"..ทุกครั้งที่มีความทุกข์ในชีวิต ก็มีสติได้นี่แหละ เป็นเพื่อนแท้ที่จะไม่มีวันทิ้งกัน

เวลาอยู่กับความรู้สึกตัวก็จะตื่นขึ้นมาจากโลกของความคิด จากโลกของความปรุงแต่งน่ะ

จริง ๆ ความคิดก็ไม่ใช่ผู้ร้ายไม่ใช่ศัตรูที่ไหน เขาก็เป็นธรรมชาติหนึ่งนะ แต่ความเผลอเพลิน..เพลิดเพลินไปกับความคิด เกิดนันทิราคะขึ้นมา มีตัณหาเป็นเพื่อน

มีตัณหาเรียกว่าอยู่อย่างมีเพื่อนสอง ก็จะเกิดเรื่องราวแล้วก็เกิดความดิ้นรนทางใจ ใจก็มีภาระ เป็นทุกข์ขึ้นมา ก็ตื่นขึ้นมาออกจากโลกของความคิด อยู่กับความรู้สึกตัวอยู่ ให้ใจได้ผ่อนคลายสบาย ๆ

บางท่านก็มีใจน้อมมาทางโลกบ้าง ทางธรรมบ้าง

ถ้าจะให้หมั่นน้อมมาทางธรรมมากขึ้นนะ เราก็ต้องเห็นทุกข์ในชีวิตประจำวันให้มาก

ทุกข์ในชีวิตประจำวัน เราก็เห็นได้จากคนรอบข้าง จากเรื่องราวต่าง ๆ ที่เข้ามานะ

..เห็นว่าการเกิดเป็นทุกข์ เห็นเด็กแรกเกิดมาเนี่ย ถ้าเกิดมาแล้ว มีความสุขจริง ก็คงไม่ร้องไห้นะ ..เกิดมา ถ้ามีความสุขก็คงยิ้มไปแล้วนะ เกิดมาก็เต็มไปด้วยความทุกข์

..ถ้าเราย้อนในวัยเด็ก ชีวิตที่ผ่านมา เราก็พบกับสิ่งไม่ชอบใจซะส่วนมาก มองย้อนไป ประสบการณ์ในวัยเด็กกว่าจะโตขึ้นมาได้ ก็มีประสบการณ์อันยากลำบากมากมาย มองย้อนไป ถ้าย้อนกลับไปได้ ก็คงไม่อยากกลับไปทุกข์อีก พอใจไม่อยากกลับไปทุกข์ เขา(ใจ)ก็น้อมมาในทางพ้นทุกข์

..เห็นความแก่นะ เวลาเห็นคนแก่ เดี๋ยวเราก็ต้องแก่บ้างนะ เราก็ต้องแก่เป็นธรรมดา ถ้าน้อมไปวันหนึ่งก็ต้องแก่ ก็เลือกเอานะจะเป็นคนแก่แบบไหน จะอยู่เป็นคนแก่อย่างสงบร่มเย็น เราก็ฝึกกันตั้งแต่ตอนนี้นะ อย่างไรความแก่ก็ต้องมาแน่

..มีคนเจ็บเดินผ่านมา เจ็บป่วยเดินผ่านมา เราก็เห็นว่าวันหนึ่งเราก็ต้องเจ็บ ไม่มีใครจะแข็งแรงตลอดชีวิตนะ วันหนึ่งก็ต้องเข้าโรงพยาบาลกัน หรือไม่บางทีก็อาจจะเจ็บป่วยอยู่ที่บ้าน

การมีที่พึ่งที่แท้จริง ก็มีพระธรรมเป็นที่พึ่ง พึ่งตน พึ่งธรรม เราก็จะได้น้อมจิตน้อมใจมาฝึกฝนกันตั้งแต่ตอนนี้ ตอนที่ยังมีเรี่ยวแรงมีกำลังในการฝึกฝน เจริญกายคตาสติกันอยู่

..เห็นความตาย เห็นความตายก็ช่วยได้ ช่วยเตือนสติให้เราได้ บางทีเปิดข่าวสารหรือว่ามีคนรอบข้างส่งข่าวมา มีคนเสียชีวิต ทุกครั้งที่มีเรื่องราวเข้ามา สะท้อนกลับเข้ามาภายใน ให้มีปัญญาเห็นว่าวันหนึ่งเราก็ต้องจากโลกนี้ไปนะ จะได้ขวนขวาย อะไรที่เป็นสิ่งที่เป็นอกุศลก็จะได้หมั่นละ อะไรที่เป็นสิ่งที่เป็นกุศลก็หมั่นเจริญ ทำให้มาก เจริญให้มาก จะได้ไม่เป็นผู้ที่ประมาทในชีวิต

..ที่ผ่านมา เราก็พบกับความโศก ความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจกันมามาก มองย้อนไปชีวิตก็ผ่านเรื่องราวทุกข์ ๆ กันมามากแล้ว ก็จะได้น้อมไปในทางธรรม ในทางที่มีความสงบ เป็นอิสระจากกองทุกข์..."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

ค่ำ 21 ตุลาคม 2566

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree