
Sign up to save your podcasts
Or
กล้วยไม้หวาย นอบิเล่ (Dendrobium Nobile) สายพันธุ์ใหม่ “ไทจง เบอร์ 4 หรือ ฟางหมิงเฝ่ยชุ่ย台中4號─芳明翡翠” เป็นกล้วยไม้ที่ไต้หวันพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดดอกไม้กระถางที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก ปัจจุบันความต้องการตลาดโลกมีมากกว่า 8 ล้านกระถางต่อปี ตลาดที่สำคัญคือ ยุโรป อเมริกาเหนือ บราซิล อเมริกากลาง ญี่ปุ่น และจีน แต่ว่าในยุคแรกของการปลูกกล้วยไม้หวายนอบิเล่ ต้องการสิ่งแวดล้อมอากาศหนาวและเย็น สายพันธุ์ส่วนใหญ่มีต้นสูงโต ปลูกนาน และปลูกยาก จึงทำให้ไต้หวันพัฒนากล้วยไม้หวายนอบิเล่สายพันธุ์ใหม่ๆ ค่อนข้างช้า
กล้วยไม้หวาย นอบิเล่ “ไทจง เบอร์ 4 "
อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ปีนี้ ตลาดโลกนิยมไม้ดอกที่ปลูกในกระถางเพิ่มมากขึ้น กล้วยไม้หวายนอบิเล่ “ไถจงเบอร์ 4 หรือ ฟางหมิงเฝ่ยชุ่ย” ที่ใช้เวลาพัฒนา 13 ปี จึงสอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลกพอดี เอกลักษณ์ของดอกมีสีขาวขอบสีแดงม่วง ตรงกลางกลีบปากมีสีเขียวสดราวกับมรกต จึงเป็นที่มาของการตั้งชื่อภาษาจีนว่า “เฝ่ยชุ่ย翡翠” ที่แปลว่ามรกต ส่วนคำว่า “ฟางหมิง芳明” ก็เป็นการรำลึกถึงนักวิจัยกล้วยไม้หวายนอบิเล่ที่ชื่อ “เว่ยฟางหมิง魏芳明” ที่เสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากตอนมีชีวิตเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนากล้วยไม้หวายโนบิลเล่มากถึง 1,155 สายพันธุ์ และยังได้รับรางวัลนักวิจัยรุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่นด้วย
กล้วยไม้หวายนอบิเล่ “ไถจงเบอร์ 4 หรือ ฟางหมิงเฝ่ยชุ่ย” เป็นกล้วยไม้ขนาดกลางและเล็ก เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ในปี 2007 โดยมีแม่พันธุ์คือ Den. Angel Baby ที่มีลำต้นเตี้ย ออกดอกง่าย ส่วนพ่อพันธุ์คือ Den. Red Emperor ที่มีจุดเด่นคือดอกใหญ่ ปลูกง่าย มีการตั้งชื่อในปี 2016 และจดสิทธิ์ของพันธุ์ในปี 2020 เป็นสายพันธุ์ที่ทนโรคเน่าเละ โรคเหี่ยวแห้งและตาย โรคแอนแทรคโนส โรคใบจุดสีน้ำตาล เหมาะต่อการปลูกในพื้นที่ราบของเมืองไทจง จางฮั่ว หนานโถว หยุนหลิน
กล้วยไม้หวาย นอบิเล่ “ไทจง เบอร์ 4 " เหมาะต่อการปลูกในกระถาง
กล้วยไม้หวายนอมิเล่ส่วนใหญ่ หลังนำต้นกล้าออกจากขวดไปเพาะปลูก ต้องใช้เวลา 1 ปีจึงจะออกดอก 3-6 ดอก ต้องเลี้ยงมากกว่า 2 ปี จึงจะขายได้ราคา แต่กล้วยไม้หวายนอบิเล่ไทจงเบอร์ 4 หลังเพาะเลี้ยง 1 ปี ออกดอก 21-24 ดอก ปลูกในกระถาง 1 ปีครึ่งก็สามารถขายสู่ท้องตลาดได้
กล้วยไม้หวาย นอบิเล่ (Dendrobium Nobile) สายพันธุ์ใหม่ “ไทจง เบอร์ 4 หรือ ฟางหมิงเฝ่ยชุ่ย台中4號─芳明翡翠” เป็นกล้วยไม้ที่ไต้หวันพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดดอกไม้กระถางที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก ปัจจุบันความต้องการตลาดโลกมีมากกว่า 8 ล้านกระถางต่อปี ตลาดที่สำคัญคือ ยุโรป อเมริกาเหนือ บราซิล อเมริกากลาง ญี่ปุ่น และจีน แต่ว่าในยุคแรกของการปลูกกล้วยไม้หวายนอบิเล่ ต้องการสิ่งแวดล้อมอากาศหนาวและเย็น สายพันธุ์ส่วนใหญ่มีต้นสูงโต ปลูกนาน และปลูกยาก จึงทำให้ไต้หวันพัฒนากล้วยไม้หวายนอบิเล่สายพันธุ์ใหม่ๆ ค่อนข้างช้า
กล้วยไม้หวาย นอบิเล่ “ไทจง เบอร์ 4 "
อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ปีนี้ ตลาดโลกนิยมไม้ดอกที่ปลูกในกระถางเพิ่มมากขึ้น กล้วยไม้หวายนอบิเล่ “ไถจงเบอร์ 4 หรือ ฟางหมิงเฝ่ยชุ่ย” ที่ใช้เวลาพัฒนา 13 ปี จึงสอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลกพอดี เอกลักษณ์ของดอกมีสีขาวขอบสีแดงม่วง ตรงกลางกลีบปากมีสีเขียวสดราวกับมรกต จึงเป็นที่มาของการตั้งชื่อภาษาจีนว่า “เฝ่ยชุ่ย翡翠” ที่แปลว่ามรกต ส่วนคำว่า “ฟางหมิง芳明” ก็เป็นการรำลึกถึงนักวิจัยกล้วยไม้หวายนอบิเล่ที่ชื่อ “เว่ยฟางหมิง魏芳明” ที่เสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากตอนมีชีวิตเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนากล้วยไม้หวายโนบิลเล่มากถึง 1,155 สายพันธุ์ และยังได้รับรางวัลนักวิจัยรุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่นด้วย
กล้วยไม้หวายนอบิเล่ “ไถจงเบอร์ 4 หรือ ฟางหมิงเฝ่ยชุ่ย” เป็นกล้วยไม้ขนาดกลางและเล็ก เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ในปี 2007 โดยมีแม่พันธุ์คือ Den. Angel Baby ที่มีลำต้นเตี้ย ออกดอกง่าย ส่วนพ่อพันธุ์คือ Den. Red Emperor ที่มีจุดเด่นคือดอกใหญ่ ปลูกง่าย มีการตั้งชื่อในปี 2016 และจดสิทธิ์ของพันธุ์ในปี 2020 เป็นสายพันธุ์ที่ทนโรคเน่าเละ โรคเหี่ยวแห้งและตาย โรคแอนแทรคโนส โรคใบจุดสีน้ำตาล เหมาะต่อการปลูกในพื้นที่ราบของเมืองไทจง จางฮั่ว หนานโถว หยุนหลิน
กล้วยไม้หวาย นอบิเล่ “ไทจง เบอร์ 4 " เหมาะต่อการปลูกในกระถาง
กล้วยไม้หวายนอมิเล่ส่วนใหญ่ หลังนำต้นกล้าออกจากขวดไปเพาะปลูก ต้องใช้เวลา 1 ปีจึงจะออกดอก 3-6 ดอก ต้องเลี้ยงมากกว่า 2 ปี จึงจะขายได้ราคา แต่กล้วยไม้หวายนอบิเล่ไทจงเบอร์ 4 หลังเพาะเลี้ยง 1 ปี ออกดอก 21-24 ดอก ปลูกในกระถาง 1 ปีครึ่งก็สามารถขายสู่ท้องตลาดได้