
Sign up to save your podcasts
Or


เกินครึ่งปลื้มผลงาน ปธน. ไล่ชิงเต๋อ ในโอกาสครบ 1 ปี เป็นผู้นำไต้หวัน
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นของพรรค DPP พรรครัฐบาลได้ประกาศผลการสำรวจคะแนนนิยมของประธานาธิบดีไช่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวันในโอกาสครบรอบ 1 ปี การดำรงตำแหน่งผู้นำไต้หวันในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) ปรากฎว่า ประธานาธิบดีไล่ฯ ได้รับความนิยมสูงถึง 57.3% ส่วนผู้ไม่พอใจก็อยู่ที่ 40.2% ในขณะที่นายกรัฐมนตรีจั๋วหยงไท่ ได้รับความพอใจ 45.3% ไม่พอใจ 38.3% ความพอใจสูงกว่าความไม่พอใจ พรรค DPP ระบุว่า ผลการสำรวจดังกล่าวชี้ชัดว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาก แนวนโยบายทั้งด้านสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การคุกคามจากจีน ตลอดจนสถานการณ์ภายในประเทศที่พรรครัฐบาลมีที่นั่งในสภาฯ น้อยกว่ารพรคฝ่ายค้าน ประชาชนทั่วไปมีความพอใจต่อการผลักดันนโยบายของรัฐบาล
ผลสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า ความพึงพอใจต่อการบริหารของประธานาธิบดีไล่ฯ อยู่ที่ 57.3% โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายด้านกลาโหมมีความพึงพอใจสูงที่สุด ขณะที่นโยบายอื่น ๆ เช่น การปกป้องอธิปไตยของไต้หวัน การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และนโยบายเสริมความเข้มแข็งของการป้องกันประเทศโดยภาคสังคม ล้วนมีคะแนนความพึงพอใจเกิน 50% ทั้งสิ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และสตรีให้การยอมรับอย่างชัดเจน แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อการบริหารประเทศของประธานาธิบดีไล่
หานอิ๋ง โฆษกพรรค DPP ระบุว่า ตั้งแต่ประธานาธิบดีไล่ฯ เข้ารับตำแหน่ง คะแนนความพึงพอใจอยู่ในระดับสูงเกิน 50% มาโดยตลอด แม้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โลกต้องเผชิญกับสถานการณ์ใหม่จากนโยบายภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้คะแนนความพึงพอใจของประธานาธิบดีไล่ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 46.7% แต่ก็ยังคงสูงกว่าคะแนนไม่พอใจ จากนั้นรัฐบาลได้เสนอ “5 กลยุทธ์รับมือ” และ “แผนสนับสนุนอุตสาหกรรม” ส่งผลให้ในเดือนพฤษภาคม คะแนนความพึงพอใจฟื้นตัวขึ้นมาแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 57.3% แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสามารถเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสได้สำเร็จ
หานอิ๋ง (ซ้าย) อู๋เจิง (ขวา) 2 โฆษกคนรุ่นใหม่พรรค DPP
ผู้นำไต้หวันให้สัมภาษณ์พิเศษ Nikkei shinbun ในโอกาสครบรอบปีดำรงตำแห่นงผู้นำไต้หวัน
ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ซึ่งกำลังจะดำรงตำแหน่งผู้นำไต้หวันครบรอบ 1 ปี ในวันที่ 20 พ.ค. ศกนี้ ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษสื่อยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น นิคเคอิ ชิมบุน ในประเด็นต่าง ๆ ครอบคลุมทุกมิติทั้งในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับญี่ปุ่น ไต้หวันกับสหรัฐฯ และความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบไต้หวัน รวมทั้งนโยบายทางด้านเศรษฐกิจซึ่งประกอบไปด้วยนโยบายด้านเซมิคอนดักเตอร์ ตลอดจนการรับมือกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจการค้าโลกที่มีการแปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา โดยบทสัมภาษณ์พิเศษนี้ ได้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์นิคเคอิ ซิมบุน ในญี่ปุ่น ฉบับวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีสาระที่น่าสนใจในประเด็นต่าง ๆ
ผู้นำไต้หวันได้กล่าวขอบคุณรัฐบาล รัฐสภา สังคมและภาคเอกชนของญี่ปุ่นที่ให้การสนับสนุนไต้หวันมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นท่านนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันหรืออดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะ หรืออดีตนายกรัฐมนตรีท่านอื่น ๆ ของญี่ปุ่น ล้วนให้การสน้บสนุนไต้หวันอย่างเต็มกำลังความสามารถมาโดยตลอด ชาวไต้หวันกับชาวญี่ปุ่นมีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะอาศัยการสัมภาษณ์พิเศษในครั้งนี้เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างไต้หวันกับญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น กระชับความร่วมมือในอนาคตระหว่างกัน เพื่อความรุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลย์ของทั้งสองประเทศ
ผู้นำไต้หวันได้กล่าวถึงประเด็นการค้าเสรีและสงครามภาษีศุลกากรว่า ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจเสรีภายใต้การนำของประเทศตะวันตกที่มีสหรัฐฯ เป็นหัวหอก ได้นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง โชติช่วงชัชวาลย์ การเมืองมีเสถียรภาพ ขณะเดียวกัน ก็ทำให้ได้รับรู้ถึงแนวความคิดค่านิยมของประเทศตะวันตกด้วย
ผู้นำไต้หวันเห็นว่า ไต้หวันกับญี่ปุ่นล้วนเป็น “นักเรียนตัวอย่าง”แต่บางประเทศมิใช่เช่นนี้ ปัจจุบันวิกฤติที่รุนแรงที่สุดมาจากประเทศจีน อาศัยการลอกเลียนแบบกลไกการค้าเสรี ลอกเลียนแบบ ละเมิดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญา กระทั่งการให้เงินอุดหนุนจากภาครัฐหรือการซับซิไดซื เพื่อให้สินค้าที่ผลิตออกมามีราคาถูกแล้วส่งไปจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการบุกตลาดญี่ปุ่นและไต้หวันด้วย รวมไปถึงประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สร้างความไม่เป็นธรรมทางการค้าขึ้นในขอบเขตทั่วโลก สร้างความระส่ำระสายให้แก่เศรษฐกิจเสรีทั่วโลกที่ร่วมกันสร้างขึ้นมาได้ไม่ง่ายนักในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การค้า สังคม กระทั่งบ่อนทำลายคุณค่าทางสังคม ในช่วงที่ผ่านมา สหรัฐฯ ยินดีที่จะเผชิญหน้ากับความไม่เป็นธรรมทางการค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด และหากจำเป็นไต้หวันก็ยินดีให้ความร่วมมือด้วย
By , Rtiเกินครึ่งปลื้มผลงาน ปธน. ไล่ชิงเต๋อ ในโอกาสครบ 1 ปี เป็นผู้นำไต้หวัน
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นของพรรค DPP พรรครัฐบาลได้ประกาศผลการสำรวจคะแนนนิยมของประธานาธิบดีไช่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวันในโอกาสครบรอบ 1 ปี การดำรงตำแหน่งผู้นำไต้หวันในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) ปรากฎว่า ประธานาธิบดีไล่ฯ ได้รับความนิยมสูงถึง 57.3% ส่วนผู้ไม่พอใจก็อยู่ที่ 40.2% ในขณะที่นายกรัฐมนตรีจั๋วหยงไท่ ได้รับความพอใจ 45.3% ไม่พอใจ 38.3% ความพอใจสูงกว่าความไม่พอใจ พรรค DPP ระบุว่า ผลการสำรวจดังกล่าวชี้ชัดว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาก แนวนโยบายทั้งด้านสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การคุกคามจากจีน ตลอดจนสถานการณ์ภายในประเทศที่พรรครัฐบาลมีที่นั่งในสภาฯ น้อยกว่ารพรคฝ่ายค้าน ประชาชนทั่วไปมีความพอใจต่อการผลักดันนโยบายของรัฐบาล
ผลสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า ความพึงพอใจต่อการบริหารของประธานาธิบดีไล่ฯ อยู่ที่ 57.3% โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายด้านกลาโหมมีความพึงพอใจสูงที่สุด ขณะที่นโยบายอื่น ๆ เช่น การปกป้องอธิปไตยของไต้หวัน การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และนโยบายเสริมความเข้มแข็งของการป้องกันประเทศโดยภาคสังคม ล้วนมีคะแนนความพึงพอใจเกิน 50% ทั้งสิ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และสตรีให้การยอมรับอย่างชัดเจน แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อการบริหารประเทศของประธานาธิบดีไล่
หานอิ๋ง โฆษกพรรค DPP ระบุว่า ตั้งแต่ประธานาธิบดีไล่ฯ เข้ารับตำแหน่ง คะแนนความพึงพอใจอยู่ในระดับสูงเกิน 50% มาโดยตลอด แม้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โลกต้องเผชิญกับสถานการณ์ใหม่จากนโยบายภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้คะแนนความพึงพอใจของประธานาธิบดีไล่ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 46.7% แต่ก็ยังคงสูงกว่าคะแนนไม่พอใจ จากนั้นรัฐบาลได้เสนอ “5 กลยุทธ์รับมือ” และ “แผนสนับสนุนอุตสาหกรรม” ส่งผลให้ในเดือนพฤษภาคม คะแนนความพึงพอใจฟื้นตัวขึ้นมาแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 57.3% แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสามารถเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสได้สำเร็จ
หานอิ๋ง (ซ้าย) อู๋เจิง (ขวา) 2 โฆษกคนรุ่นใหม่พรรค DPP
ผู้นำไต้หวันให้สัมภาษณ์พิเศษ Nikkei shinbun ในโอกาสครบรอบปีดำรงตำแห่นงผู้นำไต้หวัน
ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ซึ่งกำลังจะดำรงตำแหน่งผู้นำไต้หวันครบรอบ 1 ปี ในวันที่ 20 พ.ค. ศกนี้ ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษสื่อยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น นิคเคอิ ชิมบุน ในประเด็นต่าง ๆ ครอบคลุมทุกมิติทั้งในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับญี่ปุ่น ไต้หวันกับสหรัฐฯ และความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบไต้หวัน รวมทั้งนโยบายทางด้านเศรษฐกิจซึ่งประกอบไปด้วยนโยบายด้านเซมิคอนดักเตอร์ ตลอดจนการรับมือกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจการค้าโลกที่มีการแปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา โดยบทสัมภาษณ์พิเศษนี้ ได้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์นิคเคอิ ซิมบุน ในญี่ปุ่น ฉบับวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีสาระที่น่าสนใจในประเด็นต่าง ๆ
ผู้นำไต้หวันได้กล่าวขอบคุณรัฐบาล รัฐสภา สังคมและภาคเอกชนของญี่ปุ่นที่ให้การสนับสนุนไต้หวันมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นท่านนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันหรืออดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะ หรืออดีตนายกรัฐมนตรีท่านอื่น ๆ ของญี่ปุ่น ล้วนให้การสน้บสนุนไต้หวันอย่างเต็มกำลังความสามารถมาโดยตลอด ชาวไต้หวันกับชาวญี่ปุ่นมีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะอาศัยการสัมภาษณ์พิเศษในครั้งนี้เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างไต้หวันกับญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น กระชับความร่วมมือในอนาคตระหว่างกัน เพื่อความรุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลย์ของทั้งสองประเทศ
ผู้นำไต้หวันได้กล่าวถึงประเด็นการค้าเสรีและสงครามภาษีศุลกากรว่า ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจเสรีภายใต้การนำของประเทศตะวันตกที่มีสหรัฐฯ เป็นหัวหอก ได้นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง โชติช่วงชัชวาลย์ การเมืองมีเสถียรภาพ ขณะเดียวกัน ก็ทำให้ได้รับรู้ถึงแนวความคิดค่านิยมของประเทศตะวันตกด้วย
ผู้นำไต้หวันเห็นว่า ไต้หวันกับญี่ปุ่นล้วนเป็น “นักเรียนตัวอย่าง”แต่บางประเทศมิใช่เช่นนี้ ปัจจุบันวิกฤติที่รุนแรงที่สุดมาจากประเทศจีน อาศัยการลอกเลียนแบบกลไกการค้าเสรี ลอกเลียนแบบ ละเมิดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญา กระทั่งการให้เงินอุดหนุนจากภาครัฐหรือการซับซิไดซื เพื่อให้สินค้าที่ผลิตออกมามีราคาถูกแล้วส่งไปจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการบุกตลาดญี่ปุ่นและไต้หวันด้วย รวมไปถึงประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สร้างความไม่เป็นธรรมทางการค้าขึ้นในขอบเขตทั่วโลก สร้างความระส่ำระสายให้แก่เศรษฐกิจเสรีทั่วโลกที่ร่วมกันสร้างขึ้นมาได้ไม่ง่ายนักในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การค้า สังคม กระทั่งบ่อนทำลายคุณค่าทางสังคม ในช่วงที่ผ่านมา สหรัฐฯ ยินดีที่จะเผชิญหน้ากับความไม่เป็นธรรมทางการค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด และหากจำเป็นไต้หวันก็ยินดีให้ความร่วมมือด้วย