
Sign up to save your podcasts
Or


6 ปีที่แล้ว Lush เปิดตัว ‘Lush Kitchen’
ออกสินค้ารุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด ต่างกันไปในแต่ละวัน ไม่วางหน้าร้าน จำหน่ายทางเวปไซท์ของ Lush เท่านั้น
และได้สร้างพื้นที่โชว์รูมของแบรนด์ เพื่อ
- ย่อจำลองกระบวนการผลิตของ Lush (ซึ่งไม่เรียกว่าโรงงาน แต่เรียกว่า ‘ห้องครัว’) เผยเบื้องหลังการทำสินค้า
- จัดกิจกรรมเวิร์คช็อป (ให้กับแฟนๆ / อินฟลูเอ็นเซอร์ / สื่อต่างๆ)
- รวมทั้งเป็นที่ผลิตสินค้ารุ่นพิเศษประจำวันด้วย
แนวคิดคือการสร้างสัมพันธ์กับฐานแฟนของ Lush ให้แน่นแฟ้น สดใหม่ มีสีสัน อยู่เสมอ
และทดสอบตลาด ไอเดียสินค้าใหม่ๆ ไปพร้อมกัน เป็นข้อต่อสำคัญคั่นกลาง ระหว่างการวิจัยและพัฒนาสูตรและไอเดีย กับการผลิตจริงเพื่อวางจำหน่ายทั่วไป
ทว่า Lush Kitchen ได้ยุติไปในปี 2017
ก่อนจะกลับมาเปิดตัวอีกครั้ง เมื่อกลางปี 2020
ในรูปแบบของกล่องสมาชิกรายเดือน (subscription box)
.
ภายใน Lush Kitchen Box บรรจุ exclusive products 4-5 ชิ้น โดยสมาชิกจะโหวตเลือกจากเมนูประจำเดือน และมีสินค้าเซอร์ไพรส์อีก 1-2 ชิ้น ที่ Lush เลือกให้
ปฏิทินประจำเดือน เริ่มจากทุกวันที่ 24 จะเปิดเมนูเดือนต่อไป / ปิดโหวตวันที่ 5 / วันที่ 6 ตัดเงิน / วันที่ 9 เริ่มผลิต / สิ้นเดือนส่งของ
ลูกค้าที่สนใจ สมัครสมาชิก Lush Kitchen Box ได้ที่เวปไซท์ของ Lush โดยคิดราคา 35 ปอนด์ต่อเดือน ส่งฟรีสำหรับในประเทศอังกฤษ
แต่สั่งได้ทั่วโลก โดยบวกค่าส่งเพิ่ม ตามอัตราที่กำหนด
.
Lush เลือกกลไกการโหวต เป็นหลักในการเลือกผลิตภัณฑ์ประจำเดือน น่าจะเป็นเพราะ
(1) ได้ข้อมูลความคิดเห็นของลูกค้าทันที โดยยังไม่ต้องผลิตสินค้า
(2) ลูกค้าก็รู้สึกว่าได้เลือก ได้มีส่วนร่วม (participate) โดยที่ก็อาจไม่ได้สินค้าตามที่ตัวเองเลือกเลย แต่ยอมรับกติกา
(3) ทาง Lush ก็ประหยัดทรัพยากรที่สุด เพราะไม่ต้องทำสินค้าแตกต่างหลากหลายไปตามแต่ละคน (ไม่ต้อง personalize) ทุกคนได้เหมือนกัน แต่ไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด (ก็ให้โหวตมาแล้วไง)
(4) เวลาแต่ละคนโหวตเสร็จ ก็ให้คนอยากแชร์การโหวตของตัวเอง เผื่อจะ อยากชักจูงให้คนมาโหวตตามกัน หรืออะไรก็แล้วแต่ .. แต่ที่เกิดขึ้นแน่ถ้าแชร์ คือการสื่อสารการตลาดให้ Lush
.
การเปิดตัว Kitchen Box เกิดขึ้นหลังจาก Lush ตัดสินใจยุติสินค้า 150 รายการ (ซึ่งมีทั้ง bath bombs เมคอัพ ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย และ ดูแล เส้นผม) เพื่อโฟกัสให้เกิดผลประกอบการที่ดีขึ้น ด้วยสินค้าที่น้อยลง
อย่างไรก็ตาม Lush กล่าวว่า Kitchen Box จะมีสินค้ายอดนิยมในอดีตบาง ตัว มาร่วมให้โหวตในเมนูประจำเดือนด้วย ซึ่งถ้าคะแนนมากพอก็จะกลับมา ผลิตใหม่
.
นอกจากสินค้าในกล่องประจำเดือนแล้ว ผู้สมัครจะกลายมาเป็นสมาชิกของ ชุมชน Lush Kitchen มีสิทธิพิเศษเข้าถึงโลกของ Lush (ซึ่งรายละเอียดจะ เผยต่อไป)
ในหน้าสมัครสมาชิกในเวป อธิบายไว้ว่า Lush Kitchen Box จะโยงเข้ากับ Lush Labs
(แพล็ทฟอร์มเชิงทดลอง เพื่อสร้างชุมชนออนไลน์ของ Lush)
.
“ผมรักที่จะสร้างความสัมพันธ์อันแข็งแรง และการพูดคุยกันในชุมชน ออนไลน์ของ Lush”
Jack Constantine ลูกชายผู้ก่อตั้ง และ Lush Chief Digital Officer กล่าว
“มันน่าตื่นเต้นมาก ที่จะได้ฟังเสียงของชุมชน ตอบสนองความคิดเห็นของ ชุมชน และได้สร้างสินค้าที่ลูกค้ารัก ไม่ว่าจะเป็นไอเดียใหม่เอี่ยม หรือสินค้า คลาสสิคพลิกมุมใหม่ ...”
“และ Lush Kitchen Box เป็นวิธีที่เพอร์เฟ็ค ในการทำเช่นนั้น”
By maXkin update6 ปีที่แล้ว Lush เปิดตัว ‘Lush Kitchen’
ออกสินค้ารุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด ต่างกันไปในแต่ละวัน ไม่วางหน้าร้าน จำหน่ายทางเวปไซท์ของ Lush เท่านั้น
และได้สร้างพื้นที่โชว์รูมของแบรนด์ เพื่อ
- ย่อจำลองกระบวนการผลิตของ Lush (ซึ่งไม่เรียกว่าโรงงาน แต่เรียกว่า ‘ห้องครัว’) เผยเบื้องหลังการทำสินค้า
- จัดกิจกรรมเวิร์คช็อป (ให้กับแฟนๆ / อินฟลูเอ็นเซอร์ / สื่อต่างๆ)
- รวมทั้งเป็นที่ผลิตสินค้ารุ่นพิเศษประจำวันด้วย
แนวคิดคือการสร้างสัมพันธ์กับฐานแฟนของ Lush ให้แน่นแฟ้น สดใหม่ มีสีสัน อยู่เสมอ
และทดสอบตลาด ไอเดียสินค้าใหม่ๆ ไปพร้อมกัน เป็นข้อต่อสำคัญคั่นกลาง ระหว่างการวิจัยและพัฒนาสูตรและไอเดีย กับการผลิตจริงเพื่อวางจำหน่ายทั่วไป
ทว่า Lush Kitchen ได้ยุติไปในปี 2017
ก่อนจะกลับมาเปิดตัวอีกครั้ง เมื่อกลางปี 2020
ในรูปแบบของกล่องสมาชิกรายเดือน (subscription box)
.
ภายใน Lush Kitchen Box บรรจุ exclusive products 4-5 ชิ้น โดยสมาชิกจะโหวตเลือกจากเมนูประจำเดือน และมีสินค้าเซอร์ไพรส์อีก 1-2 ชิ้น ที่ Lush เลือกให้
ปฏิทินประจำเดือน เริ่มจากทุกวันที่ 24 จะเปิดเมนูเดือนต่อไป / ปิดโหวตวันที่ 5 / วันที่ 6 ตัดเงิน / วันที่ 9 เริ่มผลิต / สิ้นเดือนส่งของ
ลูกค้าที่สนใจ สมัครสมาชิก Lush Kitchen Box ได้ที่เวปไซท์ของ Lush โดยคิดราคา 35 ปอนด์ต่อเดือน ส่งฟรีสำหรับในประเทศอังกฤษ
แต่สั่งได้ทั่วโลก โดยบวกค่าส่งเพิ่ม ตามอัตราที่กำหนด
.
Lush เลือกกลไกการโหวต เป็นหลักในการเลือกผลิตภัณฑ์ประจำเดือน น่าจะเป็นเพราะ
(1) ได้ข้อมูลความคิดเห็นของลูกค้าทันที โดยยังไม่ต้องผลิตสินค้า
(2) ลูกค้าก็รู้สึกว่าได้เลือก ได้มีส่วนร่วม (participate) โดยที่ก็อาจไม่ได้สินค้าตามที่ตัวเองเลือกเลย แต่ยอมรับกติกา
(3) ทาง Lush ก็ประหยัดทรัพยากรที่สุด เพราะไม่ต้องทำสินค้าแตกต่างหลากหลายไปตามแต่ละคน (ไม่ต้อง personalize) ทุกคนได้เหมือนกัน แต่ไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด (ก็ให้โหวตมาแล้วไง)
(4) เวลาแต่ละคนโหวตเสร็จ ก็ให้คนอยากแชร์การโหวตของตัวเอง เผื่อจะ อยากชักจูงให้คนมาโหวตตามกัน หรืออะไรก็แล้วแต่ .. แต่ที่เกิดขึ้นแน่ถ้าแชร์ คือการสื่อสารการตลาดให้ Lush
.
การเปิดตัว Kitchen Box เกิดขึ้นหลังจาก Lush ตัดสินใจยุติสินค้า 150 รายการ (ซึ่งมีทั้ง bath bombs เมคอัพ ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย และ ดูแล เส้นผม) เพื่อโฟกัสให้เกิดผลประกอบการที่ดีขึ้น ด้วยสินค้าที่น้อยลง
อย่างไรก็ตาม Lush กล่าวว่า Kitchen Box จะมีสินค้ายอดนิยมในอดีตบาง ตัว มาร่วมให้โหวตในเมนูประจำเดือนด้วย ซึ่งถ้าคะแนนมากพอก็จะกลับมา ผลิตใหม่
.
นอกจากสินค้าในกล่องประจำเดือนแล้ว ผู้สมัครจะกลายมาเป็นสมาชิกของ ชุมชน Lush Kitchen มีสิทธิพิเศษเข้าถึงโลกของ Lush (ซึ่งรายละเอียดจะ เผยต่อไป)
ในหน้าสมัครสมาชิกในเวป อธิบายไว้ว่า Lush Kitchen Box จะโยงเข้ากับ Lush Labs
(แพล็ทฟอร์มเชิงทดลอง เพื่อสร้างชุมชนออนไลน์ของ Lush)
.
“ผมรักที่จะสร้างความสัมพันธ์อันแข็งแรง และการพูดคุยกันในชุมชน ออนไลน์ของ Lush”
Jack Constantine ลูกชายผู้ก่อตั้ง และ Lush Chief Digital Officer กล่าว
“มันน่าตื่นเต้นมาก ที่จะได้ฟังเสียงของชุมชน ตอบสนองความคิดเห็นของ ชุมชน และได้สร้างสินค้าที่ลูกค้ารัก ไม่ว่าจะเป็นไอเดียใหม่เอี่ยม หรือสินค้า คลาสสิคพลิกมุมใหม่ ...”
“และ Lush Kitchen Box เป็นวิธีที่เพอร์เฟ็ค ในการทำเช่นนั้น”