ที่นี่ไต้หวัน

ที่นี่ไต้หวัน วันอังคารที่ 9 พ.ค.2566


Listen Later

     มีคำกล่าวประโยคหนึ่งบอกว่า “เลือกวัตถุดิบให้ถูกชนิด แม้ปรุงด้วยวิธีที่ง่ายๆ แต่ก็มีความอร่อยได้” ประโยคนี้คงเหมาะกับหน่อไผ่หยก หรือลวี่จู๋สุ่น(綠竹筍) แน่นอน เพราะหน่อไผ่หยกเป็นผลผลิตทางการเกษตรตามฤดูกาล ส่วนใหญ่มีมากในช่วงหน้าร้อนของไต้หวัน เริ่มมีมากกลางเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน และยังเป็นช่วงที่อร่อยที่สุดในบรรดาหน่อไม้ที่มีอยู่ในไต้หวันด้วย ข้อแตกต่างระหว่างหน่อไผ่หยกหรือลวี่จู๋สุ่นกับหน่อไม้อื่นๆ คือ เมื่อหน่อโผล่ขึ้นเหนือพื้นดินมาจะโค้งลงเล็กน้อย จากนั้นจึงชูสูงขึ้น และตัวหน่อไม้จะมีความโค้งคล้ายกับเขาควาย มีโคนกว้าง เนื้อหนา ถือเป็นเอกลักษณะพิเศษของหน่อไม้ชนิดนี้ ซึ่งหน่อที่มีน้ำหนักประมาณ 300-400 กรัม ถือเป็นหน่อที่มีรสชาติอร่อยที่สุดด้วย

     สถานีปรับปรุงพันธุ์พืชเขตเถาหยวนบอกว่า พื้นที่เพาะปลูกหน่อไผ่หยกส่วนใหญ่ปลูกตั้งแต่เมืองซินจู๋ ขึ้นไปทางเหนือ เถาหยวน นิวไทเป กรุงไทเป จนถึงเมืองจีหลง เริ่มมีปริมาณมากกลางเดือนพฤษภาคม มากสุดในเดือนมิถุนายนและอร่อยที่สุดด้วย จากนั้นลดลงในเดือนสิงหาคมและกันยายน ส่วนเคล็ดลับการเลือกซื้อหน่อไผ่หยกให้อร่อย นอกจากมี 5 ประการ คือ ขาว โค้ง สั้น อ้วน คล้ายเขาควายแล้ว เมื่อจับชั่งด้วยมือให้ความรู้สึกมีน้ำหนัก และควรซื้อในช่วงเช้าที่ชาวบ้านเพิ่งเก็บไปขายที่ตลาด หรือซื้อหลังฝนตกก่อนหน้าหนึ่งวันจะมีความอร่อยเช่นกัน

     โดยทั่วไปแล้ว เมื่อหน่อไม้โผล่ขึ้นเหนือดินและถูกแสงแดด มันก็จะสร้างสาร " แทคซิฟิลลิน (taxiphyllin) " ซึ่งเป็นที่มาของความขมที่อยู่ในหน่อไม้ ดังนั้นหน่อไม้ที่มีลักษณะยาวและตรง หรือมีเปลือกสีเขียวมักมีรสขมอยู่ด้วย ส่วนหน่อที่มีรูจากหนอนชอนไชหรือมีแผลเป็น แบบนี้จะมีความแข็ง ควรตัดทิ้งก่อนนำไปปรุงอาหาร ถ้าปลายยอดของกาบใบ (ส่วนบนสุด) เริ่มบานมาก แสดงว่าหน่อไม้นี้ยิ่งแก่ แต่ถ้าปลายยอดกาบใบหุบแน่น หน่อไม้ก็ยิ่งอ่อน และสีของรอยตัดส่วนหัวจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อทิ้งไว้นาน ความอร่อยก็จะลดลงด้วย นอกจากนี้ หากแช่หน่อไม้ไว้ในน้ำนานเกินไป หรือน้ำที่ใช้ไม่สะอาด อาจจะติดเชื้อจุลินทรีย์ได้ง่าย ทำให้มีกลิ่น "ท่อน้ำเหม็น" จึงต้องหลีกเลี่ยงซื้อหน่อไม้แบบนี้

หน่อไผ่หยกในฤดูกาล หวาน อร่อย

     หน่อไผ่หยกหรือลวี่จู๋สุ่นมีเซลลูโลส คาร์โบไฮเดรตต่ำ วิตามิน กรดอะมิโน แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เหล็ก ฯลฯ จัดเป็นอาหารสุขภาพที่ดี ขณะเดียวกันอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร ช่วยย่อยอาหาร กระตุ้นการบีบตัวของทางเดินอาหาร ช่วยขับถ่าย อย่างไรก็ตาม หน่อไม้เป็นผักฤทธิ์เย็น ผู้ที่ระบบทางเดินอาหารทำงานไม่ดี หรือม้ามและกระเพาะอาหารบกพร่อง ไม่ควรบริโภคมากเกินไป และเนื่องจากมีโพแทสเซียมสูง ผู้ที่ไตทำงานไม่ดีควรกินให้น้อยลง ส่วนวิธีการต้มหน่อไม้ ให้นึ่งในหม้อไฟฟ้าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด โดยล้างหน่อไม้แล้วใส่ลงในหม้อใน จากนั้นปิดฝา เติมน้ำ 2 ถ้วยลงในหม้อชั้นนอก (ถ้วยตวงของหม้อไฟฟ้า) หลังนึ่งเสร็จแล้ว ปล่อยให้เย็น แล้วใส่ในตู้เย็นทันที  นอกจากนี้ยังต้มในน้ำได้ด้วย แต่แนะนำให้ต้มพร้อมเปลือกหลังจากล้างแล้ว จะช่วยรักษาความสด ความหวานได้ดีกว่า หลังจากต้มเสร็จแล้ว ปล่อยให้เย็น เก็บหน่อไม้และน้ำที่ต้มไว้ในตู้เย็น เพื่อรักษารสชาติดั้งเดิม และน้ำหน่อไม้มีกลิ่นหอม หวาน ใช้เป็นซุปปรุงอาหารหรือนำมาดื่มได้

หน่อไผ่หยกนิยมผัดกับหมูหั่นชิ้น

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ที่นี่ไต้หวันBy รจรัตน์ ยนต์สุวรรณ, Rti