ที่นี่ไต้หวัน

ที่นี่ไต้หวัน วันอังคารที่ 9 ม.ค.2567


Listen Later

   สถาบันวิจัยการเกษตรไต้หวัน กระทรวงเกษตร(Taiwan Agricultural Research Institute :COA) ใช้เวลา 13 ปี พัฒนาข้าวสายพันธุ์ใหม่ "ไถหนงเบอร์ 88" เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างข้าว"ไถหนงเบอร์ 74"เป็นแม่พันธุ์ กับ ข้าว"ไถหนานเบอร์ 11" เป็นพ่อพันธุ์ คาดว่าหลังจดสิทธิ์ของสายพันธุ์แล้วจะส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกในปีนี้(2024) นับเป็นข้าวพันธุ์แรกที่ทางสถาบันฯมีการตั้งโรงเรือนเพาะชำเพื่อคัดเลือกพันธุ์ที่ทนต่อความร้อน และพบว่าข้าวพันธุ์นี้ให้ผลผลิตสูง เมล็ดข้าวมีขนาดใหญ่ น้ำหนักเยอะ เมล็ดข้าวสารมีจุดขาวขุ่นน้อย จึงเหมาะในการนำไปปลูกในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง แม้อุณหภูมิสูงแต่ผลผลิตที่ได้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก และยังมีความต้านทานโรคสูง

   ไล่หมิงซิ่น(賴明信) ผู้อำนวยการสำนักวิจัยพืชไร่ สถาบันวิจัยการเกษตรและยังเป็นนักวิจัยด้วย กล่าวว่า ข้าวพันธุ์ไถหนานเบอร์ 11 มีลักษณะเด่นคือให้ผลผลิตคงที่ ดังนั้นเพื่อต้องการพัฒนาพันธุ์สำหรับการเพาะปลูกแบบออร์แกนิคที่มีผลผลิตคงที่ รสชาติดี จึงนำพันธุ์ข้าวไถหนานเบอร์ 11 ที่มีรูปลักษณ์สวย ผสมกับข้าวพันธุ์ไถหนงเบอร์ 74 ที่มีกลิ่นหอมของเผือกและมีรสชาติดี ทั้งนี้ สภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงจะส่งผลต่อความมีชีวิตชีวาของเกสรข้าวและคุณภาพของเมล็ดข้าว ภายใต้แนวโน้มภาวะโลกร้อน พันธุ์ข้าวจึงจำเป็นต้องมีคุณสมบัติทนความร้อนด้วย ซึ่งทางสถาบันวิจัยการเกษตรได้สร้างเรือนเพาะเพื่อคัดกรองข้าวที่ทนความร้อนเป็นเวลา 3 ปี โดยใช้โรงเรือนแบบเรียบง่ายที่ปิดสนิท ในช่วง 4 สัปดาห์ตั้งแต่ข้าวออกรวงจนถึงเมล็ดข้าวสุก ในช่วงระหว่างวันจะปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นถึง 38°C เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง ไล่หมิงซิ่นยังบอกด้วยว่าตอนเริ่มผสมพันธุ์ยังไม่รู้เลยว่าข้าว "ไถหนงเบอร์ 74" มีคุณสมบัติทนความร้อนเสียด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น ข้าวไถหนงเบอร์ 88 ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนจึงเป็นผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด

    ข้าว"ไถหนงเบอร์ 88" ให้ผลผลิตสูง จากการทดลองปลูกและให้ปุ๋ยที่เหมาะสม ผลผลิตข้าวเปลือกแห้งเฉลี่ย 7 เมตริกตันต่อเฮกตาร์( 1 เฮกตาร์เท่ากับ 6.25 ไร่) หากเทียบกับข้าวไถเกิงเบอร์ 9 มีมากกว่า 15% แต่ถ้าอยู่ภายใต้สภาวะที่มีอุณหภูมิสูง ข้าวไถเกิงเบอร์ 9 จะให้ผลผลิตลดลงกว่า 30% ในขณะที่ข้าวไถหนงเบอร์ 88 ลดลงเพียง 15% ส่วนในกรณีของเมล็ดข้าวมีสีขาวขุ่น หากเปรียบเทียบการปลูกข้าวช่วงที่ 1 กับช่วงที่ 2 ข้าวไถเกิงเบอร์ 9 อัตราส่วนของเมล็ดข้าวมีสีขาวขุ่นอยู่ที่ 1.2 และ 0.6 ส่วนข้าวไถหนงเบอร์ 88 มีเพียง 0.4 และ 0 ตามลำดับ

    ไล่หมิงซิ่น บอกว่า ข้าวไถหนงเบอร์ 88 แตกกอดี รวงยาว และมีเมล็ดขนาดใหญ่ เขารับประกันว่าถ้าใส่ปุ๋ยถึงจะให้ผลผลิตสูงแน่นอน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากต้นข้าวจะสูงกว่าแม่พันธุ์ ดังนั้นถ้าปลูกแบบทั่วไปและให้ปุ๋ยถึงจะทำให้ต้นข้าวล้มง่าย เขาจึงแนะนำให้ปลูกแบบอินทรีย์จะเหมาะกว่าเพราะช่วยลดการใส่ปุ๋ยได้ และทางสถาบันวิจัยการเกษตรยังได้ทำการทดสอบพบว่าการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสมจะให้ผลผลิตใกล้เคียงกันระหว่างการปลูกแบบทั่วไปและปลูกแบบออร์แกนิค นอกจากนี้ข้าวไถหนงเบอร์ 88 ยังผ่านการทดสอบแล้วว่ามีความต้านทานโรคไหม้จากเชื้อราค่อนข้างสูง หลังนำมาหุงเป็นข้าวสุกแล้วยังมีกลิ่นหอมของเผือก เมื่อเคี้ยวจะมีรสหวานด้วย คาดว่าพันธุ์นี้น่าจะได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น เพราะเคี้ยวแล้วเต็มปากเต็มคำ และถ้าเก็บในลักษณะของข้าวเปลือก ข้าวจะค่อยๆ แก่ เก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง 4 เดือนจากนั้นนำไปหุงเป็นข้าวสุกรสชาติของข้าวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ข้าวไถหนง 88 เมล็ดข้าวใหญ่ มีสีขาวขุ่นน้อย(แถวบน) เทียบกับข้าวไถหนาน 11 (แถวล่าง)

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ที่นี่ไต้หวันBy รจรัตน์ ยนต์สุวรรณ, Rti