหม่ไถหนานเบอร์ 20 แล้ว ก็สามารถแก้ปัญหาธุรกิจการผลิตที่มีปัญหามายาวนานได้ และหลังจากจดสิทธิ์ของสายพันธุ์แล้ว คาดว่าภายใน 1-2 ปี จะวางแผนทำพันธสัญญากับผู้ประกอบการเพื่อผลิตสินค้าสู่ท้องตลาด แต่ว่าในช่วงเริ่มต้นจะผลักดันให้มีการเพาะปลูกในพื้นที่ 50 เฮกตาร์ก่อน
ถั่วลิสงสายพันธุ์ใหม่ “ไถหนานเบอร์ 20” กลั่นเป็นน้ำมันถั่วลิสงคุณภาพดีใกล้เคียงน้ำมันมะกอก
ถั่วลิสงสายพันธุ์ไถหนานเบอร์ 20 ประกอบด้วยกรดโอเลอิกที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวประมาณ 79% เป็นกรดไลโนเลอิกที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนประมาณ 3.8% หากเปรียบเทียบกับน้ำมันมะกอกที่มีกรดโอเลอิก 77% และกรดไลโนเลอิก 8.2% ถือว่ามีความใกล้เคียงกันมาก เพราะฉะนั้น ทางสถานีปรับปรุงพันธุ์พืชไถหนานจึงตั้งชื่อถั่วลิสงสายพันธุ์ไถหนานเบอร์ 20 ว่า “ถั่วลิสงมะกอก” เฉินกั๋วเสี้ยน(陳國憲) ผู้ช่วยวิจัยสถานีปรับปรุงพันธุ์พืชไถหนานบอกว่า อัตราการกลั่นน้ำมันถั่วลิสงสายพันธุ์เบอร์ 20 กับสายพันธุ์เบอร์ 14 ใกล้เคียงกัน แต่ว่าถั่วลิสงสายพันธุ์เบอร์ 20 มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวโอเลอิกสูงกว่า มีจุดเกิดควัน (Smoke Point) ในอุณหภูมิที่สูงกว่า คุณภาพของน้ำมันดีกว่า หรือจะบอกได้ว่ามีคุณภาพเดียวกับน้ำมันมะกอกก็ว่าได้
เปรียบเทียบรูปร่างภายนอกของถั่วลิสงพันธุ์ไถหนานเบอร์ 14 กับเบอร์ 20
สถานีปรับปรุงพันธุ์พืชไถหนานชี้ว่า ไต้หวันปลูกถั่วลิสงได้ปีละ 58,000 ตัน ผลประกอบการประมาณ 2,000 ล้านเหรียญไต้หวัน/ปี สามารถป้อนให้กับตลาดภายในประเทศได้มากถึง 90% มีแค่ 10% เท่านั้นที่นำเข้าจากต่างประเทศ ผลผลิตถั่วลิสงในประเทศส่วนใหญ่ส่งให้กับผู้ประกอบการอาหารสดและผู้ประกอบการแปรรูปอาหาร ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการด้านอาหารมีความต้องการถั่วลิสงมากที่สุด ครองสัดส่วนตลาด 60-70% และขณะนี้สายพันธุ์ที่ปลูกมากที่สุดเป็นสายพันธุ์ไถหนานเบอร์ 14 ครองสัดส่วน 74% รองลงมาเป็นสายพันธุ์ไถหนานเบอร์ 9 ไถหนานเบอร์ 16 (ถั่วลิสงสายพันธุ์คิงคองดำ) และสายพันธุ์ไถหนานเบอร์ 17 โดยที่แต่ละสายพันธุ์ครองสัดส่วนประมาณ 6%
เปรียบเทียบอัตราความเหม็นหืนของถั่วลิสงสายพันธู์ไถหนานเบอร์ 14 กับเบอร์ 20
น้ำมันถั่วลิสงเป็นน้ำมันพืชชนิดหนึ่งที่ผลิตมาจากเมล็ดถั่วลิสงที่เรานิยมนำมาต้มทานกัน โดยมีกลิ่นหอมและมีกรดไขมันเฉพาะตัว เหมาะในการนำมาประกอบอาหารเป็นอย่างมาก ช่วยทำให้รสชาติของอาหารอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งมีประโยชน์กับร่างกายมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของระบบไหลเวียนของโลหิต แต่หลายปีที่ผ่านมา น้ำมันถั่วลิสงมักจะถูกมองว่าเป็นน้ำมันที่มีคอเลสเตอรอลสูง นำมาประกอบอาหาร ทานแล้วทำให้เป็นโรคอ้วนได้ หรือแม้แต่คิดว่าทำให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ แต่ในความจริงแล้ว น้ำมันถั่วลิสงกลับมีสรรพคุณด้านสุขภาพหลายประการ
เปรียบเทียบ นน.ของถั่วลิสงต่อ 1000 เมล็ด สายพันธุ์ไถหนานเบอร์ 20 มีขนาดและน้ำหนักมากกว่าเบอร์ 14