ธรรมบรรยาย โดย พระอาจารย์นาวี ปิยทัสสี

เรา คือผลผลิตของเวลา Group Sitting 2024-09-01


Listen Later

ในชีวิตประจําวัน เราจะรับรู้ในระดับสมมติ มีฉันมีเธอ มีสัตว์มีบุคคลตัวตน แต่พอเราเข้ามาสู่โหมดของวิปัสสนา หนึ่งชั่วโมงนั่นคือเราเข้าไปสู่การรับรู้ในระดับปรมัตถ์ .นี่เป็นเพียงความจํานะ นี่คือความรู้สึกเวทนานะ อันนี้คือคือสังขารคือความรักความชังชอบไม่ชอบ ตัววิปัสสนาจะปลดเปลื้องความยึดความติดในสมมติในโลกบัญญัติ

.

เมื่อจิตรู้ประจักษ์ชัด สภาวะการทํางานของสัญญาและเวทนาในระดับกามภูมิแล้ว ความงดงามของธรรมะก็จะเคลื่อนจากกามสัญญาไปสู่รูปสัญญา เราอย่าลืมนะ ในระดับรูปปสัญญามี ๔ ขั้นใช่มั้ย ขั้นที่ ๓ เหล่าพระอริยเจ้าบุคคลผู้หลุดพ้นโดยสมบูรณ์แล้วท่านเหล่านั้นจะมีความสุขอยู่กับวิหารธรรมก็คือในฌานที่ ๓ ที่เราเคยได้ยินได้ฟังว่า เป็นความสุขที่พระอริยเจ้าทรงสรรเสริญเป็นวิหารธรรม ในระดับรูปสัญญานะ

.

จิตของท่านเหล่านั้นไม่อาศัยกามสัญญาเป็นวิหารธรรม เป็นความสุข ในระดับเนกขัมมะสุข เป็นความสุขในระดับรูปสัญญาระดับที่ ๓พอเลยระดับที่ ๓ ไปแล้วเวทนาก็จะเป็นตัวอุเบกขาไปแล้ว เป็นความอัศจรรย์มากว่าเมื่อจิตได้บรรลุถึงระดับรูปสัญญาแล้ว ข้ามพ้นกามสัญญาไปแล้ว อกุศลธรรมทั้งหลาย ความยึด-ความติดทั้งหลาย สิ่งร้อยรัดทั้งหลายอภิชฌาและโทมนัส ดับไปหมดเลย

.

ในขณะที่จิตดํารงอยู่ในสมาธิจิตแต่ละระดับชั้น นั่นคือเหตุผลว่าทําไมอัปปนาสมาธิทั้ง ๔ ขั้น ฌานทั้ง ๔ถึงนับเนื่องเป็นองค์ประกอบเป็นเครื่องมือสู่การบรรลุธรรม เป็นมรรคเป็นองค์ประกอบองค์สุดท้าย มรรคมีองค์แปดนะ

.

เราจะรับรู้ในส่วนวิบากของอันไหน เมื่อฌานที่ ๔ ดับไป วิบากเนื่องด้วยรูปดับไปแล้ว อาสวะที่อาศัยเรือนกายดับไปหรือยัง อาสวะที่เราเคยได้ยินได้ฟังมามันแล่นไปทั่วเรือนกาย รูปขันธ์นี้ดับ ลมอัสสาสะ ปัสสาสะดับ

.

แน่นอนทีเดียว อาสวะมันก็ดับไปด้วย พออาสวะดับไปสติสมบูรณ์ในโมเมนท์นั้น อวิชชาดับไป พระองค์ท่านถึงตรัส อวิชชานุสัยย่อมดับไปในจตุตถฌาน ลมอัสสาสะ ปัสสาสะ ลมหายใจเข้าออกดับไปในจตุตถฌาน เป็นผู้มีสติสมบูรณ์.


ปิยทัสสี ภิกขุ


==============


เรา คือผลผลิตของเวลา ที่เข้าไปยึดไปติด


Group Sitting 01-09-2567


https://youtu.be/ffs9Vav0WdY

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ธรรมบรรยาย โดย พระอาจารย์นาวี ปิยทัสสีBy Mowakee Forest