ฟังธรรมจากพระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม (พระกิตติวิมลเมธี)

ทลายเครื่องร้อยรัดใจ ให้กายใจนี้เป็นที่ตั้งของมรรค - คอร์สอานาปานสติ สถานปฏิบัติธรรมวชิรญาณ (26-28 พ.ค. 66 13/15)


Listen Later

คอร์สอานาปานสติ วันที่ 26-28 พ.ค. 66 นำปฏิบัติโดย พระกิตติวิมลเมธี (สุชีพ สุธมฺโม) วัดบุปผาราม กทม.
ณ สถานปฏิบัติธรรมวชิรญาณ ๒๐๐ ปี วัดบวรนิเวศ


ร่างกาย สังขารของเรา เรามีความคาดหวังว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นๆ แต่ในที่สุดมันแสดงตัวตนออกมาว่าไม่เป็นดังที่เราคาดหวังอยู่ตลอดเวลา และเราก็มีความทุกข์อยู่ทุกขณะที่มีความรู้สึกต่อมัน ถ้าเราเห็นโดยประจักษ์ได้เราก็จะเห็นชัดแจ้งว่ารูปนามนี้เป็นทุกข์ ความทุกข์อยู่ที่รูปนามกายใจนี้ แต่เราพยายามจะหลบหลีกหนีทุกข์ มั่นหมายไว้ว่ามันไม่เป็นทุกข์ ตั้งต้นตั้งแต่การสร้างชื่อสกุล สมมติเป็นเพศหญิงชาย ในตัวรูปนามและสิ่งที่เกี่ยวข้องทั้งหลายก็สมมติตั้งมันว่าเป็นครอบครัว ฐานะ ตำแหน่ง เป็นชื่อ ชั้น ศักดิ์ศรี ในที่สุดสิ่งที่เกิดขึ้นมาเหล่านั้นพังไปไม่เป็นท่า เป็นเหมือนกันโครงของเรือน เหมือนกับบ้านหลังหนึ่งที่พยายามสร้างขึ้นมา เห็นว่าเป็นตัวเป็นตน แล้วในที่สุดก็ค่อยๆทยอยผุพังลงไป ซึ่งทั้งหมดเหล่านั้นมันเกิดขึ้นตลอดเวลา เดี๋ยวมันก็ปรากฏอาการอย่างนั้น อย่างนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่ามันไม่เที่ยงนั่นเอง ถ้าเรามีความรู้โดยประจักษ์ชัดแจ้งว่า มันไม่เที่ยงจริงๆ พระพุทธเจ้าท่านว่า สิ่งทั้งปวงไม่เที่ยง สิ่งใดที่ไม่เที่ยงสิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดที่เป็นทุกข์สิ่งนั้นเป็นอนัตตา

ทั้งหมดมันเป็นเรื่องเดียวกัน คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป มีความเปลี่ยนแปลงแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา แต่ในยามที่มันแสดงอาการชัดแจ้ง กระทบต่อความรู้สึก ต่อความต้องการความคาดหวังของเราเอง เราก็จะรู้สึกได้ว่ามันเป็นทุกข์ เป็นครั้งเป็นคราว แต่แท้ที่จริงมันเป็นอยู่ตลอดเวลา ไม่มีอะไรที่จะเป็นแก่นสารสาระอย่างแท้จริงได้ ถ้าเรามีความรู้ความเข้าใจในสิ่งเหล่านี้ สิ่งนั้นแหละคือสาระ แต่เมื่อใดที่เราไม่มีความรู้ในสิ่งเหล่านี้ นั่นคือความหลง หลงไปในสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ หลงไปในสิ่งที่เป็นสาระโดยความไม่เป็นสาระ มันก็ผิดทางไปหมด ธรรมะมันเลยเกิดไม่ได้

ตั้งแต่เราเกิดมา จิตตัวรู้ที่เป็นนาม ที่อยู่กับกาย รวมกันเป็นชีวิต ตัวอวิชชามันหุ้มห่อไว้ตัวเดียว แต่พอไปเชื่อมต่อกับอายตนะ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการเชื่อมต่อกับสิ่งต่างๆ มันก็ก่อให้เกิดสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริงอยู่อย่างสม่ำเสมอ เช่น เราเป็นทุกข์เพราะความหิว เจ็บปวด ง่วง เกิดเป็นความอยากกิน นอน เคลื่อนไหว แต่ในที่สุดความอยากเหล่านี้ก็ก่อขึ้นมาเป็นเครื่องร้อยรัดใจของเรา เรียกว่า อภิชฌากายคันโถ มันร้อยรัดด้วยความปรารถนาอันเป็นความอยาก แต่ในขณะเดียวกันในสิ่งที่เป็นอนิจจัง นอกจากมันร้อยรัดเราด้วยความอยากแล้วมันก็มีสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ เพราะมันเป็นอนิจจังโดยธรรมชาติ เลยเกิดความไม่พอใจขึ้นมา เมื่อเกิดขึ้นมาบ่อยๆ นอกจากความอยากรัดรึงใจแล้ว ความไม่พอใจก็รัดรึงใจเข้าไปด้วย พระพุทธเจ้าเรียกว่า พยาปาโทกายคันโถ เครื่องร้อยรัดใจคือพยาบาท ความไม่พอใจ ไม่ถูกใจ ความพอใจและไม่พอใจเกิดขึ้นจากการไม่รู้ความเป็นจริงว่าสิ่งทั้งปวงเป็นอนิจจัง เราจึงเป็นทุกข์อยู่กับมัน นอกจากนั้นก็เกิดการตะเกียกตะกาย แสวงหาเพื่อให้ได้สิ่งที่พอใจ ไม่ต้องประสบกับสิ่งที่ไม่พอใจ ด้วยความเห็น ความคิดเข้าใจไปต่างๆนานา เราเกิดความเชื่อในความเข้าใจในความเห็นของเราเองว่าสิ่งนี้ต้องเป็นอย่างนี้ แล้วยึดในความเชื่อนั้น เครื่องร้อยรัดใจอีกอย่าง คือ การเห็นเป็นไปตามความคิดของตนเองว่าเป็นจริง และหมกมุ่นอยู่กับมัน เรียกว่า อิทังสัจจาภินิเวสกายคันโถ คือการยึดมั่นถือมั่นในความเห็นของตนเองว่าสิ่งนี้จริง ทั้งๆที่มันไม่เที่ยง เราเลยมีความทุกข์ซ้อนๆกันอยู่ในรูปนามนี้ แล้วดิ้นรน ตะเกียกตะกายหาที่พึ่ง การปฏิบัติตนไปตามความเชื่อความเห็นที่ผิดๆ จนเกิดเป็นข้อปฏิบัติในการกระทำต่างๆ ที่เรียกว่า สีลัพพตปรามาสกายคันโถ คือ เครื่องร้อยรัด การลูบคลำ ถือการปฏิบัติตัววางตนในรูปแบบที่ผิด อันเกิดจากการไม่มีความรู้ ไม่ยอมรับ เข้าไม่ถึงในเรื่องของความเป็นอนิจจัง ก็เกิดแล้วเป็นทุกข์อยู่ร่ำไป

พระพุทธเจ้าตรัสว่า การเกิดแต่ละครั้งจะเป็นทุกข์ทุกครา คือเกิดด้วยอำนาจของความชอบใจ ไม่ชอบใจ ความยึดถือ ความปฏิบัติตนแบบผิดๆ ตามความเชื่อความเห็นของตนเอง แล้วในที่สุดพอพระพุทธเจ้าตรัสรู้ ท่านก็สอนความจริงอีกแง่นึง แทนที่จะให้รูปนามนี้ไหลไปตามธรรมชาติของมัน ส่วนความคิดของเราที่เป็นอวิชชาก็ไหลไปตามอำนาจของอวิชชา มันขัดแย้งกัน ท่านเลยสอนให้เราอยู่กับความเป็นจริง มีความรู้ ห้เรามอง เดิน ทำ ปฏิบัติตนตามความเป็นจริงอย่างถูกต้อง ให้เอากายใจรูปนามนี้ให้เป็นที่ทำการของมรรค ใช้ชีวิตโดยใช้มรรคเป็นเครื่องดำเนิน ทำให้เรารอดพ้นจากทุกข์อันเกิดขึ้นจากความเป็นอนิจจัง

การให้กายใจนี้เป็นที่ตั้งของมรรคต้องทำอย่างไร ใช้สติที่บริสุทธิ์มีอุเบกขาเป็นฐาน ทลายเครื่องร้อยรัด เมื่ออวิชชาทำการไม่ได้ มรรคจะเป็นตัวทำการ

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ฟังธรรมจากพระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม (พระกิตติวิมลเมธี)By พระอาจารย์สุชีพ สุธัมโม (พระกิตติวิมลเมธี)