"..เมื่อละเหตุให้เกิด ทุกข์ก็ย่อมไม่มี เมื่อเหตุไม่มีทุกข์ก็หมด หมดไปโดยปริยาย ทีนี้ก็หมดแล้วเรื่องราวที่ทำให้เกิดทุกข์อีกต่อไป
.
ถ้ามาเทียบกับปุถุชนทีไม่เคยได้สดับรับฟัง จะทุกข์ที่พร้อมจะเกิดขึ้นมาโดยเหตุปัจจัยรอบด้าน ข้าวไม่อร่อย กินกาแฟยี่ห้อนี้ไม่ได้ เดินทางไม่สะดวก เกิดทุกข์ได้ตลอดเวลา จะแก้ ถ้าเทียบกับในแง่มุมคนอื่นแค่เขามีจะกินได้เขาก็สุขสบายแล้วนะ ทุกข์ที่เราชาวโลกเจอพร้อมจะแปรเปลี่ยนมาเป็นทุกข์ได้ตลอดจะแค่อาหารไม่ถูกปากก็ทำให้ทุกข์ได้ อากาศหนาวก็ทุกข์ได้ ได้อาบน้ำไม่อุ่นก็ทุกข์ได้
.
เมื่อได้มีโอกาสฟังธรรมปฏิบัติธรรม ทุกข์จะค่อยๆน้อยลงปัจจัยภายนอกเริ่มไม่เกี่ยวแล้ว เริ่มเป็นปัจจัยภายในแทน
.
ถ้าเราไล่ลำดับของการหลุดพ้นอยู่ การหลุดพ้นได้ก็มีเหตุปัจจัยอยู่
.
.. เมื่อเราได้รู้จักคบสัตบุรุษ ถ้าในที่นี้ได้รู้จักได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า ได้เข้าไปหาท่านขอฟังธรรมขอศึกษา ตอนนี้ก็ไม่ไกลนะเปิดโทรศัพท์มาก็พบเจอได้ธรรมะมีอยู่ทุกที่เมื่อได้พบสัตบุรุษแล้ว ได้มีโอกาสเข้าไปฟังธรรม ได้ฟังธรรมศึกษาธรรมได้รู้แนวทางการปฏิบัติ ปฏิบัติก็ไม่ใช่ปฏิบัติภายนอก ในเรื่องทางโลกก็กระทำตามปกติใน การปฏิบัติก็จะน้อมนำเข้าใมาสู่ใจ เรื่องภายนอกจะค่อยๆตัดแล้ว ปัจจัยภายนอกเริ่มที่จะละ วาง ดำเนินไปตามปกติเขาแต่ปัจจัยภายในเป็นสิ่งที่ต้องจัดการ
.
.. เมื่อได้ฟังธรรมก็จะเกิดศรัทธา เกิดความเลื่อมใส ในข้ออรรถข้อธรรมที่ได้ศึกษาไว้ เมื่อเกิดศรัทธา จะน้อมนำสิ่งนั้นมาตรึกพิจารณาอยู่ในใจ เรียกว่าเกิดโยนิโสมนสิการการพิจารณาโดยแยบคาย จะเห็นกระบวนการเริ่มจะย้อนกลับเข้ามาสู่ตัวแล้ว จากตอนแรกที่ต้องได้คบสัตบุรุษก่อน ต้องแสวงหา ต้องเอากายไปด้วย เมื่อได้ฟังธรรม ธรรมะก็เริ่มเข้าสู่ใจแล้ว กลับเข้ามาสู่ภายในใจทีละเล็ฏทีละน้อย เกิดศรัทธาเลื่อมใสในจิตใจ ค่อยๆทบทวนธรรมะเกิดเป็นโยโสมนสิการ
.
.. โยโสมนสิการก็เป็นเหตุ เหตุแห่งสติสัมปชัญญะ เริ่มเข้ามาสู่กลางใจทีละเล็กละน้อย
.
.. เมื่อมีสติสัมปชัญญะอยู่ เป็นธรรมที่รักษาและคุ้มครองอินทรีย์ทั้งหลายตาหูจมูกลิ้นกายใจ เกิดเป็นอินทรียสังวรขึ้นมา
.
.. เมื่อสำรวมได้ดีก็เริ่มไม่สอดส่ายออกนอก ก็ประพฤติได้ถูก กระทำทางกายทางวาจาทางใจได้ถูก เกิดเป็นสุจริต 3 ขึ้นมา เป็นกายสุจริตวจีสุจริตมโนสุจริต เมื่อเราสำรวมได้ถูกถย่อมกระทำได้ถูก
.
.. สุจริต 3 ก็เป็นเหตุให้สติปัฏฐาน๔ให้บริบูรณ์ องค์ธรรมก็ทวนเข้ามาสู่ใจ กายใจทีละเล็กละน้อย
.
.. สติปัฏฐาน 4 ที่บริบูรณ์ก็ย่อมเป็นเหตุให้โพชฌงค์ 7 บริบูรณ์
.
.. เมื่อโพชฌงค์ 7 บริบูรณ์ ก็ย่อมยังยังวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์ได้เช่นกัน
.
จะเห็นว่าเป็นธรรมะที่เป็นลำดับขั้น ถ้าเราอยู่ในขั้นไหนก็มาย้อนดูพิจารณาดูได้ว่าในขั้นต่อไปเราจะพัฒนาต่อไปได้อย่างไร
.
สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้ยินได้ฟัง เบื้องต้นก็ต้องหาก่อน เข้าไปหาผู้ที่เขารู้ธรรมะ หรือเราได้ยินได้ฟังแล้วเกิดศรัทธาเลื่อมใสแล้ว ก็น้อมนำธรรมะมาพิจารณาอยู่ในใจ
.
เมื่อได้พิจารณาแล้วก็นำมาลงมือปฏิบัติ จะเดินธรรมไปตามลำดับขั้น จะเห็นธรรมที่เป็นเหตุและธรรมที่เป็นผล เมื่อนั้นเองทุกข์ภายในใจเราจะลดลงไปได้เยอะ เพราะว่าเหตุที่จะก่อให้เกิดความทุกข์ในใจมันหายไปนั่นเอง เมื่อหมดเหตุให้เกิดทุกข์ จิตใจก็ย่อมพบกับความสงบสุขอันจะเป็นปลายทางของทุกจิตวิญญาณได้"
…………………………
ถ่ายทอดธรรมโดย
พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)
ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
เช้า 12 กุมภาพันธ์ 2567
#เหตุแห่งทุกข์ #ละเหตุหมดทุกข์ #ลำดับการพ้นทุกข์ #ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ #พระชยากร #ธรรมอารี
ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree