Share อานุภาพหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
Share to email
Share to Facebook
Share to X
By Dhamma
The podcast currently has 46 episodes available.
ความไม่หวั่นไหวในโลกธรรม คือ ไม่ไหวเอนไปตามสิ่งรอบข้าง โลกธรรม 8 ประกอบด้วย มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีสรรเสริญ มีนินทา มีสุข มีทุกข์ . ตัวอย่างเรื่องความไม่หมั่นไหวในโลกธรรมของนางกาติยานี . สมัยพุทธกาลมีอุบาสิกา ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะด้านเลื่อมใสมั่นคง ชื่อนางกาติยานี เหตุจากสมัยพระปทุมุตรพุทธเจ้า นางได้เห็นอุบาสิกาผู้เป็นเอตัคทัคคะด้านความลื่อมใสมั่นคง แล้วเกิดศรัทธาอยากเป็นเช่นนั้นบ้าง จึงตั้งจิตอธิษฐาน . สมัยนี้นางกาติยานี เป็นสหายของพระโกฆิกัณณโสณเถระ คืนหนึ่ง ขณะที่พระเถระ กำลังแสดงธรรมโปรดโยมแม่ นางกาติยานีกับนางกาฬีผู้เป็นสหาย ก็ได้ร่วมฟังธรรมอยู่ข้างท้ายพุทธบริษัทนั้นด้วย
บ้านของนางกาติยานีเป็นเศรษฐี โจร 500 เพียรขุดอุโมงจากที่อื่น เข้ามาเชื่อมถึงบ้านของนาง โจรเลือกลงมือในคืนเดียวกันกับวันที่นางกาติยานี ตั้งใจทำบุญใหญ่ด้วยการจุดประทีปบูชา ระหว่างฟังธรรมพระโกฆิกัณณโสณเถระ เมื่อนางให้คนรับใช้ไปหยิบตะเกียงจากบ้านมาเตรียมจุดคืนนั้น คนรับใช้เห็นโจรที่ซุ่มอยู่ เห็นท่าทางไม่ดี จึงรีบหนีเอาตัวรอดมารายงานนางกาติยานี . หัวหน้าโจร เฝ้าดูพฤติกรรมของนางกาติยานี แล้วตั้งสัจจะอธิษฐานว่าหากนางรีบวิ่งกลับบ้านเพราะหวงทรัพย์ ตนจะจัดการกิจปล้น แล้วฆ่าให้ตายเสีย แต่หากนางยังคงยึดมั่นในธรรม ฟังธรรมต่อ ไม่สะทกสะท้าน ตนจะยกเลิก ยุติภารกิจปล้นทันที . เมื่อนางกาติยานีได้ฟังคำคนใช้ จึงกล่าวเป็นทำนองว่า โปรดอย่าเสียงดังตกใจไปเลย โจรทั้งหลายเมื่อจะลักขโมยของก็จะเลือกเอาแต่ทรัพย์สินที่ตนเห็นว่ามีประโยชน์มีคุณค่าเท่านั้น ส่วนเวลาที่นางจะได้ฟังธรรมเหมือนเช่นวันนี้นั้นหาได้ยากนัก ดังนั้นอย่าให้เรื่องโจรขโมยทำลายเวลาฟังธรรมของนางเลย . ฝ่ายหัวหน้าโจร เมื่อได้ยินคำพูดของนางกาติยานีโดยตลอดแล้วเกิดความคิดว่า หากตนและหมู่โจรยังคงปล้น ตนจะทำกรรมหนักต่อหญิงผู้มีศรัทธามั่นคง อาจถึงกับธรณีสูบได้ เขาจึงสั่งให้ลูกน้องนำทรัพย์สินของนางกลับไปคืนไว้ที่เดิมทั้งหมด แล้วพากันมายืนฟังธรรมอยู่ข้างท้ายบริษัทเมื่อจบเทศนาของพระเถระแล้ว นางกาติยานีก็บรรลุเป็นโสดาปัตติผล . หัวหน้าโจรสำนึกผิด ประกอบกับได้ฟังธรรมพระเถระไปด้วย เริ่มซาบซึ้งในธรรม จึงตัดสินใจรีบเข้ามาขอขมานางกาติยานี สารภาพเหตุที่ตนทำไว้ แล้วกราบขอบวชในสำนักของพระโกฆิกัณณโสณเถระทั้งหมด หมู่โจรเองเมื่อได้บวชก็ตัดจากความชั่วทังหลาย พิจารณาตามธรรม ฟังธรรมแล้วได้บรรลุธรรมในที่สุด
การรับฟังข่าวสารใดๆ ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของการพิจารณาอย่างมีสติ ไตร่ตรอง ตื่นทุกเช้าพิจารณามรณานุสสติ ตั้งสัจจะต่อความดีในการดำเนินชีวิตประจำวัน ดำรงอยู่ในหิริโอตตัปปะ ด้วยสติ ด้วยสมาธิ ด้วยเมตตา ———————————————— .
⭕️ ฝากกดติดตาม ⭐️ กดไลค์ กดแชร์... จะได้ไม่พลาดคลิปธรรมะดีๆติดตามฟังธรรมะดีๆและข่าวสารธรรมะได้ที่
facebook : พระมหามิญช์ พุทฺธิวฑฺโฒ
youtube : อนุโมทนาAnumotana , บวชพลิกชีวิต
สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคห้อมล้อมด้วยบริษัทหมู่ใหญ่ ประทับนั่ง แสดงธรรม ได้ทรงจามขึ้น ภิกษุทั้งหลายได้ถวายพระพรเสียงดังว่า “ขอพระผู้มี พระภาคจงทรงพระเจริญพระชนมายุเถิด ขอพระสุคตจงทรงพระเจริญพระชนมายุเถิด พระพุทธเจ้าข้า” การแสดงธรรมต้องหยุดลง เพราะเสียงถวายพระพรนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย เมื่อมีการจาม ผู้ที่ ได้รับพรว่า ‘ขอจงมีอายุยืน’ จะมีชีวิตหรือต้องตายเพราะสาเหตุนั้นละหรือ” ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า “ไม่เลย พระพุทธเจ้าข้า” พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย เมื่อมีการจาม ภิกษุไม่พึงให้พรว่า ‘ขอจงมีอายุยืน’ รูปใดให้ ต้องอาบัติทุกกฏ” สมัยนั้น ในคราวที่ภิกษุทั้งหลายจาม คนทั้งหลายให้พรว่า “ขอท่านทั้งหลาย จงมีอายุยืน” ภิกษุยำเกรงอยู่จึงไม่ยอมให้พรตอบ คนทั้งหลายตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ไฉนพวกพระสมณะเชื้อสายศากยบุตร เมื่อเขาให้พรว่า ‘จงมีอายุยืน’ จึงไม่ให้พรตอบเล่า” ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย คนทั้งหลายต้องการความเป็นสิริมงคล ภิกษุทั้งหลาย เมื่อพวกคฤหัสถ์ให้พรว่า ‘จงมีอายุยืน’ เราอนุญาตให้ภิกษุให้พรตอบ ว่า ‘ท่านก็จงมีอายุยืน”
⭕️ ฝากกดติดตาม ⭐️ กดไลค์ กดแชร์... จะได้ไม่พลาดคลิปธรรมะดีๆติดตามฟังธรรมะดีๆและข่าวสารธรรมะได้ที่
facebook : พระมหามิญช์ พุทฺธิวฑฺโฒ youtube : อนุโมทนาAnumotana , บวชพลิกชีวิต
กัมมุนาวัตตีโลโก = สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม กล่าวถึงพุทธพจน์ที่ว่า มะโนปุพพังคะมา ธัมมา มะโนเสฏฐา มะโนมะยา มะนะสา เจ ปะทุฏเฐนะ ภาสะติ วา กะโรติ วา ตะโต นัง ทุกขะมะนเวติ จักกังวะ วะหะโต ปทัง ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จด้วยใจ เหมือนล้อหมุนตามรอยเท้าโคที่ลากเกวียนไป ฉะนั้น ถ้าคนมีใจชั่ว ก็พูดชั่วหรือทำชั่วตามไปด้วย เพราะความชั่วนั้น ทุกข์ย่อมติดตามเขาไป . สรุปคือใจเป็นใหญ่ เป็นประธาน เมื่อใจคิดนำสิ่งใด ก็เป็นไปแบบที่ใจคิดเช่นนั้น . วันนี้ในอัคคัญญสูตร กล่าวถึงที่มาที่ไปของการมีระบบการเมืองการปกครอง ที่มาที่ไปของมนุษย์ ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน รวมถึงการเกิดของกิเลสตัวแรกๆของมนุษย์ . มนุษย์ยุคแรกตั้งแต่เริ่มมีง้วนดิน กะบิดิน เครือดิน เป็นอาหาร เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างชั้นวรรณะ ผิวพรรณมากเข้าเรื่อยๆ ก็เกิดเป็นความโลภ การมองเปรียบเทียบออกนอกตัว . ร่างกายของมนุษย์มีเสื่อมถอยสภาพลงมาเรื่อยๆ ยุคที่ข้าวสาลีเป็นอาหารหลักของมนุษย์ คนเริ่มมีอวัยวะเพศปรากฏ เมื่อหญิงเพ่งดูชาย ชายเพ่งดูหญิง ก็เกิดความเร่าร้อนกำหนัดขึ้นในใจ จนเกิดราคะ สนใจในต่างเพศ เสพเมถุนธรรมกันในที่สุด . หากใครเจอคนเสพเมถุนธรรมกัน ก็จะถูกถือว่าเป็นเรื่องไม่ดี ถูกขว้างก้อนดินก้อนหินใส่ เมื่อเสพกามจนเป็นความคุ้น จึงต้องเกิดการสร้างบ้านเรือนเพื่อปกปิดการมีเพศสัมพันธ์ . เมื่อเริ่มมีพื้นที่เป็นของตนเอง อยากอยู่ด้วยกัน คนจึงขี้เกียจ เริ่มเก็บตุนข้าวสาลีไว้ที่เรือนของตนเป็นทีละมากๆ เกิดเป็นความโลภ เมื่อทุกเรือนทำเช่นเดียวกัน ข้าวสาลีก็โตไม่ทัน เหี่ยวแห้ง . สัตว์ทั้งหลายจึงประชุม เพื่อหารือซึ่งกันและกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เดิมต่างคนต่างดูแลตนเอง แต่ที่ทุกอย่างเกิดความเสื่อมถอย สิ่งที่เป็นอาหารไม่พอกิน พอใช้ ก็ล้วนเกิดจากการกิเลสของมนุษย์ ที่เริ่มคิดแต่ตนเอง หรือพวกพ้องตนเอง . อยู่ต่อไป เมื่อมีคนเยอะขึ้น จึงเสนอให้เริ่มตั้งหัวหน้า ผู้แบ่งเขต (กษัตริย์ แปลว่า ผู้แบ่ง ผู้ปกครองเขต) คอยเตือน ตัดสินเรื่องราว ปกครองคน มีระบบการปกครองเพื่อให้คนอยู่กันอย่างผาสุข . โดยสรุปคือ แม้ว่าธรรมชาติจะพยายามสร้างสิ่งที่ดีที่สุดมา แต่มนุษย์ก็เป็นปัจจัยหลัก ที่ทำให้เกิดผลกระทบต่างๆทั้งต่อคนรอบข้าง ต่อสภาพแวดล้อมตามมา ทุกล้วนในโลกจึงล้วนเกิดจากความไม่สมบูรณ์ของกาย วาจา ใจของมนุษย์อย่างเราเอง
⭕️ ฝากกดติดตาม ⭐️ กดไลค์ กดแชร์... จะได้ไม่พลาดคลิปธรรมะดีๆติดตามฟังธรรมะดีๆและข่าวสารธรรมะได้ที่
facebook : พระมหามิญช์ พุทฺธิวฑฺโฒ
youtube : อนุโมทนาAnumotana , บวชพลิกชีวิต
แสดงน้อยลงโยมกล่าวทักทายพระกล่าว “นมัสการ” พระทักทายโยมกลับ กล่าว “เจริญพร” พระทักทายพระกล่าว “ถวายความเคารพครับ” . การอนุโมทนาบุญเพียงอย่างเดียวแต่ยังไม่ทันลงมือทำ ก็อาจไม่ใช่หลักการที่ถูกต้องนัก เพียงแต่เป็นกุศโลบายให้รู้จักกล่าวชื่นชมยินดีต่อความดีของผู้อื่น . ยกตัวอย่างอานิสงส์ของการอนุโมทนาบุญ . สามีของธิดาเศรษฐีแห่งเมืองสาวัตถี หลังจากได้ฟังธรรมเป็นเนืองนิตย์ จึงรู้สึกซึ้งในรสพระธรรม ขอออกบวช ฝ่ายภรรยาถูกพาตัวเข้าไปในพระบรมมหาราชวังของพระเจ้าปเสนทิโกศล เพราะเห็นไม่มีใครคอยปกป้อง วันหนึ่งพระองค์เสด็จประพาสอุทยาน ประทานดอกบัวให้บรรดาสาวใช้ในวังคนละดอก เมื่อประทานถึงหญิงคนนี้ก็พลันเห็นอากัปกิริยาของนางแปลกไป เดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวร้องไห้ พระเจ้าปเสนทิโกศลรู้สึกประหลาดใจมากก็เรียกมาถาม นางจึงตอบตามตรงว่า หัวเราะเพราะดีใจ สุขใจ แต่ร้องไห้ก็เพราะดอกบัวที่พระองค์ประทาน เหมือนกลิ่นปากของสามีผู้ไปออกบวชแล้ว เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ทุกครั้ง . พระเจ้าปเสนทิโกศลยังไม่ค่อยเชื่อนัก จึงเสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ถามหาพระผู้มีกลิ่นปากหอมเหมือนดอกบัว ว่ามีอยู่จริงหรือไม่ พระพุทธองค์เมตตาให้พระภิกษุรูปนั้นออกมาสัมโมทนียกถา ซึ่งทันทีที่ท่านเอ่ยปากกล่าวนั้น กลิ่นหอมคล้ายดอกบัวก็ตลบอบอวลไปทั่ว พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงเชื่อนางผู้เป็นภรรยาในที่สุด พระองค์จึงทูลถามถึงกรรมที่ภิกษุรูปนี้ทำจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า . อดีตพระภิกษุ ผู้มีกลิ่นปากหอมดังดอกบัว ด้วยความตั้งใจฟังธรรม แล้วกล่าวคำว่า “สาธุ” อยู่ตลอด ฟังธรรมด้วยความเคารพอยู่เสมอ...อานิสงส์ทำให้มีกลิ่นปากหอมตลบอบอวล . การกล่าวอนุโมทนาบุญ เป็นการเชื่อมใจเราให้คุ้นกับการคิดสิ่งที่เป็นเรื่องบุญกุศล และหมั่นสร้างบรยากาศให้คนรอบข้างตัวเราเป็นบวก ด้วยการกล่าวชื่นชม ยินดีต่อความดี บุญกุศลที่ได้ทำ . ขยายความ . พระอาจารย์ได้มีโอกาสอ่านหนังสือ OGO “O Great One” เป็นการยึดแก่นคำสอนของพระพุทธเจ้ามาถ่ายทอดในรูปแบบสมัยใหม่ คือการส่งเสริมให้คนรู้จักชื่นชมยินดี การให้ความสำคัญกับความสำเร็จของผู้อื่น . สาธุ แปลว่าดีแล้ว การอนุโมทนาบุญ ก็เป็นหลักที่มาจากการให้ความสำคัญแก่ความสำเร็จของผู้อื่น เปรียบเหมือนน้ำมันหล่อเลี้ยงใจ เพื่อชื่นชมสร้าง Small Win สร้างบรรยากาศที่ดีให้แก่ทีม . สิ่งที่เราฝึกมอบให้ผู้อื่นก่อน ย่อมเป็นสิ่งเดียวกับที่เรามักจะได้รับกลับมาจากคนรอบข้าง หากเรารู้จักกล่าวอนุโมทนาบุญ กล่าวชื่นชมความสำเร็จของคนรอบข้าง ณ เวลาที่เราอาจเป็นฝ่ายได้รับ Small Win กับตนเอง ผู้อื่นก็ย่อมอยากสร้างบรรยากาศที่ดี มาแสดงความยินดีกับเราเช่นเดียวกัน Small Win เหล่านี้เป็นเหมือนการฝึกใจเราให้เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง . ส่วนอนุโมทนาบาป คือการกล่าวตอกย้ำ โพนทนา เชียร์ผู้อื่นทำสิ่งที่ไม่ดี ขยาย เล่า นินทาความไม่ดีของผู้อื่นไปเรื่อยๆ เป็นการขยายจิตในทางลบให้เกิดขึ้น ตั้งแต่เกิดในใจผู้พูด และเกิดต่อไปยังผู้อื่นในสังคม
⭕️ ฝากกดติดตาม ⭐️ กดไลค์ กดแชร์... จะได้ไม่พลาดคลิปธรรมะดีๆติดตามฟังธรรมะดีๆและข่าวสารธรรมะได้ที่
facebook : พระมหามิญช์ พุทฺธิวฑฺโฒ
youtube : อนุโมทนาAnumotana , บวชพลิกชีวิต
ข้อนี้ตรงข้ามกับการอนุโมทนาบาป ขยายความคือ บางครั้งเมื่อเราเจอเรื่อง เหตุการณ์กระทบใจ ข่าวในสังคม เราเผลอไปกล่าววาจาสนับสนุนการว่าร้าย ด่าทอกัน หรือแม้แต่การเชียร์ ชมผู้อื่นทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรม ซึ่งถ้ามองเพียงด้านจิตใจ ก็ไม่ส่งผลดีขึ้นต่อทั้งความคิด คำพูด ของเรา รวมถึงยังไม่ดีต่อกระแสภาพรวมสังคม . ยกตัวอย่างเรื่องการยอม เป็นผู้ว่าง่าย พิจารณาตนเองเสมอ จนสามารถบรรลุธรรม ดังเรื่องราวของพระราธะ . ครั้งหนึ่งราธพราหมณ์ เข้ามาขอพระพุทธเจ้าบวชตอนอายุมากแล้ว สงฆ์ทั้งหลายต่างเกรงว่าจะยิ่งเป็นผู้ว่ายากสอนยาก จึงไม่มีใครรับสอน รับมาอยู่ในอุปการะ พระพุทธเจ้าจึงถามว่า มีใครระลึกถึงอุปการคุณของพราหมณ์ผู้นี้ได้บ้าง ครั้งนั้นพระสารีบุตรระลึกได้ว่าเคยรับบิณฑบาตจากพรามหณ์ผู้นี้เป็นข้าวทัพพีหนึ่ง พระพุทธเจ้าสรรเสริญพระสารีบุตรว่ามีความกตัญญู จึงทรงอนุญาตให้พระสารีบุตรเป็นพระอุปัชฌาย์ผนวชให้ เป็นพระสงฆ์องค์แรกที่ใช้การบวชแบบญัตติจตุตถกัมมวาจา . วันหนึ่งท่านพระราธะเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ขอให้พระองค์แสดงธรรมย่อ ๆ ให้ พระพุทธเจ้าจึงตรัสแสงว่า สิ่งใดเป็นมาร จงละสิ่งนั้นเสีย มารคือขันธ์ทั้ง 5 ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ตั้งอยู่ได้ยาก ไม่มีตัวตนบังคับบัญชาไม่ได้ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เหล่านี้ชื่อว่ามาร เธอจงละสิ่งเหล่านี้เสีย พระราธะรับพระโอวาท . พระราธะด้วยความเป็นอาวุโส กว่าจะได้ภัตตาหารก็อยู่ปลายแถว จึงฉันไม่เพียงพอ ร่างกายซูบพร้อมไร้เรี่ยวแรง มีผลทำให้ปฏิบัติธรรมได้ไม่ดี พระสารีบุตรเมื่อรู้ดังนั้นก็พาพระราธะจาริกไปตามที่ต่างๆ ด้วย เมื่อได้รับอาหารเพียงพอ ท่านก็กลับมาร่างกายแข็งแรง มีกำลัง และด้บรรลุอรหันตผล . พระราธะเป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย จะแนะนำสั่งสอนเช่นไรไม่เคยโกรธ พระพุทธองค์จึงทรงให้ภิกษุอื่นถือเป็นแบบอย่าง ต่อมาทรงยกย่องว่าท่านเป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในด้าน ผู้มีปฏิภาณ คือมีญาณแจ่มแจ้งในพระธรรมเทศนา ⭕️ ฝากกดติดตาม ⭐️ กดไลค์ กดแชร์... จะได้ไม่พลาดคลิปธรรมะดีๆติดตามฟังธรรมะดีๆและข่าวสารธรรมะได้ที่ facebook : พระมหามิญช์ พุทฺธิวฑฺโฒ youtube : อนุโมทนาAnumotana , บวชพลิกชีวิต
#ธรรมะคลายทุกข์ #ธรรมะก่อนนอน #ธรรมะหลับ
พระพุทธเจ้ามีจริงหรือ จากบางคำถามที่มีผู้สงสัย ว่าท่านเป็นใคร ทำไมต้องกล่าวเชิงอภินิหาริย์ ? . ตามพระไตรปิฎก พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา มีระบุถึงตอนประสูติ เดินไป 7 ก้าว ไม่ได้มีพูดถึงดอกบัว หากแต่อาจมีการนำความรู้จากตำรา หรือในบันทึกที่พูดถึงพระพุทธเจ้าองค์อื่นมาเสริม ดังนั้นเชิญชวนให้เราไปโฟกัสที่สาระสำคัญ คำสอนของพระองค์มากกว่าการเอาเพียง 1 วรรคในพระไตรปิฎก มาปิดกั้นความเชื่อ ความเข้าใจที่เราควรจะได้รับการถ่ายทอดแนวทางใช้ชีวิตดีๆ .เป็นเรื่องน่าไตร่ตรองตาม ว่าเหตุใดทำไมเกิดมาจึงไม่เท่าเทียม กรรมเป็นเครื่องสร้างความแตกต่างให้กับทุกชีวิตบนโลกนี้ สิ่งสำคัญที่เราเชื่อ ศรัทธาได้จากคำสอนคือแนวทางปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์ แนวทางเพื่อความสำเร็จในชีวิต เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี รวมถึงธรรมะอื่นๆอีกมากมาย จึงเป็นบทพิสูจน์และแนวทางปฏิบัติที่สำคัญ ที่เราควรให้ความสำคัญและนำไปปฏิบัติตามมากกว่า . สัมมาทิฏฐิทั้งหมดที่กล่าวมาทุกวันแล้ว คือการใช้ชีวิตตามการเห็นความจริงของโลกและชีวิต . การต้องกลับไปเกิดใหม่ในสังสารวัฎ การต้องเกิดซ้ำคงไม่ใช่เรื่องที่แต่ละคนอยากจะเป็น เพราะเพียงนึกให้ย้อนกลับไปเริ่มเป็นเด็กใหม่ เริ่มอนุบาล เริ่มต้องเรียนรู้สร้างความสัมพันธ์ เรียนหลายๆอย่างใหม่...เพียงเท่านี้ก็เหนื่อยมากแล้ว เช่นเดียวกับการต้องให้เวียนว่ายตายเกิดใหม่ ก็คงเหนื่องทุกข์ยากมากเช่นกัน . ทุกคนต่างมีเส้นทางอันยาวไกลในชีวิตหนึ่งที่เกิดมา พระพุทธเจ้าเป็นผู้หนึ่งที่เดินนำไปก่อนเราในการเป็นผู้เห็นทุกข์ เห็นว่าการเวียนว่ายตายเกิดเหนื่อย และเป็นผู้ทำวิจัยชีวิตต่อ เพื่อหาหนทางการพ้นทุกข์ . การออกกำลังกายทำให้เราแข็งแรง มีกำลังทุบประตู ออกไปข้างนอกฉันใด การออกกำลังใจก็เช่นกัน เปรียบเหมือนการบริหาร เตรียมใจให้แข็งแรงพอที่จะแหกออกจากคุกแห่งสังสารวัฏ (การเวียนว่ายตายเกิด) ฉันนั้นพุทธพจน์ที่ว่า . อัตตา หิ อัตตโน นาโถ โก หิ นาโถ ปโร สิยา อัตตนา หิ สุทันเตนะ นาถัง ลภติ ทุลลภัง . ตนแล เป็นที่พึ่งของตน คนอื่น ใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้ ก็บุคคลมีตนฝึกฝนดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้ยาก . กล่าวโดยสรุปคือ ผู้ที่ต้องฝึกใจ ฝึกตนไว้ดีแล้ว จึงมีโอกาสเป็นที่พึ่งให้ตนเอง จนสำเร็จ ใช้ชีวิตของตนได้อย่างเป็นสุขได้ ดังนั้นพระพุทธเจ้าเป็นครูผู้หนึ่งของโลกที่มีแนวทางคำสอน ชวนเราให้เห็นทุกข์ และหมั่นฝึกฝนใจ สังเกตตัวเอง เพื่อไปสู่การดับทุกข์ให้ได้ เราจึงควรแก่การเลือกรับคำสอน ไตร่ตรองแล้วนำไปทดลองปฏิบัติตามก่อน เพื่อมีใจที่ผ่องใส จนเป็นที่พึงให้แก่ตนเองได้ ⭕️ ฝากกดติดตาม ⭐️ กดไลค์ กดแชร์... จะได้ไม่พลาดคลิปธรรมะดีๆติดตามฟังธรรมะดีๆและข่าวสารธรรมะได้ที่ facebook : พระมหามิญช์ พุทฺธิวฑฺโฒ youtube : อนุโมทนาAnumotana , บวชพลิกชีวิต
สรุปตำนาน สงกรานต์ คำถามของธรรมบาล” . สิริขึ้นที่หน้า : ฝึกสติว่าทุกเช้า ถ้าเราลองทบทวนชีวิตตนเอง ตื่นขึ้นมาให้ทำตนเป็นความสดใส จึงให้ล้างหน้าตั้งแต่เช้า . กลางวันอยู่ที่หน้าอก : เหมือนฝึกสติต่อว่า เมื่อมีความร้อนไม่ว่าจะทางกาย หรือใจ การนำน้ำมาลูบหน้าอกให้เย็นก็เป็นเหมือนการเตือนสติให้เรารู้ตัว ค่ำสิริอยู่ที่เท้า : เพราะเท้าเป็นสิ่งสำคัญ เดิน ทำกิจกรรมต่างๆมาทั้งวัน จึงให้สติในการดูแลเท้า ล้างเท้าของเราให้สะอาด . ดังนั้นโดยรวมความเชื่อผ่านคำสอนเรื่องตำนานสงกรานต์ คือกุศโลบายให้คนเราฝึกสติ . ช่วงนี้ที่โควิด 19 ระบาดครั้งใหญ่อีกครั้ง ก็เชิญชวนทุกท่านมีสติ อย่าตื่นตระหนกเกินไป รักษาร่างกายเราให้แข็งแรง . ธรรมบทใน อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปาปวรรคที่ ๙ . “บุคคลที่ทำกรรมชั่วไว้ หนีไปแล้วในอากาศ ก็ไม่พึงพ้นจากกรรมชั่วได้, หนีไปในท่ามกลางมหาสมุทร ก็ไม่พึงพ้นจากกรรมชั่วได้, หนีเข้าไปสู่ซอกแห่งภูเขา ก็ไม่พึงพ้นจากกรรมชั่วได้, (เพราะ) เขาอยู่แล้วในประเทศแห่งแผ่นดินใด พึงพ้นจากกรรมชั่วได้, ประเทศแห่งแผ่นดินนั้น หามีอยู่ไม่.” . ในสมัยพุทธกาลมีเรื่องราวเกิดขึ้นดังนี้ . กาตัวหนึ่งบินอยู่ ถูกเส้นฟางที่ปลิวติดไฟ ปลิวไปติด จนกาถูกไฟไหม้ไปทั้งตัว ตกลงมาที่พื้น ตายทันที . นางผู้เป็นภรรยานายเรือผู้หนึ่ง ถูกจับฉลากออกว่าตนเป็นกาลกิณีเรือ จะเป็นภัยต่อคนหมู่มาก โดนจับฉลากแบบนี้อยู่ 3 ครั้ง จนนายเรือผู้เป็นสามีเอง ก็จำเป็นต้องเชื่อ และรักษาหมู่คณะใหญ่ที่เหลือไว้ก่อน จนตัดสินใจให้คนโยนนางลงน้ำ ถูกหมู่ปลา และสัตว์ต่างๆรุมกินจนตาย . พระภิกษุ 7 รูปเข้าไปในถ้ำ อยู่ๆดันมีแผ่นหินใหญ่เลื่อนลงมาปิดปากถ้ำ ต้องอดอาหาร 7 วันอยู่ในนั้นร่วมกัน พอวันที่ 7 แผ่นหินก็เปิดออกเอง . พระภิกษุได้ฟังเรื่องทั้งสาม ก็สงสัยใคร่รู้ นำไปกราบทูลถามพระพุทธเจ้า พระองค์ตรัสอธิบายว่า . กาเคยเกิดเป็นคนเลี้ยงโค ใช้งานโคหนักไปเรื่อยๆ แต่พอวันหนึ่งโคแก่ตัวลง ทำงานหนักไม่ไหวเท่าเดิม ตนจึงโกรธ เอาฟางชุบน้ำมันรัดคอโค แล้วจุดไฟ . นางผู้เป็นกาลกิณี อดีตเคยเป็นหญิงสวยคนหนึ่ง นางเดินไปไหนก็ต้องมีแต่สุนัขเดินตาม จนมีชาวเมืองแซว นางเกิดความอับอายมาก จึงพยายามเอาก้อนหินปาใส่สุนัข พระพุทธเจ้าตรัสอธิบายว่า สุนัขนั้นก็คืออดีตสามีของนางมาถึง 3 ชาติ จึงเกิดความรักใคร่เดินตามนางอยู่เรื่อยๆ ฝ่ายหญิงสาวไม่ต้องการให้ตนถูกแซวหนัก โกรธสุนัข จึงนำตัวสุนัขไปถ่วงน้ำ จนตาย นางเวียนว่ายตายเกิดโดนถ่วงน้ำมา 100 ชาติแล้ว . อดีตภิกษุ 7 รูปก็คือเด็กชายซุกซน เล่นสนุกเพราะเห็นตัวตะกวดเข้าไปในจอมปลวก ด้วยความนึกสนุก จึงเผลอไปเล่นขังตะกวดไว้ในนั้น 7 วันผ่านไป นึกได้ จึงกลับไปดูแล้วเอาดินต่างๆที่ปิดไว้ออก ตะกวดออกมาด้วยความหิวโซเพราะอดอาหาร เด็กชายเกิดความรู้สึกผิด รีบปล่อยตัวตะกวดเหล่านั้นไป . วันนี้ที่กล่าวอธิบายถึงสัตว์ที่เกิดแบบโอปปาติกะมีอยู่จริง คือสัตว์ที่เกิดแล้วโตเลยมีอยู่ หมายถึงจำพวก เทวดา สัตว์นรก ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่เราไม่เห็นภาพสำหรับยุคนี้ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับชีวิตตอนนี้ คือตัวเราทุกคนควรโฟกัสที่ตนเอง ฝึกนิสัยที่ดีเพื่อสั่งสมความดี ได้พัฒนาตนเองในทุกวัน ⭕️ ฝากกดติดตาม ⭐️ กดไลค์ กดแชร์... จะได้ไม่พลาดคลิปธรรมะดีๆติดตามฟังธรรมะดีๆและข่าวสารธรรมะได้ที่ facebook : พระมหามิญช์ พุทฺธิวฑฺโฒ youtube : อนุโมทนาAnumotana , บวชพลิกชีวิต
วันนี้ตั้งคำถามว่าคนที่ควรเคารพเป็นอย่างไร โดยขยายความจากสัมมาทิฏฐิข้อที่สาม “การบูชาบุคคลที่ควรบูชามีผล” ดังพุทธพจน์ “ปูชา จะ ปูชะนียา นัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง การบูชาบุคคลที่ควรบูชา เป็นมงคลอันสูงสุด” . การบูชา ประกอบด้วย 2 ด้านได้แก่ อามิสบูชา หมายถึงการบูชาด้วยสิ่งของ ทรัพย์ วัตถุ ปฏิบัติบูชาหรือธรรมบูชา หมายถึงการปฏิบัติตามคำแนะนำ คำสั่งสอน ของบุคคลเหล่านั้น . ตัวอย่างของอามิสบูชา ดังเรื่องนี้ ครั้งหนึ่งใน “วิมานวัตถุ” เล่าถึงตอนที่พระโมคัลลานะไปเยี่ยม เทพธิดา เทวดาบนสวรรค์ ท่านเห็นวิมานของเทพธิดาท่านหนึ่งเต็มไปด้วยดอกสาละ จึงสนทนาถามตอบด้วยอยากรู้ว่าเทพธิดา ทำกุศลใดมา นางก็เล่าว่าเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ตนเป็นคนรับใช้อยู่ในบ้านเศรษฐีท่านหนึ่ง เมื่อวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาเยือน แสดงธรรมอยู่ นางก็หลีกไปฟังธรรมใต้ต้นสาละ เก็บดอกไม้มาปู รวมถึงร้อยเรียง แล้วโปรยรับพระพุทธเจ้า จากนั้นตนก็สั่งสมบุญกุศลมาตลอดชีวิต ละจากโลกจึงได้ไปเกิดเป็นเทพธิดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ . ปฏิบัติบูชา หมายรวมถึงคำพูด ด้วยความเคารพ การแสดงออกซึ่งความรักต่อกัน ตัวอย่างคุณแม่ผู้หนึ่งที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก ครั้นแค่เห็นสุนัขแม่ ลูกกำลังป้อนอาหารให้กัน ก็พลันคิดได้ว่า ขนาดสุนัข ยังรัก ยังมีเวลาที่ดูแลลูกของมัน แล้วเหตุใดเราจะมัวทำแต่งานโดยไม่มีเวลาแสดงความรักต่อลูก . “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...” . การบูชาด้วยธรรมเป็นเลิศสูงสุด เพราะเป็นการฝึกปฏิบัติตนให้ตั้งอยู่ในธรรม เราควรฝึกตั้งคำถามว่าเราจะบูชาใครไปเพื่ออะไร . พระอรหันต์บางรูป เช่นพระพาหิยะ ถูกวัวขวิดตายอยู่ข้างถนน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าให้พาไปชำระร่าง แล้วให้ไปบรรจุพระธาตุในเจดีย์ ตั้งอยู่ในจุดที่ผู้คนมาสักการะบูชาได้ อย่างน้อยเมื่อคนพบเห็น ก็จะได้ระลึก นึกถึงคุณความดีของท่าน หากเราสามารถมองเห็นคุณความดีของใครได้ คนคนนั้นคือคนที่ควรค่าแก่การบูชา . ตอนที่เราแสดงความเคารพต่อบุคคลที่เราบูชา มือที่พนมยกสูงขึ้นเวลาเราน้อมไหว้ คืออาการที่เราพร้อมน้อมรับคุณความดีจากเค้ามาถึงเรา เป็นการลดทิฏฐิ อัตตา ตัวตนว่า “ฉันแน่ ฉันเก่ง ฉันยิ่งกว่าใคร” ออกไป . สิ่งสำคัญที่สุด สำหรับการบูชาบุคคลที่ควรบูชา คือการที่เราเห็นคุณความดีของผู้อื่น พร้อมที่จะน้อมรับสิ่งดีๆของเค้ามาถึงเรา . ในชีวิตจริงเราอาจต้องพบเจอกับบุคคลที่เราไม่ควรบูชา เช่นคนที่เสื่อมจากศีลธรรม ชักนำไปในทางที่ไม่ดี ซึ่งเราจำเป็นต้องหลีกห่าง ไม่อยู่ใกล้ . ในทางกลับกันหากเราเจอบุคคลที่ควรบูชา เราสามารถน้อมรับความคิดของเค้า เพื่อนำมาปรับ ประยุกต์ใช้ได้ ดังตัวอย่างโซนชาติตะวันตก แม้จะไม่พบเห็นธรรมเนียมการไหว้ครู หรือการแสดงความเคารพอย่างชัดเจนใดๆเหมือนชาวตะวันออก แต่จะเห็นว่าวิชาความรู้ต่างๆ ที่เป็นศิลปวิทยาการ เทคโนโลยีของเค้ามีความก้าวหน้า และได้รับการพัฒนาต่อยอดแนวคิด จนเกิดสิ่งใหม่ๆอย่างสม่ำเสมอ แสดงว่าลูกศิษย์ ผู้ที่ศึกษาต่อจากอาจารย์ นักวิทยาศาสตร์รุ่นเดิมๆ เค้ามีการสืบทอดความรู้ น้อมรับแนวคิดจนเข้าใจ จนสามารถต่อยอดเป็นความรู้ที่ทันสมัย และเป็นประโยชน์มากขึ้นตามมาได้ ดังจะเห็นตัวอย่างการทำวิทยานิพนธ์ หรือการค้นคว้าเพื่อวิจัยงานใดๆ ต้องมี Literature Review เพื่อเป็นการศึกษา อ้างอิงความรู้เก่า น้อมรับแนวคิดเดิมของคนที่ศึกษาแล้วประสบความสำเร็จมาก่อนหน้า เพื่อนำมาประยุกต์จนเกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่ . วุฒิธรรม 4 ประการ เป็นหลักธรรมที่ทำให้เกิดความเจริญงอกงาม . 1.สัปปุริสสังเสวะ (คบสัตบุรุษ) หมายถึง “หาครูดีให้พบ” . 2. สัทธัมมัสสวนะ (ฟังธรรม) หมายถึง “ฟังคำครูให้ชัด” . 3. โยนิโสมนสิการะ (ตริตรองธรรม) หมายถึง “ตรองคำครูให้ลึก” . 4. ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ (ปฏิบัติสมควรแก่ธรรม) หมายถึง “ทำตามครูให้ครบ” หากสามารถปฏิบัติตามหลักกวุฒิธรรม 4 แล้ว ถือเป็นการบูชาที่สมควรที่ชาวพุทธพึงปฏิบัติ
#ธรรมะคลายทุกข์
พระพุทธเจ้าตรัสประเภทของการไปเกิด มาเกิดของคนไว้ 4 ประเภทดังนี้
1 มามืดไปมืด คือ คนที่เกิดมาอยู่ในสิ่งแวดล้อมมีต้นทุนชีวิตที่ไม่ดี แล้วยังใช้ความไม่พร้อมนั้นเป็นข้ออ้างของชีวิต ยังคงกระทำความชั่ว หรือสั่งสมนิสัยที่ไม่ดี ละโลกก็ไปแบบไม่ดีเช่นเดิม .
2 มามืดไปสว่าง คือคนที่เกิดมาอยู่ในสิ่งแวดล้อมมีต้นทุนชีวิตที่ไม่ดี แต่ไม่คิดน้อยใจ ขวนขวายหาสิ่งที่พัฒนาตนเอง พาตัวเองก้าวหน้า สั่งสมความดี จนเมื่อจะละโลกก็ไปดี .
3 มาสว่างไปมืด คือคนที่เกิดมาอยู่ในสิ่งแวดล้อมมีต้นทุนชีวิตที่ดี แต่ใช้ชีวิตอย่างประมาท มีนิสัยที่แย่ ทำความชั่ว จนเมื่อละโลกก็ไปไม่ดี . 4 มาสว่างไปสว่าง คือคนที่เกิดมาอยู่ในสิ่งแวดล้อมมีต้นทุนชีวิตที่ดี ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต สั่งสมความดี เมื่อละโลกก็ไปดี .
ไม่สำคัญว่าเราทำอะไรมา แต่สิ่งสำคัญกว่าคือทำปัจจุบันให้ดียิ่งๆขึ้นไป . ธรรมะของพระพุทธเจ้า หลายหมวดธรรมเป็นก้นหอย คล้ายกับ ความเข้าใจหมวดธรรมแล้วนำไปใช้ เข้าใจถูกครั้งที่หนึ่ง เมื่อทำจนเข้าใจขึ้นเรื่อยๆแล้ว ก็เกิดความเข้าใจที่ลึกยิ่งกว่าขั้นแรก วนซ้ำหลายๆรอบ . สัมมาทิฏฐิ ความเชื่อความศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญา ซึ่งส่งผลให้เราคิด พูด ทำดี สิ่งที่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง เปรียบเทียบกับความเชื่อ (ประสบการณ์การรับรู้ที่ก่อให้เกิดความเชื่อ) ทำให้เรารู้ว่ากินยาพิษแล้วจะตาย ทั้งๆที่เราเองก็ยังไม่เคยลองกินยาพิษเลย ฉันใดก็ฉันนั้น การมีสัมมาทิฏฐิก็เป็นการสั่งสมความเชื่อเชิงลึกในทางที่ดี เพื่อไม่ประมาท เผลอทำความชั่ว แต่หมั่นประกอบเหตุแต่ในทางที่ดี
#ธรรมะคลายทุกข์ #ธรรมะก่อนนอน #ธรรมะหลับสบาย สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปในมคธชนบท พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ประมาณ ๕๐๐ รูป ได้เสด็จถึงพราหมณคามของชาวมคธชื่อขานุมัตต์ ได้ยินว่า สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จประทับอยู่ในสวนอัมพลัฏฐิกา ใกล้บ้านขานุมัตต์. สมัยนั้น พราหมณ์ กูฏทันตะอยู่ครองบ้านขานุมัตต์ อันคับคั่งด้วยประชาชนและหมู่สัตว์ อุดมด้วยหญ้า ด้วยไม้ ด้วยน้ำ สมบูรณ์ด้วยธัญญาหาร ซึ่งเป็นราชสมบัติ อันพระเจ้าแผ่นดินมคธ จอมเสนา พระนามว่า พิมพิสาร พระราชทานปูนบำเหน็จให้เป็นส่วนพรหมไทย. มหายัญของกูฏทันตพราหมณ์ ก็สมัยนั้น พราหมณ์กูฏทันตะ ได้เตรียมมหายัญโคผู้ ๗๐๐ ลูกโคผู้ ๗๐๐ ลูกโคเมีย ๗๐๐ แพะ ๗๐๐ และแกะ ๗๐๐ ถูกนำเข้าไปผูกไว้ที่หลักเพื่อบูชายัญ. พราหมณ์ และคฤหบดีชาวบ้านขานุมัตต์ได้สดับว่า พระสมณโคดม ศากยบุตร ทรงผนวชจากศากยสกุล เสด็จจาริกไปในมคธชนบท พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ ๕๐๐ รูป เสด็จถึงบ้านขานุมัตต์ ประทับอยู่ในสวนอัมพลัฏฐิกา ใกล้บ้านขานุมัตต์ กิตติศัพท์อันงามของท่านพระสมณโคดม พระองค์นั้นขจรไปแล้วอย่างนี้ว่า ว่าด้วยพระพุทธคุณ แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มี ผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกพระธรรม พระตถาคตพระองค์นั้นทรงทำโลกนี้ พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ให้แจ้งชัดด้วย พระปัญญาอันยิ่งของพระองค์เองแล้ว ทรงสอนหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ ให้รู้ตาม ทรงสอนธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถพร้อมทั้งพยัญชนะบริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ก็การเห็นพระอรหันต์ทั้งหลาย เห็นปาน นั้น ย่อมเป็นการดีแล ดังนี้. ครั้งนั้น พราหมณ์และคฤหบดีชาวบ้านขานุมัตต์ออกจากบ้าน ขานุมัตต์เป็นหมู่ๆ พากันไปยังสวนอัมพลัฏฐิกา. ⭕️ ฝากกดติดตาม ⭐️ กดไลค์ กดแชร์... จะได้ไม่พลาดคลิปธรรมะดีๆติดตามฟังธรรมะดีๆและข่าวสารธรรมะได้ที่ facebook : พระมหามิญช์ พุทฺธิวฑฺโฒ youtube : อนุโมทนาAnumotana , บวชพลิกชีวิต
The podcast currently has 46 episodes available.
56 Listeners