ธรรมบรรยาย โดย พระอาจารย์นาวี ปิยทัสสี

ความแตกต่างระหว่าง สักกายทิฏฐิ กับมานะทิฏฐิ Group Sitting 2024-02-11


Listen Later

จิตเนี่ยมันเริ่มมันรับรู้อารมณ์แล้วเนี่ย

ทางทวารทางช่องทางทั้ง ๖ นะ

มันไปรับรู้วิญญาณ

วิญญาณก็ทําหน้าที่รับรู้อารมณ์แต่ละขณะผ่านช่องทางการเห็นได้ยินได้กลิ่นลิ้มรสสัมผัส

ผ่านความคิดนึกนะ ผ่านความคิด

รู้แล้ว เห็นแล้วเนี่ย มันจบลงตรงนั้นไหม จบลงที่การเห็นทางตาการได้ยินทางหู

กระบวนการรับรู้ไม่ได้จบลงตรงนั้น !

กระบวนการรับรู้จะมาจบที่มโนวิญญาณ

พี่พระพุทธองค์ท่านตรัส ที่พระอาจารย์ยกพระสูตรมาบ่อยครั้ง

.

กระบวนการรับรู้มันมีขั้นตอนยังไงมีสเต็ปยังไง

ตาไม่บอด หูไม่หนวกเนี่ย

ก็จะรับรู้นะรับรู้คือตัววิญญาณธาตุ ก็จะทําหน้าที่ไปรู้อารมณ์ทาง

อายตนะหรือว่าทางช่องทางทั้ง ๖

ได้เห็นได้ยินได้กลิ่นลิ้มรสสัมผัส มันจะจบลงที่ความคิดนึกเสมอ

คืออายตนะภายนอก อายนะภายในกระทบกันแล้ว

วิญญาณไปรับรู้อารมณ์นั้นว่า มีคลื่นของอารมณ์

เข้ามาสัมผัสกับจักขุประสาท มาสัมผัสกับโสตประสาทนี่มีธาตุรู้ขึ้นมา

ตัวธาตุรู้ตัวนี้ก็เรียกว่าวิญญาณ

.

รู้อารมณ์ทางการเห็นทางตานี้เรียกว่าจักขุวิญญาณ

รู้อารมณ์ทางหูนี่ เค้าเรียกว่าโสตะวิญญาณ

อายตนะภายนอก อายตนะภายใน

วิญญาณธาตุรู้ธรรม ๓ อย่างนี้ภิกษุทั้งหลายเป็นปัจจัยให้เกิดผัสสะ

.

มาละโลกแห่งความคิด โลกแห่งความนึก

โลกแห่งการเปรียบเทียบ โลกของข้อมูลมาละ

ก็คือก็คือตัวผัสสะ

ผัสสะตัวนี้ ที่เราเคยได้ยินทั่วไปนะ

ผัสสะทางตา ผัสสะทางหู ผัสสะอันนี้ก็ผัสสะเหมือนกันแต่ว่าไม่ใช่ผัสสะที่เป็นปัจจัยให้เกิดเวทนา

ในปฏิจจสมุปบาทที่ว่า "ผัสสะเป็นปัจจัยให้เกิดเวทนา เวทนาเป็นปัจจัยให้เกิดตัณหา"

ผัสสะในปฏิจจสมุปบาทหมายถึงมโนสัมผัสนะ

มโนสัมผัส หรือในพระสูตรใช้คําว่า "สัญเจตนา"

ก็คือจิตไปสัมผัสกับความต่าง ไปสัมผัสกับความหลากหลายของความจํา

มันจำอะไรล่ะความหลากหลาย

มันจําอารมณ์กับความหลากหลายทางอารมณ์


* ปิยทัสสี ภิกขุ *

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ธรรมบรรยาย โดย พระอาจารย์นาวี ปิยทัสสีBy Mowakee Forest